Dune (2021)
ดูน
คะแนน
โกดังหนัง
นี่คือหนังมหากาฬสงครามไซไฟที่โคตรปัง งดงามประดุจงานศิลปะชั้นยอดที่ปรุงแต่งได้ครบเครื่อง ตื่นเต้นไปในทุกๆฉากๆคาดเดาเนื้อหาไม่ถูกเลย อยากดูแบบสนุกต้อง จอ Imax คมชัดดูในโรงอย่างเดียวเท่านั้น
คำคมจากภาพยนตร์
“Dreams Make Good Stories, But Everything Important Happens When We’re Awake.” “ความฝันสร้างเรื่องราวดีๆ แต่ทุกสิ่งที่สำคัญจะเกิดขึ้นเมื่อเราตื่น”
เรื่องย่อ
ตระกูล Atreides ผู้สูงศักดิ์ หลังจากพวกเขาได้เข้ามาปกครองดาวอันรกร้างที่เรียกว่า Arrakis ที่ซึ่งเป็นแหล่งผลิตเครื่องเทศหายากอันล้ำค่า พวกเขาถูกทรยศ เพื่อเปิดศึกชิงบัลลังก์ แล้วมันก็ตกมาเป็นหน้าที่ของหนุ่มน้อย Paul Atreides ที่จะต้องลุกขึ้นมาต่อต้านการโค่นล่มอำนาจของจักรพรรดิแห่งกาแล็กซี โดยไม่มีอะไรเลย เว้นก็แต่กลุ่มชนเผ่าเร่รอนบนดาวอันรกร้าง โชคชะตาสุดประหลาด และเครื่องเทศแสนหวานที่คอยช่วยเหลือเขา
หนังเรื่องนี้เหมาะกับใคร
สำหรับ Dune นี่คือหนังที่ดัดแปลงมาจากนวนิยายแนวไซไฟแฟนตาซีสงครามการเมืองที่ตื่นเต้นที่สุดเรื่องหนึ่ง การถ่ายทอดจากตัวหนังสือมาขึ้นจอได้เป็นอย่างดี ยิ่งใหญ่สมจริง จนสามารถพูดอย่างเต็มปากเต็มคำว่าหนังเล่าเรื่องได้พิถีพิถัน ประดุจงานศิลปะชั้นยอด ทำให้แฟนๆจะได้ซึมซับห้วงอารมณ์ของหนังแบบเต็มอิ่ม ต่อให้ไม่ใช่แฟนนิยายเรื่องนี้ดูแล้วเข้าใจได้ไม่ยาก แต่ต้องอดทนและใจเย็นเพราะหนังก็ไม่ได้เป็นมิตรกับแฟนๆทั่วไปสักเท่าไหร่
- สายหนังแอ็คชั่นแฟนตาซี
- สายหนังแฟนตาซีสุดอิพิค
- สายหนังอลังการงานสร้างสุดยิ่งใหญ่
รีวิว / สรุปเนื้อหา
นี่คือลิสต์หนังน่าดูในปี 2021 ก็ว่าได้ ผ่านการเล่าเรื่องโดยผู้กำกับมากวิสัยทัศน์ Denis Villeneuve หนังเลือกจะเล่าเรื่องให้ดูง่ายๆไม่ได้ต้องเว่อเกินไป เพื่อให้คนดูทั่วไปที่ไม่ได้เป็นแฟนนิยาย Dune เข้าใจง่ายๆ เนื้อหาจริงๆมันคือการช่วงชิงอำนาจเรื่องเกมการเมือง ที่มีคนเสียผลประโยชน์คนที่ได้ประโยชน์คนที่หักหลังเพื่อความอยู่รอด ตระกูลอะเทรดีส เชื้อสายขุนนางที่หลายฝ่ายหวั่นเกรงในอำนาจ ที่ปกครองอยู่คือ Leto Atreides ผู้นำที่มีคุณธรรม และจงรักภักดีกับจักรวรรดิ แต่เขาต้องย้ายไปปกครองดาวทะเลเทรายที่เต็มไปด้วยทรัพยาการอันมีค่า แต่ก็เต็มไปด้วยอันตราย การย้ายท่ีอยู่ใหม่สร้างบาดแผลให้คนกลุ่มหนึ่งขึ้นมานั้นคือตระกูลฮาร์คอนเนน ที่วางแผนร้ายกำจัดตระกูลอะเทรดีส หนังยังค่อยๆสื่อสารให้เห็นถึงความอ่อนแอระบบการปกครองที่ผู้คนมากมายยังเชื่อคำทำนายโบราณที่พวกเขาเชื่อว่าลูกชายอย่าง Paul Atreides จะเป็นผู้ยิ่งใหญ่กอบอาณาจักร แต่ในความจริงแล้ว เด็กหนุ่มคนนี้ยังดูธรรมดา แถมแวดล้อมก็ไว้ใจอะไรไม่ได้ หนังสื่อสารให้เห็นว่าไม่มีมิตรแท้ศัตรูถาวร มีคนมากมายหวังลอบฆ่าฉกฉวยโอกาสเป็นใหญ่
