FeelGoodMovie_00

รวม 9 หนัง Feel Good ดีต่อใจ ส่งผ่านความรู้สึกดีๆ ข้ามปี 2021

นับเป็นสัปดาห์สุดท้ายของปีนี้พอดี เชื่อว่าหลายๆ คนก็น่าจะผ่านอะไรในปีนี้กันมามาก อะไรๆ ที่ดูเหมือนจะดีขึ้น ก็กลับมามีการระบาดสิ้นปีด้วย โอมิครอน กันอีก ทำให้ดูเหมือนว่าทุกอย่างจะกลับไปเริ่มต้นกันใหม่ ซึ่งคนรักหนังอย่างเราๆ ก็อาจจะลุ้นกันอีกว่าโรงหนังจะปิดอีกไหม แต่ยุคนี้ก็มี Streaming เข้ามาทดแทนมากมาย ทำให้คนที่อยู่บ้าน ก็สามารถมีความสุขกับการดูหนังได้เช่นกัน แต่ถึงอย่างไรส่วนตัวก็รู้สึกว่าความรู้สึกและบรรยากศก็ต่างกันอยู่ดี

แต่ไม่ว่าใครจะผ่านอะไรมาหนักหนาเท่าไร สิ่งที่ทางโกดังหนังจะมอบให้ได้เป็นของขวัญส่งท้ายปีก็เห็นจะเป็นลิสท์หนังฟีลกู้ดที่ดีต่อใจ ทั้ง 9 เรื่อง ที่พยายามเลือกสรรมาให้ จากประสบการณ์และความรู้สึกตัวเอง ว่าเป็นหนังที่หยิบมาดูแต่ละครั้งก็ทำให้เราอิ่มเอมใจ มีกำลังใจ และมีความสุขได้อยู่เสมอ เราก็หวังว่าหนังเหล่านี้น่าจะมอบความสุขให้กับอื่นๆ เช่นกัน ซึ่งหากใครมีเรื่องอื่นๆ ที่ทำให้ตัวเองรู้สึกดีได้ ก็สามารถคอมเมนท์แนะนำกันได้ เผื่อว่าใครอยากจะมีเรื่องอื่นๆ มาส่งต่อความสุขกัน สวัสดีปีใหม่กันทุกคนครับ

About Time (2013) – ย้อนเวลาให้เธอ(ปิ๊ง)รัก

FeelGoodMovie_01

ทิม เลค ชายหนุ่มแสนธรรมดา ที่ในวัย 21 ได้ค้นพบว่าตัวเองมีพันธุกรรมหนึ่ง ที่ผู้ชายในตระกูลนี้จะสามารถย้อนเวลาได้ โดยข้อจำกัดก็คือสามารถย้อนไปในการแก้ไขชีวิตตัวเองได้ แต่ไม่สามารถไปเปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์หรืออะไรได้ เขาเลยมีความตั้งใจจะเอาพลังที่ว่านี้ไปใช้ในการจีบสาวที่เป็นเรื่องยากสำหรับเขา จนกระทั่งวันหนึ่ง เขาก็ได้พบกับ สาวสวยที่ชื่อ แมรี่ เขาได้ใช้พลังการย้อนเวลาวนกลับไปจนจีบเธอติด พร้อมทั้งแก้ไขสิ่งต่างๆ ในชีวิิต แต่แล้ววันหนึ่งเขาก็ต้องพบว่าพลังที่เขามีนั้น กลับส่งผลกระทบกับชีวิตเขามากกว่าที่คิด และในบางครั้งมันก็ไม่ได้ใช้แก้ได้ทุกปัญหาเสมอไป

สำหรับ About Time เหมาะอย่างมากสำหรับคนที่กำลังมองหาหนังฟีลกู้ด มองพลังบวกให้กับชีวิต ทั้งมุมมองด้านความรัก และความสัมพันธ์ในครอบครัว ที่หนังเรื่องนี้มีทุกอย่างที่มองหาเลย เพราะทั่้งพาร์ทความโรแมนติกก็ทำออกมาได้น่ารัก หรือพาร์ทดราม่าก็อบอุ่นหัวใจดี อีกทั้งในพาร์ทของการย้อนเวลาก็ทำออกมาเข้าใจง่ายๆ ไม่ได้เน้นความสมจริงให้มาปวดหัว (ซึ่งหากใครจะมาหาความไซไฟให้มองผ่านไปเลย) จนทำให้มันเป็นหนังรักฟีลกู้ดข้อคิดดีๆ อีกเรื่องที่จะทำให้หัวใจคนดูพองโตได้เป็นอย่างดีหลังดูจบ พร้อมกับน้ำตาแห่งความประทับใจกันได้เลย 

