Big_Mouth_00

5 เหตุผลที่ทำให้ Big Mouth กลายเป็นอีกซีรีส์เกาหลีที่หยุดดูไม่ได้

ช่วงนี้เป็นอีกช่วงที่ซีรี่ส์เกาหลีค่อนข้าง Top Form จริงๆ เพราะแต่ละ App ต่างมีซีรีส์ที่เอาไว้ดึงดูดสมาชิกใหม่ๆ ให้ได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกกันทั้งนั้น อย่างที่ผ่านมา Neflix ก็มี Extraordinary of Attorney Woo ส่วน Prime Video น้องใหม่นั้น ก็เอา Anna ที่ได้นางเอก แบซูจี มาเป็นตัวดึง ซึ่งของ Disney+ Hotstar ก็ไม่ได้น้อยหน้า เพราะก็มีซีรี่ส์ชั้นดีคะแนนสูงที่มีคนติดตามเพียบอย่าง Big Mouth อยู่เหมือนกัน

โดย Big Mouth เล่าถึงเรื่องของ พัคชางโฮ ทนายความระดับล่างๆ เพราะโอกาสชนะคดีต่ำ วันหนึ่งเขาได้รับมอบหมายจากคนใหญ่คนโต ให้ลงมาดูแลคดีใหญ่ที่เป็นข้อหาฆาตกรรม ด้วยความที่อยากรวยทางลัดก็เลยทำให้เขาต้องโดนวางแผนให้ติดคุกและถูกยัดเยียดให้กลายเป็น Big Mouse อาชญากรในโลกมืดตัวเป้ง เลยทำให้เขาต้องพยายามสืบหาความจริงว่า ใครคือ Big Mouse ตัวจริงกันแน่ และทำไมเขาถึงต้องเป็นคนที่ถูกยัดให้กลายเป็น Big Mouse แต่ก่อนจะไปตรงนั้น เราขอแนะนำเหตุผลกันก่อนว่า ทำไมมันถึงเป็นอีกซีรี่ส์ระดับ A Must ที่ไม่ควรพลาดกัน

ปริศนาโคตรคาใจ ว่าใครคือ Big Mouse?

ใครที่ชอบซีรี่ส์แนวพล็อตซับซ้อนพลิกล็อคไปมา น่าจะชอบเรื่องนี้ไม่ยากเลย เพราะหนังปั้นปมขึ้นมาแต่เริ่ม ในการมีอยู่ของ Big Mouse อาชญากรในโลกมืดที่ทำชั่วทุกอย่างแต่ไม่มีใครจับตัวได้ แต่ชื่อนี้กลับโดนโยนไปให้ พัคชางโฮ ซะอีก มันเลยยิ่งซับซ้อนเข้าไปใหญ่ว่า ตกลงแล้ว พัคชางโฮ คือ Big Mouse ตัวจริง หรือเป็นตัวปลอมที่มีคนชักใยเบื้อหลัง เพราะว่าคนรอบตัวต่างก็ดูมีความลับมาอย่าง จนคาดเดาได้ยากว่าเป็นใครกันแน่?

เพราะซีรีส์เองก็ค่อนข้างขยันสับขาหลอก เดี๋ยวโยนความน่าสงสัยให้คนนั้น เดี๋ยวเปิดประเด็นให้กับคนนี้ ให้รู้ข้อมูลที่ไม่ควรจะได้รู้ รวมถึงพฤติกรรมแปลกๆ ต่างที่ทำให้เราตัดผู้ต้องสังสัยได้ยากมาก ด้วยแรงขับเคลื่อนในความอยากรู้อยากเห็นนี้ ก็ทำให้คนดูหยุดดูไม่ได้ และพร้อมไปต่อ เพื่อร่วมหาคำตอบนี้ไปด้วยกัน 

แม้เรื่องจะเครียดแต่ ผสานดราม่าโรแมนติกแบบลงตัว

โดยปกติแล้ว ถ้าเป็นแนวสืบสวนฝั่งเกาหลี เราจะมักจะพบกับเรื่องราวที่เข้มข้นจนอึดอัด หายใจหายคอแทบไม่ทัน อย่าง Vagabond ก็ชวนลุ้น จนไม่ค่อยมีเวลาให้พระ-นางสวีทกันสักเท่าไร หรืออย่าง Mouse ก่อนหน้านี้ ที่ตามหาว่าฆาตกรเป็นใคร อันนั้นก็แทบไม่มีฉากโรแมนติกเลย แต่กับเรื่องนี้มันให้เวลาพาร์ทชีวิตคู่ ครอบครัวของตัวเอกมากขึ้น ทั้งฉากย้อนหลังถึงที่มาที่ไปของความสัมพันธ์พวกเขาตั้งแต่สมัยเรียน

มาจนถึงในเหตุการณ์ปัจจุบันที่ทั้งคู่ต่างพยายายามช่วยเหลือกัน ทั้ง พัคซางโฮ ฝ่ายขายเองก็พยายามอย่างมากที่จะไม่ให้คนรักของเขาต้องโดนลูกหลง แต่ในขณะที่ โกมีโฮ เองก็พยายามสุดชีวิตเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของสามีตัวเอง แม้จะรู้ว่าต้องเอาตัวไปเสี่ยงถึงชีวิตก็ตาม มันเลยเป็นสิ่งที่ไม่ค่อยได้เห็นมากนัก สำหรับซีรีส์แนวสืบสวน ทริลเลอร์ ซึ่งการตัดสลับเหตุการณ์นั้นก็ทำออกมาได้กลมกล่อมมากๆ 

