Atomic Blonde (2017)
บลอนด์ สวยกระจุย
คะแนน
โกดังหนัง
นี่มันคือ John Wick เวอร์ชั่นผู้หญิงที่ดุเดือดอัดแน่นไปด้วยฉากแอ็คชั่นที่สร้างสรรค์ออกมาได้สวยงาม ผู้หญิงก็บู๊ได้เท่ห์ไม่แพ้ผู้ชาย Long Take คือทีเด็ดของหนังเลย
หมวดหมู่ : | Action |
สัญชาติ : | American |
กำกับโดย : | David Leitch |
ความยาว : | 1 ชั่วโมง 55 นาที |
นักแสดงนำ : | Charlize Theron, Sofia Boutella, James McAvoy |
คำคมจากภาพยนตร์
"How well do you know your operatives?"
"คุณรู้จักเจ้าหน้าที่ของคุณดีแค่ไหน"
เรื่องย่อ
Lorraine Broughton สายลับ MI6 ได้รับภารกิจให้ไปยังกรุงเบอร์ลินและร่วมมือกับ David Percival เพื่อสืบหาการตายของเพื่อนร่วมงานของเธอและหาตัวการที่คอยกำจัดสมาชิก MI6 จนนำไปสู่การต่อสู้และการชิงไหวชิงพริบในโลกจารชนสุดอันตราย
หนังเรื่องนี้เหมาะกับใคร
สำหรับ Atomic Blonde เป็นหนังแอ็คชั่นที่โคตรมันส์ ยิ่งถ้าคุณชอบหนังแอ็คชั่นที่เน้นฉากต่อสู้เยอะๆบรรยากาศวังเวง มีฉาก Long Take เรื่องนี้ละตอบโจทย์ ไม่คิดว่าจะได้เห็น Charlize Theron เล่นฉากแอ็คชั่นได้มันส์สะใจแบบนี้มาก่อน ก่อนหน้านี้เธอเคยเล่นหนังแอ็คชั่นแต่กลับโชว์ศักยภาพออกมาได้น้อยมากๆ แต่พอเรื่องนี้มาอยู่ในมือของ David Leitch ผู้กำกับ John Wick ภาคแรกมันพลิกโฉมหน้าไปทันที หนังใช้ฉากแอ็คชั่นออกแบบการต่อสู้สไตล์ผู้หญิงได้งดงาม หนังสามารถบาลานซ์เรื่องราวของสายลับยุคสงครามเย็นได้ทันสมัยมากๆ
รีวิว / สรุปเนื้อหา
ถ้ามองว่าหนังแอ็คชั่นเดือดกลิ่นอายแบบ John Wick เรื่องนี้ติดโผแบบไม่ต้องสงสัย ช่วงแรกของหนังยังไม่ค่อยน่าสนใจเท่าไหร่ แต่พอถึงการสืบเสาะไขปมปริศนา พล็อตเรื่องเลยเป็นการต่อสู้ของผู้หญิงที่ต้องใช้ทักษะที่มีเอาชีวิตรอดในดงสงครามเย็นที่เต็มไปด้วยผู้ชายที่เลือดเย็นอันตราย หนังทำให้ผู้คนได้สัมผัสถึงความเป็นผู้หญิงที่แข็งแกร่งฉลาดมีไหวพริบต่อสู้ได้ไม่แพ้ผู้ชาย และอาจจะน็อคผู้ชายเลยก็ได้ พอเล่าเรื่องผ่านสายลับผู้หญิงมีความน่าสนใจมากๆ หนังเองก็ไม่ขายความถึกของผู้หญิง แต่เน้นการปะทะการต่อสู้จู่โจมแบบรวดเร็วฉับไว เตะข้อเท้า เสยใต้คาง พยายามหาเป้าหมายเพื่อเล่นงานศัตรูแบบที่ไม่ได้ต้องเน้นใช้พลังทางร่างกายที่เยอะ ผลลัพธ์ที่ได้คือภาพของหนังได้ซีนแอ็คชั่นที่รวดเร็ว ไม่เวอร์จนเกินไป ร่างกายสะบักสะบอมมากกว่าจะเอาตัวรอดออกมาได้ การออกแบบได้ภาพเคลื่อนไหวได้ดีมากๆ มันทำให้คนดูได้เห็นซีน Long Take ที่คุณภาพมันเดือดดาลมากๆ ยิ่งพอเป็นผู้หญิงก็พิสูจน์แล้วว่าหนังเรื่องนี้วางจุดขายได้ดีมากๆ
