5 เหตุผลทำไม Begin Again ถึงเป็นหนังดนตรีที่ควรดูสักครั้งในชีวิต
หากจะนึกถึงหนังแบบ Feel Good ดีๆ สักเรื่องโดยที่ไม่ได้โลกสวยจนเกินไป ย่อมต้องมีหนังอย่าง Begin Again โผล่ขึ้นมาแน่ๆ ด้วยความที่มันเป็นหนัง Rom-Com ในแบบที่ไม่ได้เน้นในเรื่องของความรักมากนัก แต่กลับพูดถึงความธรรมดาของชีวิตมนุษย์ออกมาได้อย่างกลมกล่อมและลงตัว จึงไม่แปลกนักที่มันจะกลายเป็นหนังในดวงใจใครหลายๆ คนและถูกพูดถึงมาอยู่จนถึงทุกวันนี้ โดย Begin Again เป็นผลงานการกำกับของ John Carney ที่เชี่ยวชาญด้านการทำหนังแนวดนตรีอินดี้เป็นอย่างมาก
ซึ่งใน Begin Again ก็เล่าเรื่องของ แดน โปรดิวเซอร์ตกอับ เพราะไม่เอนจอยกับศิลปินและแนวเพลงใหม่ๆ อีกแล้ว วันหนึ่งเขาได้บังเอิญมาพบกับ เกรต้า สาวที่มีเสียงไพเราะ กับแนวเพลงในแบบที่เขาตามหา แดน จึงชวนเธอให้ได้มามีโอกาสมาทำงานร่วมกัน ซึ่งในขณะนั้น เกรต้า เองก็เพิ่งเลิกรากับแฟนหนุ่มที่มาทำตามฝันด้วยกัน แต่ด้วยความโด่งดังของอีกฝ่าย ประกอบความสัมพันธ์ที่เปลี่ยนแปลงไป เลยทำให้ เกรต้า แยกออกมาพอดี และได้ลองตัดสินใจร่วมงานกับแดน จนก่อให้เกิดเป็นความสัมพันธ์ที่ชวนประทับใจ
วันนี้โกดังหนังเองจึงอยากพาผู้อ่านทั้งที่เคยดูและยังไม่เคยดูหนังเรื่องนี้ มาลองดูเหตุผลกันว่า เพราะเหตุใดมันจึงเป็นหนังดนตรีดีๆ ที่ควรได้ดูสักครั้งในชีวิตกัน
หนังที่มีมุมมองว่า อย่าไปยึดติดกับความสำเร็จนักเลย
ในหนังดราม่าส่วนมากนั้น มันมักทำให้เรารู้สึกว่าเราต่อสู้ เราต้องดิ้นรนเพื่อให้ได้มาซึ่งความสำเร็จของตัวเอกในตอนจบตามเป้าหมายที่พวกเขาตั้งเอาไว้ แต่ในทางกลับกันใน Begin Again นั้นกลับไม่มองเป้าหมายและความสำเร็จเป็นสำคัญ เพราะหลายๆ ตัวละครในเรื่องสุดท้ายแล้วต่างก็มีความสุขกับการเดินทางในระหว่างทาง และพยายามที่ปรับตัวใช้ชีวิตต่อไป แม้ว่าจะไม่ได้ทำอะไรออกมาสำเร็จก็ตาม
ทำให้ในตอนจบที่แม้ว่าหลายๆ คนจะบอกว่าจบไม่สวย แต่สุดท้ายชีวิตของแต่ละคนก็ต้องดำเนินต่อไป ซึ่งหากเทียบไปกับฉากแรกแล้ว ก็นับว่าแต่ละคนได้ผ่านการเรียน ความเข้าใจตัวเอง และเดินหน้าต่อไปได้อย่างมั่นคงขึ้น แม้ว่าพวกเขาแต่ละคนนั้นจะยังอยู่ห่างไกลจากความฝันก็ตาม แต่การได้เข้าไปใกล้มันมากขึ้นและได้มีความสุขในชีวิตเพิ่มเท่านั้นก็น่าจะเพียงพอแล้ว
รวมเพลงเพราะๆ ที่หาฟังได้ยากในยุคนี้
หัวใจสำคัญอีกอย่างของ Begin Again ก็คือบทเพลงเพราะๆ ที่แทรกอยู่ในตลอดทั้งเรื่อง ซึ่งก็เป็นแนวเพลงในแบบที่ไม่ค่อยได้ยินในยุคนี้ที่เต็มไปด้วยเพลงแรพ กับเพลงแนวแปลกๆ เท่าไรนัก ดังนั้นมันจึงเสมือนเป็นโอเอซิสสำหรับคนรักบทเพลงสไตล์แบบนี้อย่างแท้จริง อีกทั้งเนื้อเพลงก็เข้ากับหนังมากๆ เพราะล้วนแล้วแต่เป็นเนื้อหาที่เกิดจากประสบการณ์และความรู้สึกนึกคิดของตัวละคร เลยทำให้มันร้อยเรียงออกมาได้สอดคล้องไปกับเรื่องราวมากๆ
ซึ่งความดีงามของเพลงก็ดีจนกระทั่งว่าเมื่อดูจบปุ้บก็ถึงกับไปซื้อแผ่น CD Original Soundtrack มาของหนังมาเก็บกันเลยทีเดียว และถึงทุกวันนี้ก็ยังคงหยิบเอามาฟังและนึกถึงฉากในหนังได้อยู่เรื่อยๆ เลย และก็มีอยู่ช่วงหนึ่งที่ Lost Star ก็เป็นเพลงที่ถูกเปิดซ้ำบ่อยมากๆ ในช่องวิทยุที่เอาฟังตอนนี้ก็ยังรู้สึกดีอยู่เสมอ