2 ดาราชวนดึงดูด ยุนอาและ อีจงซอก

ในด้าน ยุนอา เองก็คงไม่ต้องแนะนำอะไรกันมาอีกแล้ว เพราะสาวก Girl Generation ทั้งหลายก็น่าจะรู้จักกันดี ซึ่งในเรื่องนี้เธอก็ต้องมารับบทหญิงแกร่งในเรื่อง อย่าง โกมีโฮ พยาบาลสาวที่คอยสนับสนุน พัคชางโฮ อย่างเต็มที่มาโดยตลอด ทั้งการพยายามให้กำลังใจ และการพิสูจน์ความบริสุทธิ์ให้กับ พัคชางโฮ แต่ทั้งนี้ด้วยความที่เธอแทบจะต้องแบกรับทุกอย่างไว้เอง ก็เลยต้องมีมุมที่อ่อนแอ แต่ยุนอาก็ทำหน้าที่ทั้งสองพาร์ทของตัวละครได้ดีเลย

ในส่วนของ อีจงซอกนั้น เรียกได้ว่าเป็นซีรี่ส์ที่ อีจงซอก ขอกลับมารีเทิร์นเล่นเป็นเรื่องแรก หลังจากเข้ารับราชการทหารเลย ส่วนหนึ่งน่าจะเพราะถูกใจในบทที่ซับซ้อนเข้มข้นแบบนี้ แถมตัวบทของเขาก็ยังเป็นบทหนัก ที่แทบจะต้องเปลี่ยนตัวเองเป็นแนวตัวละครโจ๊กเกอร์ จากการพยายามตีเนียนเป็น Big Mouse จากในเรือนจำ รวมถึงซีนอารมณ์ต่างๆ ก็มีเยอะดีเลย ทำให้เมื่อทั้งคู่เข้าฉากกันทีไรก็ต้องเรียกได้ว่าเคมีดีมากๆ จนอยากติดตามทั้งคู่ต่อในทุกๆ ตอน

จังหวะการเดินเรื่อง ที่ยิ่งไปต่อยิ่งเข้มข้น

จุดเด่นของซีรีส์เรื่องนี้เลยจริงๆ น่าจะมาจากจังหวะการเดินเรื่อง ที่ในช่วง 2 ตอนแรก อาจจะช้าหน่อยเพื่อให้คนดูรู้ถึงที่มาที่ไป ที่เป็นเหตุให้ตัวเอกต้องโดนจับ และถูกยัดให้เป็น Big Mouse รวมถึงยังต้องปูความสัมพันธ์ของสองตัวละคร พระ-นาง ว่าพวกเขาผ่านอะไรกันมาบ้าง ตั้งแต่สมัยเรียน จนสุดท้ายได้มาแต่งงานกัน ซึ่งหากผ่าน 2 ตอนแรกไปได้ 

ที่เหลือก็คือการอัดแน่นด้วยเรื่องราวที่พุ่งปรอทแตกในทุกๆ ตอน เพราะตลอดการดำเนินเรื่องมีจุดพลิกผัน จุดชวนลุ้นตลอด ทั้งการเอาตัวรอดของ พัคชางโฮ ในคุก การพยายามไม่ให้โป๊ะแตกจากการสวมรอย Big Mouse รวมถึงการสืบคดีจากภายนอกเรือนจำของ โกมิโฮ ทำให้การเดินเกมของทุกส่วนล้วนเต็มไปด้วยความตื่นเต้น น่าสนใจ จนต้องเปิดต่อไปแบบหยุดไม่ได้เลย

ลงใน App ที่ทุกคนน่าจะมี แถมมาแบบร้อนๆ รายสัปดาห์

ข้อดีอย่างหนึ่งเลยของการดู Big Mouth คือคนดูแทบจะดูตามของเกาหลีทันตลอดในทุกสัปดาห์ เรียกได้ว่า แปลงานด่วน งานร้อนกันไวมากๆ ของเกาหลีมาเมื่อไร ของไทยแทบจะลงตามกันเลย ซึ่งใน App Disney+Hotstar ก็เรียกได้ว่าปั่นงานกันโหดสุดๆ ทำให้เราไม่ต้องกลัวว่าฝั่งเกาหลีจะหลุดสปอยล์อะไรออกมาก่อนเท่าไรนัก เพราะแปปเดียวก็มีตอนใหม่มาให้ดูกันแบบแปลไทยแล้ว โดยปกติ Big Mouth จะออกอาทิตย์ละ 2 ตอน ส่วนที่เหลือก็ลงแดงกันไปจนกว่าจะเจอกันสัปดาห์หน้า ซึ่งตอนนี้ก็เหลืออีกเพียง 2 ตอนเท่านั้น ใครยังไม่ได้ดูก็ตามมาได้ และปิดเรื่องราวอันซับซ้อนนี้ไปด้วยกันได้เลย