Begin Again (2013) – เพราะรัก คือเพลงรัก

แดน โปรดิวเซอร์ตกอับ เพราะไม่เคยรู้เอนจอยกับศิลปินและแนวเพลงใหม่ๆ อีกแล้ว วันหนึ่งเขาได้บังเอิญมาพบกับ เกรต้า สาวที่มีเสียงไพเราะ กับแนวเพลงในแบบที่เขาตามหา แดน จึงชวนเธอให้ได้มามีโอกาสมาทำงานร่วมกัน ซึ่งในขณะนั้น เกรต้า เองก็เพิ่งเลิกรากับแฟนหนุ่มที่มาทำตามฝันด้วยกัน แต่ด้วยความโด่งดังของอีกฝ่าย ประกอบความสัมพันธ์ที่เปลี่ยนแปลงไป เลยทำให้ เกรต้า แยกออกมาพอดี และได้ลองตัดสินใจร่วมงานกับแดน จนก่อให้เกิดเป็นความสัมพันธ์ที่ชวนประทับใจ

สำหรับ Begin Again เป็นหนังที่เหมาะมากๆ กับคนที่หลงใหลในเสียงเพลง โดยเฉพาะกับแนวป๊อปที่ฟังสบายความหมายดีๆ ที่พอเอาไปประกอบกับการเล่าเรื่องฟีลกู๊ดที่ดูสนุก เรียบง่าย มันเลยออกมาเป็นหนังที่อบอุ่นหัวใจ และพาเอาใจพองโตไปได้ง่ายมากๆ อีกทั้งด้วยความแมสของมันก็ทำให้ตัวหนังเข้าใจง่าย ไม่ต้องตีความเยอะ มีหลากหลายรูปแบบความสัมพันธ์ที่น่าจะชวนคนดูอินไปกับมันได้อยู่ นับว่าเป็นหนังเพลงน่ารักๆ อีกเรื่อง 

Groundhog Day (1993) – วันรักจงกลม

ฟิล คอเนอร์ นักข่าวพยากรณ์อากาศหนุ่มนิสัยเสีย ที่ได้รับมอบหมายให้ไปทำข่าวพยากรณ์อากาศที่เมืองพังซูทาวน์นีย์ รัฐเพนซิลเวเนีย ในวัน Groundhog Day ที่เป็นธรรมเนียมโบราณว่าจะให้ตัวกราวด์ฮ็อกนั้น ออกมาใช้พยากรณ์อากาศต่อหน้าผู้คน ซึ่งเขาเองก็ไม่เต็มใจที่ทำงานนี้เท่าไรนัก แต่เหตุการณ์ประหลาดก็เกิดขึ้น เมื่อหลังจากที่เขานอนค้างในเมืองนี้หลังทำงานเสร็จ ก็ต้องพบว่าเขากลับตื่นขึ้นมาวนเจอวันแบบนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนทำให้เขาต้องหาทางที่จะให้ชีวิตหลุดจากลูปนี้ออกไปให้ได้

สำหรับ Groundhog Day นั้น เป็นต้นแบบของหนังวนลูปอีกหลายๆ เรื่องที่ออกตามหลังมา ด้วยพล็อตเรื่องที่น่าสนใจ ที่ว่าด้วยเรื่องของคนที่ตื่นมาวันใหม่ทีไรก็ต้องพบเจอแต่วันเดิมๆ แถมยังเป็นวันที่เขาไม่ค่อยพอใจเท่าไรอีก อีกหนึ่งหนังดูง่ายๆ ดูสบายๆ อบอุ่นหัวใจในตำนานอีกเรื่องที่พูดถึงหนังวนลูปทีไรก็ต้องมีเรื่องนี้ติดเข้าไปในหมวดอยู่เสมอ ใครที่กำลังมองหาหนังสไตล์ฟีลกู้ดมีแง่คิดดีๆ ให้กับชีวิต ผ่านเนื้อเรื่องที่อบอุ่นดูสบายๆ ที่มีความแฟนตาซีเข้ามาผสมผสานำได้อย่างลงตัว