ทีมดาราดีๆ ที่ดูเคมีเข้ากันมากๆ
อีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้หนังออกมาให้คนอินได้ขนาดนี้ก็ต้องยกให้เป็นเคมีที่เข้ากันของทีมดาราที่ต่างเคมีเข้ากันดี และเล่นได้เป็นธรรมชาติมากๆ ไม่ว่าจะเป็นตัวละครหลักๆ อย่าง Mark Ruffalo และ Keira Knightley ที่มีโมเมนท์หวานๆ แต่ไม่เลี่ยนได้อย่างชวนอบอุ่นหัวใจ หรือจะเป็นบทลูกสาวของน้อง Hailee Steinfeld ก็น่ารักมากๆ ส่วน Adam Levine เองก็นับว่าสร้างความประทับใจให้คนดูได้มาก แม้ว่าจะเป็นมาเล่นหนังเป็นครั้งแรกก็ตาม ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่ส่งอารมณ์มาถึงคนดูได้เป็นอย่างดี ทำให้เรารู้สึกเชื่อไปกับเรื่องราวและความความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นในหนังมากเลยทีเดียว
กำลังใจดีๆ ให้ลุกขึ้นมาทำบางอย่างอีกครั้ง
แดนคือตัวละครเอกในเรื่องที่เริ่มมาด้วยความตกอับ เป็นชายขี้เมาที่ขี้หงุดหงิดขี้โมโหไปกับทุกเรื่อง จนครอบครัวเก่าก็เอือมระอา ที่ทำงานก็อยู่กับเขาไม่ได้ ขนาดที่เรียกได้ว่าชีวิตล้มเหลวของจริง เพียงเพราะว่าชีวิตเขานั้นดูขาดอะไรไปบางอย่าง ซึ่งนั่นก็คือการได้ทำเพลงในแบบที่ตัวเองหวัง ไม่ใช่แนวเพลงใหม่แบบในยุคนี้ จนกระทั่งเขาก็มาพบสิ่งนั้นในตัวของเกรต้า สาวช้ำรักที่เพิ่งเข้ามาในบาร์ที่เขาอยู่พอดี
การเจอกันในครั้งนี้ทำให้เขาได้มีโอกาสเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง จากแรงบันดาลใจที่จะทำเพลงในแบบที่เขาต้องการ แม้ว่าที่ทำงานเขาจะไม่ได้ให้ความร่วมมือ แต่สุดท้ายเขาก็ดิ้นรนที่จะทำทุกอย่างด้วยตัวเอง ทั้งการจ้างดนตรีเข้ามา มีการถ่ายทำกันแบบดิบๆ แบบ Outdoor ที่ถึงแม้ว่าจะไม่มีอะไรพร้อม แต่เขาก็ได้มีความสุขกับการทำสิ่งนี้ มันทำให้เขาเปลี่ยนเป็นคนละคน จากชายขี้หงุดหงิดก็เริ่มสนุกไปกับทุกอย่างรอบตัว จนลูกสาวก็ให้โอกาสเขาอีกครั้ง มันก้ทำให้เห็นว่าเมื่อคนเรามี Passion ที่จะทำอะไรบางอย่างแล้ว มันก็จะทำให้เราสามารถมีไฟกลับมาทำบางอย่างได้อีกครั้งจริงๆ
เรียบง่าย เข้าถึงได้จนน่าจดจำ
สิ่งที่ทำให้ผู้คนเชื่อมโยงกับ Begin Again และอินไปกับมันได้มากนั้นก็คือการที่หนังมันเน้นความเรียบง่าย การเล่าถึงชีวิตของคนธรรมดา ที่มีเรื่องของอารมณ์ ความผิดพลาด ผิดหวังกันได้ เหมือนอย่าง แดน เองที่ในช่วงต้นเขาเองก็ไม่ใช่คนที่นิสัยดีสักเท่าไร แถมยังอยู่กับคนอื่นยาก แต่เขาก็ค่อยๆ มีการเปลี่ยนแปลงตัวเอง มาในทางที่ดีขึ้นได้ ตัวเกรต้าเอง ที่มาที่เมืองนี้ด้วยความหวัง เพื่อสนับสนุนแฟนหนุ่มที่กำลังจะกลายเป็นซุปตาร์ดัง แต่ชีวิตก็ต้องพลิกผันด้วยเรื่องที่ไม่ทันคาดคิด ก็ทำให้เธอก็ต้องล้มแล้วมาตั้งหลักกันใหม่เช่นกัน
ทั้งหมดนี้มันเลยเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้กับทุกคน ไม่มีใครเพอร์เฟค และปัญหาก็เข้ามาในชีวิตได้เสมอ เพียงแต่ว่าแต่ละคนนั้นจะมีวิธีรับมือ และผ่านมันไปได้อย่างไรบ้าง นั่นเลยทำให้ไม่ว่าใครล้วนแต่ก็เชื่อมโยงกับความเรียบง่าย และความเป็นมนุษย์ของตัวละครได้ทั้งนั้น