Aladdin (2019)

อะลาดิน

Aladdin Poster
8/10

คะแนน
โกดังหนัง

ยกระดับงานสร้าง Live Action สไตล์ Disney ฉีกกรอบให้เป็นมากกว่าหนังยึดโยงโครงเรื่องจากหนังการ์ตูน สร้างความเพลิดเพลินไปตลอดรอดฝั่ง

หมวดหมู่ : Fantasy Romantic
สัญชาติ : American
กำกับโดย : Guy Ritchie
ความยาว : 2 ชั่วโมง 8 นาที
นักแสดงนำ : Mena Massoud, Will Smith, Naomi Scott

คำคมจากภาพยนตร์

"Our greatest challenge isn't speaking up against our enemies, but defying those whose approval we seek the most."
"ความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเราไม่ใช่การพูดต่อต้านศัตรู แต่เป็นการท้าทายผู้ที่เราขอความเห็นชอบมากที่สุด"

เรื่องย่อ

เรื่องราวแสนมหัศจรรย์ของเด็กหนุ่มหัวขโมยข้างถนนอย่าง อะลาดินผู้บังเอิญกลายเป็นนายของ จีนี่ ยักษ์ในตะเกียงวิเศษ อะลาดินขอพรให้ตัวเองกลายเป็นเจ้าชายรูปงาม เพื่อพิชิตใจเจ้าหญิง จัสมิน ทว่า จาฟาร์ พ่อมดที่ปรึกษาของสุลต่านซึ่งเป็นพ่อของจัสมิน ไม่ยอมให้แผนของอะลาดินสำเร็จง่าย ๆ เมื่อตัวเองก็หวังจะยึดอำนาจที่ล้นเหลือจากจีนี่มาเป็นของตน

หนังเรื่องนี้เหมาะกับใคร

สำหรับ Aladdin เป็นหนังที่ดูสนุกสนานเพลิดเพลินเพราะดัดแปลงมาจากการ์ตูนชื่อดังที่พูดถึงเรื่องราวการผจญภัยที่มาพร้อมกับความหรรษาวายป่วงจากการพรกลายเป็นความสนุก ผ่านการนำเสนอเรื่องของ ภาพลักษณ์ ชนชั้น ฐานะ และอำนาจ ที่ผู้คนต่างหมายปอง หนังพูดถึงคุณค่าของชีวิตจริงๆนั้นมาจาก จิตใจ และตัวตนที่อยู่ภายในที่ไม่สามารถปลอมหรือปรุงแต่งขึ้นมาได้เหมือนกับภาพลักษณ์ภายนอกที่ตนเนรมิตขึ้นมา หนังตีความตรงนี้ออกมาได้ดีมากๆ เวอร์ชั่นนี้ทำออกมาได้แบบน่าดูไม่ได้ทำเพื่อเด็กหรือแฟนๆสาย Disney แต่เนื้อหามตีโจทย์ไปในวงกว้างเข้ากับสังคมมุสลิมและกลุ่มคนทั่วไป ผลลัพธ์ของหนังจึงไปได้สวยในแง่ของรายได้

  • สายหนัง Disney
  • สายหนังมิวสิคัล
  • สายหนังที่ชอบวัฒนธรรมยุคเก่า

รีวิว / สรุปเนื้อหา

สิ่งที่ทำให้หนังน่าสนใจคือการที่ผู้กำกับ Guy Ritchie เก๋าประสบการณ์มากพอ เขาเลือกจะทำบทหนังเองพิถีพิถันเพื่อหาจุดลงตัวและต้องทำให้ดีกว่าการ์ตูน ที่ไม่ใช่แค่ทำให้เด็กดู แต่หนังต้องตีโจทย์ไปยังวงกว้างคนทั่วไปดู และต้องมี Message ที่คมคายพูดถึงความเหลื่อมล้ำทางสังคม ซึ่งหนังจึงเป็นมากกว่าหนังในโลกแฟนตาซี หัวใจหลักของเรื่องนี้คือเรื่องสังคมชนชนชั้นวรรณะความแตกต่างระหว่างชาวบ้านกับคนในวัง พระเอกเป็นเสมือนคนระดับล่างที่ไร้โอกาสได้ยืนในสังคมที่สูง เขาเป็นเหยื่อที่ต้องทดกับการเป็นหัวขโมยไปวันๆ ไม่มีความหวังที่จะไปอยู่ในสังคมที่ดีกว่านี้ได้ ทำได้แค่มีอาหารประทังชีวิตไปวันๆ ไม่มีใครความคิดมักใหญ่ใฝ่สูงจะไปคว้าหัวใจเจ้าหญิงมาครองได้ แต่ในอีกมุมหนึ่งหนังเรื่องนี้ก็ทำให้เราได้เห็นว่า สถานะทางสังคม จะเป็นคนที่เรียกตัวเองว่า เจ้าชาย ที่มีสถานะที่สูง หรือจะเป็นโจร ที่ดูต้อยต่ำ แต่สุดท้ายคุณค่าความเป็นคนไม่ได้วัดกันที่คุณเป็นใคร มีหน้าตาทางสังคมแบบไหน หนังจะค่อยๆทำให้เราเห็นว่า วรรณะเหมือนเป็นการตัดสินคนไปแล้ว ว่าคนนี่ไม่เหมาะไม่คู่ควรคนนี้ไม่ดี ซึ่งภาพของพระเอกอย่าง อะลาดิน ก็เป็นโจรเพราะเขาไม่มีทางเลือกจะหาหนทางหาข้าวกินไม่งั้นก็อดตาย ทั้งที่จิตใจตัวตนเขากลับเป็นคนดีซะด้วยซ้ำ จุดนี้เองมันสะท้อนให้เราเห็นว่าไม่ว่ายุคสมัยไหน โลกใบนี้ยังวัดคนจากเปลือกนอกอยู่วันยังค่ำจริงๆ

