Moneyball (2011)

เกมส์ล้มยักษ์

Moneyball Poster
9/10

คะแนน
โกดังหนัง

หนึ่งผลงานการแสดงอันยอดเยี่ยมของ Brad Pitt
นำหลักเศรษฐศาสตร์มาเล่าให้เข้ากับเกมกีฬา
กลายเป็นสูตรสำเร็จยุคใหม่ในวงการอเมริกันเกม

หมวดหมู่ : Drama Sport
สัญชาติ : American
กำกับโดย : Bennett Miller
ความยาว : 2 ชั่วโมง 13 นาที
นักแสดงนำ : Brad Pitt, Jonah Hill, Philip Seymour Hoffman

คำคมจากภาพยนตร์

“Hard work may not always result in success but it will never result in regret" "การทำงานหนัก อาจจะไม่ได้นำไปสู่ความสำเร็จเสมอไป แต่อย่างน้อย มันก็ไม่มีวันทำให้เราต้องรู้สึกเสียใจ"

เรื่องย่อ

เรื่องจริงของ บิลลี่ บีน อดีตนักเบสบอลของเมเจอร์ลีกเบสบอล ซึ่งปัจจุบันเป็นผู้จัดการทั่วไปของทีมเบสบอล “โอ๊กแลนด์ แอธเลติกส์” กับช่วงเวลาที่เริ่มเกิดวิกฤติทางการเงินของทีม ไม่สามารถจัดหาทุนในการซื้อตัวผู้เล่นเก่ง ๆ มาร่วมทีม ทำให้ฟอร์มเริ่มตกลงเรื่อย ๆ จนผู้จัดการประจำทีมเลยต้องไปขอความช่วยเหลือจากหนุ่มรายหนึ่งที่ค้นพบวิธีใหม่ในการช่วยคัดเลือกผู้เล่นผ่านโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ซึ่งผลที่ออกมา กลับได้ผลแบบดีเกินคาดมาก ๆ

หนังเรื่องนี้เหมาะกับใคร

สำหรับ Moneyball นั้น คือหนังที่เหมาะมากๆ สำหรับคอหนังสายซอมบี้พันธุ์ดุ ซอมบี้ในเรื่องมีวิวัฒนาการรวดเร็ว หนังมาในสเกลใหญ่เป็นแอ็คชั่นเดือดเอาตัวรอดในดงซอมบี้กลุ่มใหญ่ มันสร้างความตื่นเต้นให้ผู้ชม เชื่อได้ว่าคอหนังซอมบี้ก็น่าจะชอบกันอย่างกันอย่างแน่นอน หนังสอดแทรกประเด็นภัยธรรมชาติที่คนเขามักชอบมองข้ามเกินไป ทั้งที่เรื่องแบบนี้มันเป็นของที่ใกล้ตัวเรา

  • สายหนังกีฬา
  • สายหนังดราม่า
  • สายหนังที่รัก Brad Pitt

รีวิว / สรุปเนื้อหา

ในโลกความเป็นจริงการทำอะไรสักอย่างหนึ่งต้องใช้ทุนมากมายมหาศาล เพื่อหวังผลกำไรเป็นการตอบแทนที่สมน้ำสมเนื้อ ยิ่งในวงการกีฬาการมีเงินมาก มันย่อมเป็นข้อได้เปรียบที่ทีมทีมนั้นจะประสบความสำเร็จ แต่มันสูตรนี้ใช้ไม่ได้กับทีมเล็กที่ไม่มีเงินทุนอย่าง โอ๊คแลนด์ แอธเลติก ผลงานทีมย่ำแย่หลัก เจ้าของทีมขอสปอนเซอร์อะไรก็ไม่ได้ ผู้จัดการทีมอย่าง บิลลี่ บีน ไม่มีทางเลือกมาก และถ้าปล่อยให้ทีมย่ำแย่แบบนี้ เขาคงโดนไล่ออกจางานแน่ เมื่อไม่มีเงิน ผู้เล่นโรยรา การผ่าตัดทีมคือทางออกที่ดีสุด เขาไปพบ ปีเตอร์ แบรนด์ นักเศรษฐศาสตร์หนุ่มที่ไม่มีเคยเป็นนักกีฬามาก่อน ที่ถูกนำตัวเข้ามาอยู่ในทีม นักสถิติจึงทำการเก็บข้อมูลผู้เล่นภายในทีมซะ รวมถึงวิเคราะห์ผลงานผู้เล่นชื่อไม่ดัง ที่ถูกประเมินมูลค่าต่ำไป จนโดนมองข้ามจากทีมใหญ่เข้าสู่ทีมเอามาปั้นแทน

