Bruce Almighty (2003)

7 วันนี้ พี่ขอเป็นพระเจ้า

Bruce Almighty Poster
8/10

คะแนน
โกดังหนัง

สนุกไปกับจินตนาการเมื่อคนธรรมดาได้มีพลังเป็นพระเจ้า 7 วัน บันเทิงไปกับมุขฮาๆ สไตล์ Jim Carrey พร้อมกับแง่คิดดีๆ ที่แถมให้ในเรื่อง

หมวดหมู่ : Comedy Fantasy
สัญชาติ : American
กำกับโดย : Tom Shadyac
ความยาว : 1 ชั่วโมง 41 นาที
นักแสดงนำ : Jim Carrey, Jennifer Aniston, Morgan Freeman

คำคมจากภาพยนตร์

“People want me to do everything for that. But what they don’t realize is they have the power.”
“ผู้คนต้องการให้ฉันทำสิ่งต่างๆ เพื่อพวกเขา แต่ที่พวกเขาไม่เคยคิดเลยก็คือ จริงๆ แล้วพวกเขาก็มีพลังเหมือนกัน”

เรื่องย่อ

บรูซ โนแลน นักข่าวภาคสนามในท้องถิ่น ที่เน้นทำข่าวแนวบันเทิงบ้านๆ ให้กับคนดู ซึ่งเขากลับไม่พอใจกับงานที่เป็นอยู่นี้ และคาดหวังว่าจะได้ไปทำรายการในห้องส่งมากกว่า วันหนึ่งเมื่อโอกาสมาถึง เขาถูกส่งตัวไปทำงานข่าวใหญ่ แต่แล้วกลับกลายเป็นโดนตัดหน้าไปเสียก่อน ทำให้เขาต้องสติแตกออกสื่อจนโดนไล่ออก เขาเลยบ่นด่าถึงพระเจ้าที่ไม่เป็นธรรมกับเขาเอาเสียเลย พระเจ้าตัวจริงจึงปรากฏตัวพร้อมกับให้เขาเป็นพระเจ้า 7 วัน ในการทำอะไรก็ได้ ก่อนที่พระเจ้าจะหายไปพักร้อน เขาจึงได้ใช้พลังนั้นเพื่อเติมเต็มความสุขให้กับตัวเอง จนมีเรื่องวุ้นๆ ตามมามากมาย

หนังเรื่องนี้เหมาะกับใคร

สำหรับ Bruce Almighty เหมาะกับคนที่ชื่นชอบผลงานของดาราสายตลกอย่าง Jim Carrey เป็นพิเศษ เพราะเรื่องนี้ก็เป็นอีกเรื่องที่เขาก็ดูจัดเต็มกับบทบาทได้มาก รวมถึงใครที่ชอบหนังตลกประเภทที่พอมีสาระและแง่คิดดีๆ ด้วยก็ยิ่งเหมาะเข้าไปใหญ่ เพราะนอกจากความตลก บันเทิงแล้ว หนังก็ยังมีประเด็นดีๆ ในการมองชีวิตให้กับเราอยู่ไม่น้อย ใครที่เคยดูผลงานเก่าๆ ของ Jim Carrey อย่าง Liar Liar หรือใครที่ชอบหนังตลกน้ำดีอย่าง Click แล้ว ก็น่าจะชอบหนังเรื่องนี้ไปด้วยได้ไม่ยาก