หนังวางกรอบการเล่าเรื่องที่ยอดเยี่ยมพิถีพิถัน มุมภาพน่าตื่นตาตื่นใจ เราได้เห็นงานที่เป็นสไตล์อาร์ทคัลเจอร์เท่ห์ๆที่ผู้กำกับพยายามสื่อสารให้เห็นถึงความยิ่งใหญ่ของนิยายเรื่องนี้ โลเคชั่นในหนังเป็นอะไรที่อลังการมาก เหมือนพาเราไปอยู่ในสังเวียนสงครามที่ช่วงชิงอำนาจ ทะเลทรายที่ยังกับตะวันออกกลาง งานวิชวลเอฟเฟ็คที่ปรากฏบนจอ มันทั้งชวนอึ้ง ตื่นตาตื่นใจและมีเอกลักษณ์ไม่เหมือนหนังเรื่องไหนมาก่อน งานวิชวลเอฟเฟกต์ที่เข้ามาช่วยรังสรรค์โลกเหนือจินตนาการของ Frank Herbert ให้ออกมาสมจริงมากที่สุด ยิ่งการได้ดู IMAX ยิ่งเสริมความใหญ่โตและเต็มอารมณ์ให้กับหนังได้อย่างดีเยี่ยม บรรยากาศในหนังย่ำยวนความรู้สึกให้คนดูตื่นเต้นกับไอเดียที่หนังนำเสนอออกมามีเสน่ห์ไม่เหมือนใครผู้กำกับเป็นแฟนนิยายเรื่องนี้เขาสร้างสรรค์ให้หนังเป็นเสมือนงานศิลปะชั้นดีเพื่อให้คนดูอิน เราไม่อยากเชื่อเลยว่า ขนาดไม่ได้เป็นแฟนหนังสไตล์นี้ แต่พอดูจบเรื่อง องค์ประกอบหนังที่สะกดเราได้อยู่หมัด
ส่วนนักแสดงนำ Timothée Chalamet กลายเป็นพระเอกที่มีมิติทางการแสดงมากกว่าที่เราคิดเอาไว้ กลายเป็นหัวใจหลักของหนังไปเลย เด็กหนุ่มที่ต้องพิสูจน์ตัวเองว่า เป็นผู้นำได้หรือไม่หรือว่าตกอยู่ภายใต้เงาของพ่อตัวเอง ฉากแอ็คชั่นฉากดราม่าที่พบกับความสูญเสียเขาแสดงออกมาได้มีพลัง การเข้าฉากร่วมกับ รีแบ็คก้า เฟอร์กูสัน กลายเป็นเคมีที่ลงตัวมาก ช่วงกลางเรื่องไปจนถึงซีนจบเราได้เห็นถึงความเป็นนักสู้ไม่ยอมแพ้ ส่วนนักแสดงคนอื่นที่เราชอบ เช่น Stellan Skarsgård วายร้ายผู้น่าเกรงขามที่บิ้วอารมณ์คนดูอย่างเราได้ มาแต่ละซีนน่ากลัวมาก, Jason Momoa ในหนังโคตรเท่ห์เป็นอัศวินที่ปกป้องพระเอกอย่าง พอล เราได้เห็นฉากบู๊เท่ห์ๆบอกเลยว่าแฟนหนังสาวๆที่ชอบ Aquaman จะกรี๊ดลั่นแน่
เกร็ดจากหนังเรื่องนี้
- Denis Villeneuve เลือกจะกำกับ Dune มากกว่าจะไปรับจ็อบ 007 No Time To DIe
- Denis Villeneuve เป็นแฟนนิยายไซไฟ Dune ที่แต่งโดย Frank Herbert
- ค่าย Warner อยากทำหนังเป็นรูปแบบไตรภาค แต่ผู้กำกับอยากทำแค่ 2 พาร์ทจบเท่านั้น
- หนังใช้เวลาเดินทางถึง 36 ปีถึงประสบความสำเร็จในการสร้างหนังโลดแล่นบนแผ่นฟิล์ม
- หนังไปถ่ายทำทะเลทรายที่จอร์แดน และซาอุดิอาระเบีย