เรื่องย่อ

เนื้อเรื่องจะพาเราไปติดตามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในปี 2560 ของพระธัมมชโย อดีตเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ที่ถูกตั้งข้อกล่าวหาว่าเข้าไปมีส่วนเกี่ยวพันกับคดียักยอกทรัพย์สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น และทำให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) เข้าปิดล้อมวัดเพื่อจับตัวพระธัมมชโยไปดำเนินคดี จนนำมาสู่การเผชิญหน้ากันระหว่างเจ้าหน้าที่รัฐกับศิษย์วัดพระธรรมกาย ผ่านการสัมภาษณ์ฝ่ายสนับสนุน และฝ่ายต่อต้าน รวมถึงสัมภาษณ์มุมมองของนักวิชาการที่มาตั้งข้อสังเกตต่อปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งสะท้อนถึงรากฐานความเชื่อ ความศรัทธา และหาคำตอบถึงบทบาทของศาสนาและความเชื่อในสังคมไทย

หนังเรื่องนี้เหมาะกับใคร

สำหรับ เอหิปัสสิโก เป็นสารคดีที่เล่าเรื่องวัดธรรมกายได้แบบเป็นกลางและมีความเป็นธรรม เนื้อหาหยิบจับประเด็นสังคมวัดที่มีคนพูดถึงแง่ลบ แต่เนื้อหาไม่ได้ให้ร้ายฝั่งใดฝั่งหนึ่ง เนื้อหาเจาะลึกประเด็นธรรมกาย ทั้งคนที่ศรัทธาถึงขั้นเป็นสาวก หรือแม้กระทั่งคนที่เคยนับถือลัทธิแบบนี้แล้วถอนตัวออกมา และสามารถสื่อสารให้คนที่มีอคติได้เข้าใจวัดแห่งนี้มากขึ้น คนไม่เข้าใจดูเรื่องนี้ไม่มีความสับสน และยังได้เข้าใจมุมมองของคนกลุ่มคนที่เชื่อมั่นในธรรมกายอีกตั้งหาก

• สายหนังสารคดี
• สายหนังที่ชอบเนื้อหาตีแพร่ความจริง

รีวิว / สรุปเนื้อหา

ในทีแรกไม่คาดหวังกับสารคดีเรื่องนี้มาก แต่สุดท้ายเมื่อเราดูจบ หนังเรื่องนี้เปลี่ยนความคิดเราไปเลย นับถือความทุ่มเทของ”คุณไก่” ณฐพล บุญประกอบ ผู้กำกับที่เลือกจะเล่าเรื่องราวผ่านการสัมภาษณ์ทั้งฝ่ายสนับสนุนธรรมกาย สาวกค่างๆ ไปจนถึงฝ่ายต่อต้านที่ไม่เห็นด้วยกับการกระทำของวัดพระธรรมกาย และเหล่านักวิชาการที่มาตั้งข้อสังเกตต่อปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งสะท้อนถึงรากฐานความเชื่อ ความศรัทธา และหาคำตอบถึงบทบาทของศาสนาและความเชื่อในสังคมไทย เพื่อนำเสนอเรื่องราวให้ผู้ชมได้ติดตามเรื่องราวในทุกมิติของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และทุกอย่างดูเป็นมีความเป็นกลางมากไม่เอนเอียงกับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเลย ใช้ความจริงที่อยู่ข้างหน้าเล่าเรื่องไปดีที่สุด ทำให้เมื่อดูแล้วไม่รู้สึกอคติอะไรทั้งสิ้น

การตามติดลูกศิษย์วัดพระธรรมกายไปกับรถทัวร์ไปในวัดเพื่อบันทึกภาพพูดคุยกับพูดคนมากหน้าหลายตา เราได้เห็นภาพในอีกมุมมองหนึ่งว่าทำไมคนเหล่านี้ถึงสมัครใจนำเงินมากมายไปทำบุญ บางทีเรื่องของศรัทธาความเชื่อของคนมันก็ห้ามกันไม่ได้ ถ้าเชื่อมั่นไปแล้วว่าสิ่งนี้เราคิดว่ามันถูก ก็จะยอมทำเพื่อสิ่งนั้นอย่างถึงที่สุด ถึงขนาดที่มีความคิดว่า ‘ตายเป็นตาย คนเรามีความเชื่อว่าถ้าคิดจะทำอะไรแล้ว สิ่งนั้นย่อมดีที่สุดเพราะมันเป็นมุมมองเรา ใครก็คงไปห้ามไม่ได้ แต่อีกมุมมองหนึ่งเราก็ได้เห็นว่ายังมีคนที่เคยเป็นสาวกวัดนี้ กลับเลือกที่จะเดินออกมา พวกเขาก็โดนตามให้ไปร่วมบุญ เราว่าสุดท้ายมันก็ขึ้นอยู่กับมุมมองส่วนตัวของคนคนนั้น เราว่าสารคดีเรื่องนี้ให้น้ำหนักที่ดีแก่ผู้ชม แถมยังพาคนที่อคติไปเข้าใจโลกของธรรมกาย ทำไมพวกเขาจึงเลือกเดินในแบบที่ไม่เหมือนวัดอื่น ตรงนี้ก็ต้องชื่นชมที่พยายามหยิบจับทุกประเด็นและขมวดได้พอเหมาะพอเจาะ

ช่วงท้ายของหนังเป็นอะไรที่พีคมากต่อผู้ชม เพราะกระแสสังคมที่มีคดีความใหญ่โต ที่วัดธรรมกายกลายเป็นคู่ขัดแย้งกับภาครัฐ ในฐานะคนดูเราลุ้นระทึกมาก เมื่อทางการอยากจับและใช้อำนาจเพื่อจะควบคุมวัดนี้และดำเนินคดีกับเจ้าอาวาส แน่นอนละว่าจุดนี้เองที่เล่นกับศรัทธาต่อลูกศิษย์วัดที่ออกมาแสดงพลังต่อต้านที่เหมือนะกลายเป็นจุดบานปลายครั้งใหญ่ การขัดแย้งในครั้งนี้ จึงเปรียบเสมือนการแย่งชิงอำนาจ จากความศรัทธาของประชาชน ภาพที่ออกมาดูโกลาหล มีการใช้ฟุตเทจมุมภาพที่หลากหลายอารมณ์เหมือนกับหนังสารคดีต่างประเทศยังไงยังงั้น แถมตัวหนังเองก็ลำดับเหตุการณ์ทุกอย่างได้ไหลลื่น ไม่ต้องเข้าใจอะไรมาก หยิบบทสัมภาษณ์จัดวางและตัดต่อภาพออกมาทำให้เราไม่ได้รู้สึกแย่กับวัดพระธรรมกายเลย กลายเป็นหนังสารคดีที่มีมุมมองการเล่าเรื่องที่แปลกใหม่ และทำให้เราเข้าใจเนื้อหาและคิดตามได้ทันทีเมื่อดูจบ