เรื่องย่อ

ชมิดด์ และแจนโค คู่หูสายสืบนอกเครื่องแบบ ที่รู้จักกันมาตั้งแต่สมัยเรียนมอปลาย จนได้กลายมาเป็นเพื่อนซี้กัน วันหนึ่งทั้งคู่ได้รับมอบหมายจากหัวหน้าของพวกเขาให้ปลอมตัวกลับไปเป็นนักเรียนมอปลายอีกครั้ง เพื่อสืบหาว่าพ่อค้ายาที่เป็นต้นตอของการแพร่กระจายยาในโรงเรียนเป็นใคร ก่อนที่ยาเสพติดเหล่านี้ จะแพร่กระจายไปยังโรงเรียนอื่นๆ แต่แล้วพวกเขาก็พบว่า โลกในโรงเรียนมอปลายมันเปลี่ยนไปแล้ว จากประสบการณ์ที่พวกรับรู้มาก็ดูกลับตาลปัตรไปหมด พวกเขาจึงต้องปรับตัวและทำคดีนี้ให้สำเร็จให้ได้

หนังเรื่องนี้เหมาะกับใคร

สำหรับ 21 Jump Street นั้น จะเหมาะกับคนที่ชอบหนังตำรวจคู่หูที่เน้นโทนตลกอยู่ไม่น้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับคนที่มองหาหนังอารมณ์ดี จากดาราที่มีเคมีเข้ากันอย่าง Channing Tatum และ Janah Hill แล้ว นี่คือหนังที่จะตอบโจทย์ได้อย่างดี ด้วยพาร์ทสืบสวนที่สนุก ประเด็นเรื่องยาเสพติดในวัยรุ่นกับยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลงไปก็ทำออกมาได้น่าสนใจ จนเรียกได้ว่าจะดูเอามันส์ก็ได้ เอาฮาก็ดี และเป็นอีกหนึ่งสายตำรวจคู่หูแอคชั่นคอเมดี้อีกเรื่อง ที่ทำมาสนุกได้ไม่แพ้ เรื่องอื่นๆ อย่าง The Heat, The Other Guys เลย ซึ่งหากใครชอบ 2 เรื่องนี้แล้ว 21 Jump Street อาจดูมีชั้นเชิงในการเล่ามากกว่าด้วยซ้ำไป

• สายหนังคู่หูตำรวจสุดฮา
• สายหนังตำรวจปลอมตัว
• สายหนังแอคชั่นคอเมดี้

รีวิว / สรุปเนื้อหา

อีกหนังตำรวจคู่หูปลอมตัวที่ตอนแรกคิดว่าจะออกมาเหมือนๆ เดิมแบบที่ผ่านมา แต่แล้วมันกลับมีมุมมองสนุกน่าสนใจ ในแง่ที่พวกเขาต้องกลับไปในวัยเรียนอีกครั้ง พร้อมๆ กับสภาพสังคมที่เปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย จนทำให้มันมีพื้นทีในการเล่าอะไรอีกมาก และเพิ่มโอกาสในการปล่อยมุขสไตล์ Highschool ออกมาได้อย่างสนุกสนาน ด้วยอดีตของตัวละครอย่าง ชมิดด์ ที่สมัยนั้น เป็นเด็กเนิร์ดตุ้ยนุ้ยใส่เหล็กดัดฟัน จึงกลายเป็นเป้าหมายของการโดนแกล้ง และไม่ได้รับการยอมรับมาโดยเสมอ ต่างกับ แจนโค ที่มีมาดคูล ป็อปปูล่าร์ในสมัยนั้น และมองการรังแก ชมิดด์ เป็นเรื่องสนุกมาโดยเสมอ

แต่พอการกลับไปของพวกเขารอบนี้ มันทำให้พวกเขาเห็นถึงโลกที่กลับด้าน เมื่อ ชมิดด์ นั้นกลายเป็นบุคคลที่มีความป็อปกว่าในยุคนี้ และการทำตัวเกเรของแจนโคก็ไม่ได้รับการยอมรับอีกต่อไปแล้ว นี่จึงเป็นอีกประเด็นน่าสนใจที่หนังใส่เข้ามาเพื่อดึงดราม่า และเพิ่มสาระให้กับหนังได้อีกด้วย นอกจากนี้ในแง่ของความฮานั้น ก็เรียกได้ว่าจัดเต็มได้อย่างเต็มสูบ ด้วยเคมีที่เข้ากันของนักแสดงทั้งคู่ ที่ต่อมุข ชง ตบ ขยี้ เข้ากันได้เป็นอย่างดี ในส่วนที่ต้องปรากฏตัวในฉากเดียวกัน ก็รู้สึกได้ถึงมิตรภาพของพวกเขา เลยทำให้เวลาเล่นมุขอะไรก็มักจะเข้าเป้าและเรียกเสียงฮาให้กับคนดูได้อยู่เสมอ

แม้ว่าหนังจะได้แปะ Rate R มาครอง แต่หนังก็ไม่ได้มุ่งเน้นที่จะเล่นแต่มุขใต้สะดือให้ชวนอึดอัดใจ เพราะมุขตลกส่วนมากในหนังนั้น มักจะมาจากบทพูด การต่อมุขสุดฮา หรือความตลกจากสถานการณ์เสียมากกว่า เลยทำให้มันมีชั้นเชิงในการเล่าการเล่น มากกว่าหนังตลกห่วยๆ ทั่วไป อีกทั้งในพาร์ทสืบสวนก็ทำออกมาได้น่าติดตามดี บรรดาตัวละครประกอบที่เหลือก็ต่างออกมาสร้างสีสันและเรียกเสียงหัวเราะให้กับคนดูได้ไม่แพ้กัน เลยทำให้มันน่าจะเป็นหนังแนวสายลับคู่หูแอคชั่นคอเมดี้อีกเรื่อง ที่มอบความบันเทิงให้กับคนดูได้แบบสุดตัวดีจริงๆ