หนังทำฉากแอ็คชั่นออกมาได้ดีแล้ว บทหนังเองก็ทำให้บรรยากาศดูไม่น่าไว้ใจเลยสักนิด แถมยังตั้งคำถามว่าใครกันแน่คือหนอนบ่อนไส้ โทนเรื่องมันดูอันตรายไปหมด แน่นอนว่ามันคาดเดาอะไรไม่ได้เลย ซึ่งตรงนี้สื่อสารออกมาได้ดีมากๆ ประกอบกับการนำเสนองานภาพทำออกมาได้มีเสน่ห์มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวไม่เหมือนใคร จุดที่น่าสนใจคือการปรับเฉดสีโทนภาพที่ดูสะดุดตา โทนสีตัดเย็นร้อนที่ทำให้มีสไตล์นีออนนัวร์ จำพวกฟิล์มนัวร์ที่ใช้แสงแบบไฟนีออนสร้างบรรยากาศขึ้นมาก ตามมาด้วยการใช้ซาวด์ประกอบหนังที่เลือกเพลงได้เข้ากับซีนที่นางเอกต้องออกไปบู๊มันบิ้วอารมณ์คนดูให้รู้สึกสนุกกับเนื้อหา มันทำให้หนังเรื่องนี้ได้ Feel แอ็คชั่น สายลับ นักฆ่า ไขปริศนาไปพร้อมๆกัน ซึ่งมันแปลกใหม่ดีเพราะหนังแบบนี้ยังไม่มีใครกล้าฉีกแนวแบบนี้มาก่อนในยุคปัจจุบัน
การแสดงของ Charlize Theron ที่ทุ่มเทแสดงฉากแอ็คชั่นเองที่ทำให้เธอฟันหัก เล่นใหญ่แต่คุ้มค่าได้ภาพที่สวย ไม่คิดว่าจะได้เห็นเธอกลับมาบู๊แบบนี้อีกครั้ง เรียกว่าดีกว่าใน Fast ที่ไปรับบท Cipher อีก เรื่องนี้ได้ออกโรงฉายเดียวแบบเต็มที่ ชอบซีนขุ่นแม่ในแสงไฟนีออนคือสวยงามมาก ดึงเสน่ห์ของนางออกมาหมดเลยจ้าเลยทำให้ผู้ชมได้เห็นซีนแอ็คชั่นคุณภาพ ส่วนข้อเสียด้านอื่นๆคือหนังต้องจดจ่อกับการดูมากๆ เพราะหนังมีบทเฉลยที่คาดไม่ถึง หรือกลยุทธ์ของหนังที่ทำในสไตล์สงครามเย็นมันน่าเสียดายเหมือนกันที่วัฒถุดิบของหนังเรื่องนี้ใช้ได้ไม่คุ้มค่าอย่างที่ควรจะเป็น เพราะหนังเป็นหนังสายลับแต่การเล่าเรื่องมันไม่ค่อยมีเสน่ห์สักเท่าไหร่
เกร็ดจากหนังเรื่องนี้
- Charlize Theron ฝึกคิวบู๊พร้อมกับ Keanu Reeves นานกว่า 7 เดือนเพื่อไปถ่ายทำหนังเรื่องนี้
- Charlize Theron ชอบ John Wick ภาคแรกมากเลยตัดสินใจจ้าง David Leitch มากำกับหนังและช่วยออกแบบคิวบู๊
- Sam Hargrave ผู้กำกับ Extraction มาแสดงและเป็นสตั๊นแมนหนังเรื่องนี้ด้วย