เรื่องย่อ

"ป้อม" ชาตรี ธราธร เด็กหนุ่มขี้อายที่มีทักษะการตีกลอง แอบมาสอบเรียนต่อที่ วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล ตาม ดุจดาว เพื่อนร่วมโรงเรียนเก่าที่แอบหลงรัก เขาเลือกปกปิดที่บ้านเอาไว้ไม่ให้พ่อแม่รับรู้ เพราะหากบอกที่บ้านคงไม่มีทางสนับสนุน และปล่อยให้ที่บ้านเข้าใจว่าเป็นนักเรียนเตรียมหมอ ป้อมตั้งใจว่าจะจีบสาวในฝันให้ได้จึงยอม ทิ้งกลองชุดเพื่อเข้าวงออเคสตร้า ทว่าจุดเปลี่ยนคือการรู้จักกับ อ้อม ศรัญญา ลูกสาวของหมอประเสริฐ ซึ่งเป็นเพื่อนกับพ่อของป้อม และเธอเองก็หลงรักเพื่อนชายคนอื่นไปแล้ว โดยตลอดทั้งเรื่องหนังถ่ายทอดความสัมพันธ์ 3 ตัวละครหลัก ผ่านเสียงเพลง และผันแปรไปฤดูกาล

หนังเรื่องนี้เหมาะกับใคร

สำหรับ Seasons Change คือหนังรักโรแมนติกที่คลุกเคล้ามากับเรื่องราวทางดนตรีที่ใครต่อใครเมื่อได้ชมเรื่องนี้แล้ว อยากมาสมัครเป็นนักเรียนดุริยางค์ในมหิดล บรรยากาศในหนังร่มรื่นมากๆ เนื้อหามีประเด็นเรื่องความฝันเสียงดนตรีความรัก ทำให้ตอบโจทย์ผู้ชมเมื่อกว่า 15 ปีแล้ว จัดว่าเป็นหนัง Coming of age ที่ดูแล้วหัวใจพองโตเรื่องหนึ่งก็ว่าได้

• สายหนังโรแมนติก
• สายหนังคอเมดี้
• สายหนังที่มีเสียงดนตรีอยู่ในหัวใจ

รีวิว / สรุปเนื้อหา

หนัง Coming of Age ที่ครองใจผู้ชมวัยรุ่นยุค 2000 หยิบยกชีวิตนักเรียนดนตรีมาเล่าให้ผู้คนได้เข้าใจ คนส่วนใหญ่คิดว่าเรียนดนตรี ยากที่จะประสบความสำเร็จในวิชาชีพนี้ ครอบครัวคนไทยชนชั้นกลาง มักสั่งสอนให้ลูกตัวเองไปทำงานที่ดูมีอนาคต เช่น แพทย์, วิศวะ, ทำงานราชการ เป็นใหญ่เป็นโต มากกว่าจะให้ลูกเลือกเรียนตามที่ความถนัด ซึ่งจุดนี้เหมือนเป็นการยัดเยียดจนเกินไปบทหนังหยอกล้อกับพฤติกรรมวัยรุ่น ที่มักจะชอบอะไรแล้ว ไม่ค่อยอยากบอก ไม่ว่าจะเป็นการสารภาพบอกรักสาวในฝัน เพราะกลัวว่าบอกแล้วจะเสียใจผิดหวัง, การทำอะไรก็ตามไม่มีเป้าหมาย มัวแต่ตามเพื่อน ตามสาวที่ชอบเพื่อจะได้ใกล้ชิด พฤติกรรมในหนังสะท้อนให้เห็นถึงมุมมองคนไทยที่ยังมีความคิดแบบกรอบเก่าๆ ทั้งที่ความเป็นจริงแล้วทุกอาชีพมีความเสี่ยงเหมือนกันหมด แค่เราควรสนับสนุนและเชื่อมั่นในความชอบของตัวเองให้ดีเสียก่อน

นอกจากการเล่าเรื่องวัฒนธรรมแบบไทยแล้ว Season Change จุดเด่นที่เรารู้สึกได้คือนี่คือหนังที่ดำเนินเรื่องได้ละเมียดละไม ใช้เสียงเพลงดนตรีคลาสสิคมาเป็นสื่อกลางให้ 3 ตัวละครผูกเข้าหากัน พระเอกเป็นมือกลอง ละทิ้งทักษะตัวเอง วิ่งตามหาสาวในฝันในวงดนตรีออเคสตร้า, เพื่อนสนิทที่แอบรักพระเอก เก่งทฤษฎีแต่เล่นเครื่องดนตรีอะไรก็ไม่เก่งสักอย่าง, สาวไวโอลีนมือ 1 ประจำวงออเคสตร้าที่ตั้งใจเรียนดนตรีเพียงอย่างเดียวจนไม่ได้มองเรื่องความรัก บทหนังมีความกลมกล่อมทำให้ผู้ชมจดจำเหตุการณ์และประโยคเด็ดแต่ละฉากจนขึ้นใจ สร้างบรรยากาศให้คนดูอินและคล้อยตาม ไม่ผิดแปลกเลยที่หลังจากหนังเรื่องนี้เข้าฉาย มีเด็กวุ่ยรุ่นมากมาย หันให้เข้าเรียนวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล มากขึ้น หนังสามารถเปลี่ยนมุมมองผู้ชมไปและเข้าใจวิชาชีพดนตรีมากยิ่งขึ้น

ฟากนักแสดงนำ แม้ว่าจะเป็นหน้าใหม่ในตอนนั้น แต่สามารถสอบผ่านจนได้ใจผู้ชม ไม่ว่าจะเป็น บอล วิทวัส แม้ว่าจะไม่มีทักษะการตีกลองชุดมาก่อน แต่ก็เรียนรู้ในเวลา 3 เดือน จนเล่นได้เองโดยไม่มีต้องมีตัวแสดงแทน, ต่าย ชุติมา สาวหน้าใสที่กลายเป็นตัวละครที่ใครต่อใครต่างพากันหลงรักแม้ว่าจะเล่นดนตรีไม่เก่ง, นาถ ยุวนาถ สาวในฝันของพระเอกมาดนิ่งพูดน้อยแต่แสดงได้ดีจนเชื่อว่าเธอเก่งไวโอลีนจริงๆ จุดนี้ต้องชื่นชมผู้กำกับ”ต้น” นิธิวัฒน์ ธราธร ที่ดึงความสามารถของดาราหน้าใหม่ในเวลานั้นออกมาได้จนหมดแม็กซ์