เรื่องย่อ

ลอนดอนยุค 70s ยุคแห่งความเปลี่ยนแปลงด้านแฟชัน เอสเตลลา หญิงสาวผมสองสีที่ชีวิตคงไม่น่าจะยากลำบาก แต่เธอกลับสูญเสียแม่ตั้งแต่เด็กทำให้เธอตกพบกับชีวิตที่ยากลำบากต้องกลายเป็นคนที่ลักเล็กขโมยเพื่อเอาตัวรอดในเมืองหลวงอังกฤษไร้ที่พึ่งจนได้มาพบเพื่อนโจรที่ยากลำบากเหมือนกัน อย่าง แจสเปอร์ และ ฮอร์เรซ ทั้ง 3 จึงกลายเป็นเพื่อนแท้ ต่อสู่ไปด้วยกัน จนเธอได้โอกาสสำคัญในการสานฝันเป็นดีไซเนอร์และได้โอกาสไปทำงานกับ บารอนเนส ฟอน เฮลแมนเจ้าแม่ดีไซเนอร์แห่งลอนดอน และได้พบความจริงว่าเจ้านายตัวเองอยู่เบื้องหลังการตายของแม่เธอทำให้เธอเติมเต็มคมาแค้นเพื่อมาจัดการทำลายนายจ้างตัวเอง

หนังเรื่องนี้เหมาะกับใคร

สำหรับ Cruella เป็นหนังที่ดัดแปลงมาจาก 101 Dalmatians แต่เลือกจะเล่าในมุมมองใหม่ที่ต่างออกไปจากการ์ตูน โฟกัสไปยังตัวละครหลัก Cruella De Ville ที่พาเราไปรู้จักตัวต้นที่แท้จริงของวายร้ายตัวแม่อันดับต้นๆของ Disney หนังค่อนข้างบันเทิงมากคือสนุกมีสีสันจัดจ้าน  ดูแล้วยังไงก็จะหลงรักตัวละครนี้เพราะในหนังมีลูกเล่นแพรวพราวมาก แถมหนังยังฉลาดในการผูกโยงเรื่องทำให้ได้รสชาติยุคเก่า 70 รวมถึงแฟชั่นที่จัดเต็มไปเลยจ้า ว่าง่ายๆคือได้ใจผู้ชมหลากหลายแนว มันคืองานไลฟ์แอ็คชั่นที่ยอดเยี่ยมอีกเรื่องหนึ่งของ Disney

• สายหนัง Disney
• สายหนังแฟชั่น
• สายหนังที่ชอบวัฒนธรรมยุคเก่า
• สายหนังทีี่ชอบ Emma Stone

รีวิว / สรุปเนื้อหา

บอกเลยว่ามันคือ 2 ชั่วโมงที่เรารู้สึกว่าหนังให้ความบันเทิงแก่เรามาก แม้ว่าตัวเราเองจะไม่ใช่แฟนคลับ Disney แต่เนื้อหาการเล่าเรื่องสนุกมาก หนังไม่ได้ปูเนื้อเรื่องเยอะแยะมากมาย หรือไปอ้างอิงตามเส้นเรื่องจากการ์ตูน แต่เลือกจะพูดถึงที่มาที่ไปของ Cruella การต่อสู่ของเธอว่าอะไรเป็นสาเหตุสำคัญที่เธอถึงกลายเป็นวายร้ายตัวแม่กันแน่ ตัวละครนี้มีความฉลาดแยบยลไหวพริบดีเรียนรู้จากสิ่งรอบข้างและพัฒนาตัวเองได้ดีมากกว่าคนทั่วไป ความแสบความไร้เดียงสาของ Cruella ทำให้เธอกลมกลืนอยู่ในสังคมแฟชั่นการทำงานได้ แม้ว่าเธอจะมีความเกลียดชังเจ้านายตัวเอง ทำให้ได้เห็นความเป็นคนที่หัวขบถ เพราะจึงๆแล้วช่วงแรกเธอก็ไม่ได้ร้าย แต่ก็รับอิทธิพลความร้ายกาจมาจากเจ้านายตัวเอง เราว่าบทหนังหยิบช่องโหว่ที่หาไม่ได่จากในการ์ตูนมาเล่าให้หรรษา ร้อยเรียงให้เหมาะสมกับอังกฤษยุค 70 ได้ดีมาก