หนังเรื่องนี้พิสูจน์แล้วว่าเลือกคนที่ใช่ยังไงไปรอดแน่ๆ ซึ่งก็เป็นแบบนั้นจริงๆผู้กำกับเอง ก็ยังใส่ความบันเทิงใส่ความสนุกลงไป ผ่านการเล่าเรื่องที่พูดถึงโลกที่เต็มไปด้วยผลประโยชน์ ที่เราจะได้เห็นผู้ชาย ต้องหาหลายๆสิ่งหลายอย่างเป็นค่าตอบแรง เพื่อเป็นเครื่องยึดเหนี่ยว สร้างคอนเน็คชั่น สร้างพันธมิตรและสุดท้ายยุคสมัยก่อน ผู้ชายคนที่เป็นใหญ่ก็ส่งผู้หญิงเป็นของกำนัล เป็นเหมือนค่าตอบแทน โดยไม่สนใจความรู้สึกของผู้หญิง สิ่งที่หนังมอบจึงไม่ใช่แค่ประเด็น ชายเป็นใหญ่ หรือผู้หญิงที่ดูฉลาด วางตัวดี แต่หนังเองก็ยังพยายามทำให้เห็นว่าผู้หญิงตัวละครอย่าง จัสมิน ก็พร้อมจะต่อสู้เพื่อลดช่องว่างความเหลื่อมล้ำของหญิงและชายที่อยากจะให้เกิดความเท่าเทียมสักที Guy Ritchie หยิบสไตล์ทำหนังที่ถนัดมาตีความเป็นฉากหลัง แล้วค่อยๆ ใส่ความสนุกลงไป จังหวะอารมณ์ หรือเสียงเพลงสกอร์ มาบิ้วอัพ ทำให้ฉากเต้นบันเทิงมาก หนังมีเสน่ห์มากที่ลบคำครหาจากใครต่อใครก่อนหน้านี้ว่าไม่น่าไปรอด จนกลายเป็นหนังทำเงิน เมื่อมองย้อนกลับไป คือการจัดวางเรื่องราว การถ่ายภาพของหนัง โปรดักชั่นคือจุดที่ทำได้แตกต่างจากหนัง Live Action เรื่องอื่นๆของ Disney ไปเลย

เสน่ห์ของหนังอีกมุมหนึ่งก็คงหนีไม่พ้นบรรดานักแสดงนำนี่แหละที่แคสติ้งเลือกมาได้เหมาะ ผู้กำกับสายตาแหลมคมที่เอาประสบการณ์ตัวเองเป็นเดิมพันเลือกคนที่ใช่จริงๆ ทำให้พระเอกนางเอก พระรอง ตัวรอง มีไดอาล็อคที่น่าจดจำ Mena Massoud ที่เล่นเป็นอะลาดิน ไม่ต้องเลือกคนที่หล่อ แต่เป็นคนแบบซื่อๆจริงใจ  ได้เห็นความเป็นโจรที่เอาตัวรอด หรือการต่อสู้เพื่อจะได้หัวใจเจ้าหญิงจัสมิน, Naomi Scott  สวยสง่างามเป็นหญิงแกร่งไม่คิดว่านางอยู่ในชุดส่าหรีดูดีจนไม่กล้าละสายตาไปไหน ตอนนั้นเป็นการกู้ชีวิตเธอหลังจากผลงานเรื่องก่อนไม่ปังอย่างที่หวัง และบทจัสมินก็ทำให้เธอมีฐานแฟนคลับที่เพิ่มขึ้น อีกคนที่ไม่พูดไม่ได้ก็คงเป็น Will Smith ในกลุ่มนักแสดงเขาคือเบอร์ใหญ่สุดในเรื่อง กลายเป็นคนที่ขโมยซีนไปเต็มๆ ไม่คิดว่าการเป็นยักษ์จินนี่ งัดทักษะความเป็นนักแสดงสายคอมเมดี้สร้างสีสันแต่ในเวลาเดียวกันก็มีฉากดราม่า คือแบบถ้าไม่จริง Guy Ritchie ไม่ขอค่ายหนังให้กลับมาเล่นภาค 2 แน่ๆ นอกจากนี้แล้วหนังเองก็ยังให้ความสำคัญนักแสดงเชื้อสายมุสลิมให้มาโลดแล่นบนจอจริงๆ ทั้ง Marwan Kenzari, Navid Negahban และ Nasim Pedrad คือผู้กำกับเลือกทำหนังเนื้อหาดี ตัวละครที่เหมาะสมไม่ละเลยโครงเรื่องต้นฉบับ

เกร็ดจากหนังเรื่องนี้

  • Guy Ritchie ใช้เวลา 3 ปี ทำบทหนังศึกษาทุกอย่างเพื่อทำหนังขายคนดูที่มากกว่าเด็ก
  • หนังใช้เวลาถ่ายทำ 5 เดือน
  • Dev Patel และ Riz Ahmed เกือบได้เล่นบท Aladdin
  • เพราะซีรีส์ Jack Ryan ทำให้ Mena Massoud ได้มาแคสต์หนัง Aladdin