  • สายหนังตลกแง่คิดดีๆ
  • สายหนังตลกบันเทิงเล่นใหญ่
  • สายหนังตลกแฟนตาซี

รีวิว / สรุปเนื้อหา

หนังในสมัยที่ Jim Carrey ยังพอขายชื่อได้อีกเรื่อง และเป็นการร่วมงานกันกับผู้กำกับคู่บุญที่เคยแจ้งเกิดให้เขามาแล้วใน Ace Ventura: Pet Detective ก่อนที่จะสานต่องานด้วยกันอีกใน Liar Liar จนมาสู่หนังพล็อตน่าสนุกในเรื่องนี้ ที่เขาจะได้รับพลังจากพระเจ้า 7 วัน ในการทำสิ่งใดก็ได้ตามปราถนา ยกเว้นแค่บังคับให้คนมารัก ภารกิจสุดป่วนจึงเริ่มขึ้น จากการที่หนังสร้างความบันเทิงให้กับคนดูในการใช้พลังไปกับการควบคุมสิ่งต่างๆ ตามอำเภอใจ ให้ออกมาดูเว่อร์วัง ชวนสนุก ตั้งแต่เรื่องเล็กๆ ไปจนถึงเรื่องใหญ่โตต่างๆ อย่างการดึงดวงจันทร์เข้ามาใกล้โลกขึ้น (บ้าไปไหม 555+)

หลังจากที่หนังสร้างความฮาจากฉากสุดวายป่วงเหล่านี้แล้ว มันก็มีมุมที่ทำให้ บรูซ นั้น ได้เรียนรู้ว่า การมีพลัง และบทบาทหน้าที่การเป็นพระเจ้าของเขานั้น ไม่สามารถทำให้ทุกคนพอใจได้เหมือนอย่างที่เขาเคยบ่นด่ากับพระเจ้าเอาไว้ เพราะมนุษย์ทุกคนต่างก็มีความอยากได้ อยากมี อยากเปลี่ยนตัวเองไปในทางที่ดีขึ้นอยู่ตลอดเวลา โดยที่บางครั้งก็ลืมใส่ใจกับความสุขเล็กๆ น้อยๆ ที่อยู่รอบๆ ตัว แม้กระทั่งเขาเองที่สุดท้ายแล้วจะมีพลังอำนาจล้นฟ้า แต่ก็กลับกลายเป็นว่าทำให้คู่รักของตัวเองมีความสุขไม่ได้ มันเลยมีพาร์ทดราม่าให้แง่คิดกับคนดูได้อย่างน่าสนใจอยู่ไม่น้อยในส่วนนี้ 

จึงไม่แปลกนักหากหลายคนจะชื่นชอบในความบันเทิง พร้อมกับแง่คิดแบบเบาๆ จากในหนังเรื่องนี้ และยกระดับให้มันมีอะไรมากกว่าหนังตลกในแบบทั่วๆ ไปตามสไตล์ของ Jim Carrey แม้ว่าเขาจะยังคงจัดเต็ม เล่นใหญ่ตามแบบฉบับของเขาก็ตาม ส่วนดาราคนอื่นๆ อย่าง Jennifer Aniston ก็ยังคงความสวยไม่สร่าง ส่วนลุง Morgan Freeman ก็ดูเป็นพระเจ้าที่มีมุมเรียบง่ายดี เลยทำให้ Bruce Almighty น่าจะเป็นหนังตลกขวัญใจใครอีกหลายๆ คน แม้ว่า มันจะได้ตลกแบบทำเอาขำลั่น แต่ด้วยพล็อตเรื่องและแง่คิดดีๆ ก็มีมากพอที่ทำให้เราชื่นชมมันได้

เกร็ดจากหนังเรื่องนี้

  • มีในบางช่วงที่ Jennifer Aniston ท็อปฟอร์มจนถึงขนาด ถ่ายทำเรื่องนี้ ควบคู่ไปกับ Along Came Polly และซีรี่ส์ Friends ไปในเวลาเดียวกัน (อะไรจะขยันปานนี้)
  • ต้นฉบับของหนังเรื่องนี้มาจากหนังสือที่มีชื่อว่า “Almighty Me” ที่ออกมาในปี 1991 ซึ่งลิขสิทธิของหนังสือถูกซื้อไปโดยทีมหนึ่งของค่าย Disney ก่อนที่จะออกมาเป็นหนังเรื่องนี้ โดยที่หนังสือ และผู้เขียนอย่าง Robert Baush ไม่ได้ถูกกล่าวถึงในช่วงเครดิตเลย
  • แม้ว่า Morgan Freeman จะได้รับบทพระเจ้าในเรื่องนี้ แต่ในชีวิตจริงนั้นเขากลับไม่เชื่อในเรื่องของพระเจ้าเลย (Agnostic)