องค์ประกอบต่อมาที่ทำให้หนังดำเนินเรื่องไปได้อย่างไหลลื่นไม่แพ้บทหนังก็คือคอสตูมที่จัดเต็มมาเยอะมาก ในเมื่อโทนเรื่องเป็นหนังแฟชั่นอยู่ในเมืองแฟชั่นก็เลยจัดเต็มในธีมย้อนยุค 70 ทำให้บรรยากาศในลอนดอนดูคึกคักดี เปิดตัวมาแต่ละซีนดูอลังการ ไม่มีจุดไหนที่ดูตลกหรือเป็นจุดบอดไปเลย ทำให้เราเชื่อว่าเหตุการณ์ในหนังเหมือนย้อนยุคกลับไปถ่ายเมื่อ 40 ปีก่อน เลย เราว่าเสื้อผ้าหน้าผมการแต่งกายนักแสดงที่ผลักดันเรื่องราวให้เข้มข้ม เอาง่ายๆแค่เปิดตัว Cruella ฉากเผาผ้าคลุมไปจนถึงแฟชันชุดขยะลากยาวที่ทำเอาคนดูอดกรี๊ดตามแล้วเล่นเบอร์ใหญ่ของจริง โปรดักชั่นหนังมาเต็มคือไม่ได้มีแค่เสื้อผ้า แต่รันเวย์ที่นักแสดงปล่อยของอารมณ์ยังแกเฟชั่นโชว์ไปเลยจ้า ออร่านักแสดงอย่าง Emma Stone และ Emma Thompson มาเต็ม คือไม่มีใครยอมใคร ลองไปเถอะซีนเจอกันเป็นอะไรที่สนุกมาก ต้องยอมรับว่าผู้กำกับ Craig Gillespie ถ่ายทอดออกมาได้ดีมาก มันเลยทำให้หนัง Live Action ค่อนข้างครบเครื่องได้ทั้งความสนุกความฮา ดราม่าสะเทือนใจ คือครบจริงๆ

สุดท้ายก็คงเป็นเรื่องนักแสดง Emma Stone สาวน้อยจาก Easy A จนมาโด่งดังเป็นพลุแตกกับ La La Land เรื่องนี้ เธอเปล่งปลั่งมากไม่หลงเหลือลุคเดิมจากสาวหวานสาวสวยผู้มีความฝัน เปลี่ยนเป็นสาวน้อยดิ้นรนสู้ชีวิตจนกลายเป็นวายร้ายที่ฉลาดหลักแหลม บทจะตลกร้ายก็ขำได้เหมือนกัน คือเธอเล่นได้แบบเกรียวกราดแบบนี้เราก็เชื่อเลยว่าบทบาทนางร้าย Cruella คงอยู่กับเธอไปอีกนานแน่ๆ ถึงจะร้ายก็มีเสน่ห์คนที่ดูจนคงหลงรักการแสดงของเธอจากหนังเรื่องนี้แน่ๆ คือตีบทแตกกระจายไปเลย ส่วน Tipper Seifert-Cleveland นักแสดงที่มารับบทในตอนเด็ก แม้จะมาน้อยในช่วงต้นที่สื่อสารออกมาได้ดีและต่อยอดได้สบายรับส่งอารมณ์ได้เข้าถึงหัวอกคนที่เจ็บปวดสูญเสีย ขณะที่ Emma Thompson แม้จะเป็นตัวร้ายกว่าการแสดงของเธอนางกลัวกว่า Cruella ซะอีก ชอบที่เธอมาแสดงบทกันมันเหมือนกับว่าเราได้ดู 2 นางร้ายต่อบทกันอย่างสนุกแล้วได้ดูแฟนชั่นคอสตูมที่จัดเต็มสุดขีด ส่วนเวอร์ชั่นพากย์ไทยที่ได้คุณคริส หอวัง มาให้เสียง Cruella เมื่อเราได้ฟังเรารู้สึกว่าไดนามิคเสียงของเธอลงล็อคกับ Emma Stone แถมเธอเองก็เป็นแฟชั่นนิสตาร์อีกทำให้พอคนพากย์อินกับเรื่องพวกเขานี้ช่วยขับเคลื่อนให้หนังสนุกได้อรรถรสขึ้นไปอีก เป็นการตัดสินที่ถูกต้องที่หยิบคนที่มีบุคลิกใกล้เคียงกับตัวละครมาลงเสียง หนังเลยบันเทิงมาก คนดูพากย์ไทยคงไม่รู้สึกเบื่อและผิดหวังแน่