Love Actually (2003) – ทุกหัวใจมีรัก

หนังรวมความรักของหลากหลายตัวละครที่เกิดขึ้นในช่วงคริสมาสต์ กับความรักหลากหลายรูปแบบ จากหลากหลายเงื่อนไข ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ นายกรัฐมนตรีหนุ่มโสด ที่ตกหลุมรักกับผู้ช่วยของตัวเอง นักเขียนหนุ่ม กับการพบรักกับสาวใช้ที่ต่างภาษา คู่สามีภรรยาที่ครอบครัวดูดี แต่ฝ่ายชายเริ่มปันใจให้หญิงอื่น หนุ่มที่แอบชอบภรรยาของเพื่อนตัวเอง พ่อเลี้ยงที่สอนความรักให้กับลูกชาย สาวอเมริกันสุดเฉิ่มที่ปิ๊งรักกับหนุ่มที่ทำงาน ร็อคสตาร์ที่พยายามกลับสู่วงการ เด็กน้อยกับดาวโรงเรียนในฝัน ที่จะมาเติมเต็มให้ช่วงคริสมาสต์ ให้อบอวลไปด้วยเรื่องของ “ความรัก” แม้ว่ามันจะมีทั้งเรื่องที่สมหวังหรือผิดหวังอยู่บ้างก็ตาม

สำหรับ Love Actually นั้น คือหนังรักดีๆ อีกเรื่อง ที่ผสมผสานเรื่องราวหลากหลายคู่ หลากหลายรูปแบบของความรัก ที่เอาตัดต่อผสมก้ันได้อย่างอบอุ่นหัวใจ  ซึ่งมันจะเหมาะมากๆ กับคนที่ชอบดูหนังรัก หรืออินกับเรื่องราวรักๆ อยู่แล้ว เพราะหนังน่าจะมีเรื่องราวที่โดนๆ ใจเราอยู่บ้างแหละ จากความหลากหลายที่มีของมัน แถมในทุกๆ ช่วงคริสมาสต์มันก็ยังเป็นหนังประเพณีที่คนมักหยิบมาดูกันอยู่ตลอด ซึ่งคนที่ไม่ใช่คอหนังรักก็ยังน่าจะพอดูไหว ด้วยความที่ไม่ได้หวานเลี่ยนจ๋าๆ แต่แฝงด้วยแง่มุมชีวิตที่น่าสนใจ ทำให้มันก็น่าจะเหมาะกับใครหลายๆ คนในวงกว้างอยู่ไม่น้อย

Little Miss Sunshine (2006) – นางงามตัวน้อย ร้อยสายใยรัก

เรื่องราวของครอบครัว Hoover สมาชิก 6 คนที่ต้องโดยสารรถตู้ร่วมกันเพื่อไปส่ง โอลีฟ หลานสาวคนเดียวของบ้านให้ทันการประกวดนางงามรุ่นจิ๋วจากนิว เม็กซิโก เดินทางไปยังแคลิฟอร์เนียเป็นระยะทาง 800 ไมล์ โดยที่ตลอดเส้นทางคนในครอบครัวต่างได้เรียนรู้ความหมายที่แท้จริงในการใช้ชีวิตว่าที่สุดแล้ว การที่มีครอบครัวที่รักเรามีค่ามากกว่าสิ่งอื่นใด

สำหรับ Little Miss Sunshine เป็นหนังแนวดราม่า คอเมดี้ ที่สอดแทรกปัญหาภายในสถาบันครอบครัว เราได้เห็นถึงความขี้แพ้ของทุกๆตัวละครที่ทำอะไรไม่ประสบความสำเร็จสักอย่าง พวกเขามารวมตัวกันเพื่อสานฝันให้หลานสาว บนรถที่ดูไม่สมประกอบเลยสักนิด หนังสื่อสารให้เรารู้ว่าไม่มีใครพ่ายแพ้ในชีวิตไปได้ตลอด เรื่องร้ายๆมีสิ่งดีๆอยู่ เราไม่จำเป็นต้องให้ใครมายอมรับเรา ขอเพียงแค่ใช้ชีวิตให้มีความสุขก็เพียงพอแล้ว หนังให้ความรู้สึก Feel Good มากๆ คนที่ดูเรื่องนี้จะอมยิ้มและมีความสุขเมื่อดูจนจบเรื่อง

