อโยธยา มหาละลวย (2021)
อโยธยา มหาละลวย
คะแนน
โกดังหนัง
หนังไทยที่ฉากแอ็คชั่นผสมผสานกับ CGI ที่เข้าที่เข้าทางมาก ได้เคมีเจมส์ จิ กับโบว์ เมลดา ทำให้น่ารักแบกเรื่องราวไปได้ดี
หมวดหมู่ : | Drama |
สัญชาติ : | Thai |
กำกับโดย : | Phawat Panangkasiri |
ความยาว : | 1 ชั่วโมง 59 นาที |
นักแสดงนำ : | Jirayu Tangsrisuk, Maylada Susri |
คำคมจากภาพยนตร์
“คาถาทำให้หลงใหล หาใช่รักไม่”
เรื่องย่อ
เรียวสึ เด็กหนุ่มที่รอดชีวิต และถูกชุบเลี้ยงสอนวิชาคาถาอาคมวิธีการต่อสู้โดยหลวงตา เพื่อใช้ป้องกันตัวในวันข้างหน้า ในวันที่เขาต้องการตามหาแม่ และตามหาผู้หญิงในฝัน ออสายสร้อย หลวงตาได้มอบหมายให้ ทอง วิญญาณศักดิ์สิทธิ์ที่หลวงตามอบให้ เดินทางไปเป็นเพื่อนพร้อมกัน แต่ระหว่างการเดินทางพวกเขา ตกกระไดพลอยโจนต้องช่วย 2 คู่หู อาซิม และ จีนล้ง ที่ก่อเรื่องไว้ที่โรงชำเราชาย ที่นี่เองทำให้ เรียวสึ ได้พบกับ ออสร้อย อีกครั้ง
หนังเรื่องนี้เหมาะกับใคร
สำหรับ อโยธยา มหาละลวย เป็นหนังไทยที่มีดีที่งานสร้าง CGI นำเสนอภาพอยุธยาในยุครุ่งเรื่อง แต่ในขณะเดียวกันก็ได้เห็นวิถีชีวิตคนไทยในยุคนั้นที่มีมุมองทัศนคติที่ดิ้นรนเพื่อความอยู่รอด เนื้อหาเลยมีความสนุกโดยเฉพาะฉากแอ็คชั่น เรื่องราวประติดประต่อกันได้อยู่ในเกณฑ์น่าพอใจแฟนเจมส์ จิรายุ และโบว์ เมลดา น่าจะชอบใจได้ไม่ยาก
- สายหนังไทย
- สายหนังย้อนยุค
- สายหนังที่ชอบวัฒนธรรมยุคเก่า
รีวิว / สรุปเนื้อหา
หนังหยิบฉากหลังประวัติศาสตร์สมัยอยุธยา มีการร้อยเรียงเรื่องราวต่อจากละครบุพเพสันนิวาสมาเล็กน้อย แล้ววางโครงเรื่องใหม่ ทำให้กลายเป็นหนังรักปมเปกับแอ็คชั่น มีกลิ่นอายวัฒนธรรมจีน อินเดีย ญี่ปุ่น เหมือนที่ยุคสมัยอยุธยารุ่งเรืองเติบโตเจริญทางการค้าขายกับต่างชาติ ตอนแรกนึกว่าภาคต่อ บุพเพหรือเปล่า แต่พอดูไปไม่ใช่ แค่มีการเรียกชื่อตัวละคร ออสายสร้อยเท่านั้น ไม่ใช่ออเจ้าสักหน่อย ดูไปดูมาหนังหยิบเรื่องคาถาอาคมมาใช้เยอะพอควร เล่ห์กลมนตร์ขลังไสยศาสตร์แบบไทยๆเรื่องราวด้านมืดที่ชอบคือการทำให้วิญญาณที่ตามติดตัวของพระเอกอย่างเรียว เป็นคนที่มีตัวตน หน้าตาดีหล่อ อย่างทอง ที่ไม่ใช่แค่ห้อยคอ แต่เป็นเพือนที่คอยห้ามคอยเตือนพระเอกอยู่เสมอ ไม่ใช่เป็นผีพรายที่ผุบๆโพๆ ที่สำคัญคือไอ้ทองมาช่วยในทุกเวลาที่ เรียว คับขัน ตลอดเวลา
ส่วนตัวรู้สึกว่าบทหนังทำออกมาได้ไม่ดี แต่ที่ทำให้หนังดูได้คือการเซ็ตติ้งฉากโปรดักชั่นที่ออกแบบสถานที่ให้ใกล้เคียงกับอยุธยายุคเก่า ดูแล้วไม่รู้สึกว่าปลอม ไม่ว่าจะฉากในวัง โรงน้ำชา ฉากตลาดน้ำ งานสร้างดูกลมเกลือน แม้ว่ามีบางจุดบางเหมือน ให้ความรู้สึกว่าเหมือนละครมากไป แต่ฉากแอ็คชั่น การต่อสู้ CGI มาช่วยปกปิดจุดบอดในหนังไปได้ มีฉากที่ได้เห็น เรียว หรือเจมส์ จิรายุ ได้ออกแรงบู๊ออกแรงสู้ปกป้องผู้คน ปกป้องผู้หญิงที่เขาชอบที่เขารัก เป็นหนังย้อนยุคที่มาในโทนมูเตลูแบบสว่าง ใช้ความเป็นพีเรียดได้ถูกที่ถูกทาง
ฟากนักแสดงคือสิ่งที่ดีงามของหนัง เจมส์ จิรายุ กลับมาเล่นบทย้อนยุค มารอบนี้เป็นนักรบและนักรัก ดูหล่อดูมีเสน่ห์ พอมาประกบคู่กับโบว์ เมลดา กลายเป็นว่าเคมีลงตัว เพราะฝ่ายหญิง กลายเป็นว่ามาในธีมย้อนยุคแล้วดูงดงาม ออกหน้ากล้องแล้วช่วยกันประคับประคองหนังได้ดีต่อบทกันได้สนุก รู้สึกว่าทั้งคู่แสดงร่วมกันแบกหนังได้อยู่หมัด ถ้าเคมีจิ้นกันสักนิดเชื่อว่าคงได้ลงละครช่อง 3 ร่วมกันแน่ๆ ส่วนบทรองดีเป็นบางคน เช่นเกรท สพล ที่เป็นคนติดตามเรียวสึ วิญญาณที่มีทักษะการต่อสู้ที่ดี กลายเป็นคนที่ออกคิวบู๊เยอะมาก สาวๆที่หลงรักเกรท จะได้เห็นคิวบู๊เท่ห์ๆ ส่วน โมสต์ วิศรุต กับ ฟลุค พงศกร เปรียบเสมือนตัวขโมยซีนซะมากกว่าสร้างสีสันให้พระเอกได้พอควร เวลามีฉากฮาๆเข้ามา ที่น่าผิดหวังก็คงเป็นตัวร้ายที่มีเยอะเกินไปเลยแบ่งเบาหน้าที่กันได้ไม่ดี บุคลิกได้ แต่การแสดงไม่น่าจดจำเลย กลายเป็นว่าพี่บิ๊ก ศรุต มาไม่กี่ฉากแต่เด่นกว่ามาก
เกร็ดจากหนังเรื่องนี้
- หนังถ่ายทำไว้เกือบ 2 ปีตั้งแต่โบว์ เมลดา ยังเป็นนักแสดงช่อง 7