แนวคิดนี้มันแปลกบ้าบิ่นมากจนบีน ทีมงานหลังบ้านที่เป็นฝ่ายเทคนิค อาทิเช่นโค้ช สเกาต์ ในทีมโอ็คแลนด์ ต่อต้านหนักพวกเขาเชื่อว่าวิธีการนี้จะทำให้ผลงานทีมตกต่ำลงมากกว่าเดิม แถมยังไปเชื่อเด็กเมื่อวานซีนที่ไม่ได้เป็นนักกฬาอีก สุดท้ายผลงานย่ำแย่จริงและเฮดโค้ชที่สั่งการข้างสนามก็ไม่เอานักกีฬาที่บีนหามาให้ลงสนาม สุดท้ายบีนใช้แข็งตัดสินใจโละนักกีฬาดังและพวกที่ปรึกษาทีมออก บีบให้โค้ชต้องใช้งาน ทุ่มหมดหน้าตักเพื่อพิสูจน์ว่าที่เขาคิดนั้นถูก สิ่งที่น่าทึ่งคือบีนรู้ดีว่าแนวคิดนี้ถูกต้อง แต่การจะทำให้เห็นภาพจับต้องได้มันยาก มนุษย์เรามีอีโก้เชื่อมั่นในตัวเอง จนบางครั้งไม่เปิดใจรับแนวทางใหม่ การจะไปพูดเพื่ออธิบายมันเป็นเรื่องยาก แถมกลยุทธ์แบบนี้ยังใหม่ในวงการกีฬา แต่เมื่อไม่มีทุน ก็ต้องหาของดีราคาไม่แพง เจียระไนนักกีฬาโนเนมขึ้นมาต่อกรกับทีมใหญ่

วิธีของบีนประสบความสำเร็จ แต่ก็แลกมากับความพ่ายแพ้ที่เยอะมากเช่นกันจนใครต่อใครคิดว่าเขาคงโดนไล่ออก แต่ผลลัพธ์ที่ตามมาคือทีมชนะรวด 20 นัด จนเป็นสถิติใหม่ในรอบ 100 ปี ของวงการเบสบอล แม้จะไม่ได้แชมป์ แต่เนื้อหาของหนังกลับออกเราว่า ในเมื่อเป็นทีมรองบ่อนงบประมาณไม่มี การใช้มันสมอง คิดวิเคราะห์แก้ปัญหามันดีกว่าเราทุ่มเงินหมดหน้าตักเพื่อซื้อความสำเร็จซึ่งมันเป็นผลลัพธ์ที่ไม่หยั่งยืน ไอเดียที่บีนสร้างไว้มันต่อยอดให้โอ็คแลนด์มารากฐานที่แข็งแรงจนถึงปัจจุบัน ทำให้ทีมเบสบอลมากมายเจริญรอยตาม แต่มันไม่ใช่ว่าทุกทีมจะประสบความสำเร็จด้วยวิธีการแบบนี้ เพราะเคล็ดลับความสำเร็จไม่มีสูตรตายตัว ยิ่งดูยิ่งเข้าใจยิ่งดูยิ่งชอบในตัวบิลลี่ บีน ทำทีมกีฬาเอาชนะเงินตราและเขาไม่อยากให้เงินมาทำลายแนวทางการสร้างนักกีฬา และตัวของ Brad Pitt แสดงเป็นคนที่นิ่งสุขุมเยือกเย็นมาก เด็ดขาดในการแก้ปัญหาและตัดสินใจ ทำให้คนดูเชื่อว่านี่คือผู้จัดการทีมกีฬาที่ยอดเยี่ยมจริงๆ .

เกร็ดจากหนังเรื่องนี้

  • หนังใช้เวลาถึง 6 ปีกว่าที่จะได้สร้างเป็นหนังจริงๆ
  • Chris Pratt เกือบไม่ได้แสดงหนังเรื่องนี้แล้วเพราะอ้วนเกินไป
  • นอกจากแสดงนำ Brad Pitt ยังพ่วงหน้าที่โปรดิวเซอร์
  • Jonah Hill ไม่ใช่ตัวเลือกแรกในการรับบท Peter Brand นักเศรษฐศาสตร์ที่มาวิเคราะห์เกมเพื่อช่วย Billy Beane