Forrest Gump (1994) – อัจฉริยะปัญญานิ่ม

ฟอเรสท์ กัมพ์ ชายที่เกิดมาพร้อมกับไอคิวต่ำ แต่ในช่วงชีวิตของเขากลับได้เดินทางเป็นส่วนหนึ่งของช่วงเหตุการณ์สำคัญต่างๆ ในประวัติศาสตร์ ไม่ว่าจะเป็นสงครามเวียดนาม ภารกิจพิชิตดวงจันทร์ และได้ทำในทุกสิ่งที่ไม่มีใครคิดว่าเขาจะทำได้ แม้ว่าเขาจะเกิดมาด้วยไอคิว 75 แต่นั่นก็ดูเหมือนว่าจะไม่ได้เป็นอุปสสรคในการใช้ชีวิตของเขาแต่อย่างใด เพราะวิถีการใช้ชีวิตของเขานั้นกลายมาเป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้คนได้มากมาย

สำหรับ Forrest Gump นั้น เป็นหนังที่อยากจะแนะนำให้ทุกคนมีโอกาสได้ดูสักครั้งในชีวิต เพราะนอกจากความบันเทิงที่ได้รับตลอดช่วงเวลา 2 ชั่วโมง 22 นาทีแล้ว ในทุกครั้งที่หยิบมาดู มันยังคงให้แง่คิดการใช้ชีวิตดีๆ กับเราอยู่เสมอ นอกจากนี้เรายังจะได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์และเหตุการณ์ในอดีตที่สำคัญอีกด้วย (แต่ต้องแยกให้ออกนะ ว่าอันไหนเรื่องจริงอันไหนเรื่องแต่ง 555+) แต่ข้อแนะนำอย่างนึงสำหรับคนรุ่นใหม่ๆ ที่สนใจหนังเรื่องนี้ คือการพอรู้ประวัติศาสตร์อเมริกันช่วงสักยุค 50s ไปจนถึง 80s สักหน่อยก่อน น่าจะทำให้อินและสนุกไปกับหนังได้มากขึ้น และถ้าชอบหนังดีๆ อย่าง Cast Away, The Terminal, Big ของ Tom Hanks อยู่แล้ว เรื่องนี้ก็ควรจะติดอยู่ในลิสท์ของหนัง Tom Hanks ที่ไม่ควรพลาดเช่นกัน

The Secret Life of Walter Mitty (2013) – ชีวิตพิศวงของ วอลเตอร์ มิตตี้

มิตตี้ ชายวัยกลางคนที่กำลังเบื่อหน่ายกับชีวิตวนลูปที่ซ้ำซากของเขากับการทำงานเดิมๆ และใช้ชีวิตแบบที่ไม่มีอะไรใหม่อยู่ในทุกวันของนิตยสารชื่อดังอย่าง Life ทำให้เขาต้องใช้จินตนาการเพื่อสมมุติว่าตัวเองกำลังออกผจญภัยอยู่เสมอ เพื่อหลุดพ้นจากความน่าเบื่อนี้ แต่แล้ววันหนึ่งเขาก็กลับได้รับมอบหมาย ให้ตามหารูปที่ 25 ที่หายไป เพราะมันจะถูกนำมาใช้ในนิตยสารฉบับสุดท้ายก่อนเข้าสู่ฉบับออนไลน์ เขาจึงต้องออกตาม ฌอน ช่างภาพมือโปรที่เป็นผู้ถ่ายภาพนี้เอาไว้ให้ทันเวลา

หนังฟีลกู้ดอีกเรื่องที่สร้างแรงบันดาลใจในชีวิตได้เป็นอย่าง ทั้งการที่ให้เกิดความกล้าที่จะออกจาก Comfort Zone หลุดจากความน่าเบื่อซ้ำซากจำเจ เพื่อได้ออกไปลองทำอะไรใหม่ๆ ที่จะสามารถเติมเต็มความฝัน และความสดชื่นให้กับชีวิตได้บ้าง แถมฉากต่างๆ ในเรื่องก็ล้วนสวยงาม จนเกิดอีกความรู้สึกที่อยากออกเดินทาง อยากไปเที่ยวแบบ Mitty ได้บ้างเลย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับช่วงโควิดแบบนี้ ที่ทำให้เราไปไหนไม่ได้แล้ว หนังเรื่องนี้จะทำให้เราคิดถึงช่วงเวลาแบบนั้นได้เป็นอย่างดีเลย 

Soul (2020) – อัศจรรย์วิญญาณอลเวง

โจ การ์ดเนอร์ ครูสอนเปียโนธรรมดาที่ใฝ่ฝันอยากเป็นนักดนตรีมืออาชีพบรรเลงเพลงแนวแจ๊ส แต่ความเป็นจริงกลับเป็นแค่ครูสอนดนตรีโรงเรียนมัธยม ทว่าเขากลับไร้โอกาสพิสูจน์ตัวเอง และจากไปก่อนวัยอันควรเสียก่อน และระเหินไปเป็นวิญญาณในอีกโลกหนึ่ง และมาจับคู่กับ วิญญาณหมายเลข 22 ที่รับหน้าที่เป็นพี่เลี้ยง โดยคู่ตกลงกันเพื่อหาหนทางกลับไปยังโลกมนุษย์เพื่อให้ โจ กลับคืนร่างเดิมเพื่อให้เขาได้กลับไปสานฝันที่เขาอยากทำแต่ไร้โอกาศ

สำหรับ Soul คือ Animation ที่อยากแนะนำสำหรับคนที่กำลังหา Animation แบบดีๆ เติมพลังให้ชีวิตหากหมดแรงจูงใจท้อแท้สิ้นหวัง เพื่อจะได้กลับมาค้นหาความหมายที่แท้จริงอีกครั้ง เนื้อหานำเพลงแจ๊สมาร้อยเรียงให้เข้ากับชีวิตคนว่าเราควรสานฝันทำสิ่งที่เรารักสิ่งที่ใช้ หนังเนื้อหาลึกซึ้งกินใจ เหมาะกับกลุ่มคนที่อายุใกล้ 30 อัพที่ยังค้นหาตัวเองไม่เจอหรือไม่รู้ว่าชีวิตต้องการอะไรกันแน่

The Pursuit of Happyness (2006) – ยิ้มไว้ก่อนพ่อสอนไว้

คริส เซลล์แมนขายเครื่องสแกนกระดูก ที่มีชีวิตที่ค่อนข้างเรียบง่ายกับครอบครัว แต่วันนึงหายนะก็มาเยือน เมื่อเครื่องสแกนกระดูกที่เขาลงทุนไปนั้น กลับขายไม่ดีเหมือนเก่า จนทำให้เงินทุนจมไปแทบทั้งหมดและเกิดปัญหาทางการเงินตามมา แม้แต่ภรรยาก็ยังตีจากแยกทางกันไปเพราะรับภาระไม่ไหว คริสจึงต้องกระเตงลูกชายออกมาเพื่อพยายามขายเครื่องสแกนกระดูกต่อไป แต่ดูแล้วก็แทบไม่มีหวัง เขาจึงปรับเปลี่ยนแนวคิดใหม่ เพื่อมุ่งสู่งานสาย Broker ตามบุคคลที่เป็นตัวอย่างความสำเร็จ ท่ามกลางอุปสรรคต่างๆ ในชีวิตที่ถาโถมเข้ามา

สำหรับ The Pursuit of Happyness เหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่มองหาหนังสร้างพลังบวกในชีวิต เติมไฟในการสู้ชีวิต ในการทำงาน ทำธุรกิจหรืออะไรก็ตาม เพราะบทในหนังคือดราม่า ขยี้ใจหลายซีนเหลือเกิน แถมพอมันเป็นหนังที่สร้างมาจากเรื่องจริงด้วย ก็ยิ่งมีพื้นฐานบางอย่างให้คนเชื่อถือได้มากยิ่งขึ้น ทำให้คนที่ชอบหนังถ่ายทอดเรื่องราวนักธุรกิจอย่างพวกที่ฝ่าฟันอุปสรรคจนประสบความสำเร็จได้ นี่คือหนังอีกเรื่องที่น่าสร้างแรงบันดาลใจให้จริงๆ