เรื่องย่อ

เรื่องราวของผู้ชายคนหนึ่งที่มีอาชีพเป็นนักเขียนนิยายมาปารีสกับคนรักเพื่อมาพบกับว่าที่พ่อตาและแม่ยาย เขาตกหลุมรักเมืองหลวงแดนน้ำหอมเข้าอย่างจังชนิดถอนตัวไม่ขึ้น ผิดกับคนรักของเขาเองที่มีมุมมองรสนิยมไม่เหมือนกัน จนกระทั่งคืนหนึ่งระหว่างเดินกลับโรงแรมในเวลาเที่ยงคืนได้พบกับรถยนตร์ทรงโบราณลึกลับที่พาเขาย้อนกลับไปยังยุคอดีต ยุคที่มีศิลปินแทบทุกแขนงมากมายในปารีส และนั้นทำให้เขาได้เข้าใจและเรียนรู้ความหมายที่แท้จริงของชีวิตจริงๆ ว่าควรพอใจกับสิ่งที่มี

หนังเรื่องนี้เหมาะกับใคร

สำหรับ Midnight In Paris เป็นหนังที่มีกลิ่นอายยุคเก่าและยุคใหม่ เนื้อหาคือความรักโรแมนติกที่พาคนดูไปดื่มด่ำกับบรรยากาศที่สวยงามในมหานครปารีส  หนังหยิบประวัติศาสตร์เข้ามาสอดแทรกกับเนื้อหาการใช้ชีวิตคนที่ไม่เคยพอใจในสิ่งที่มีอยู่เลย บทหนังมีความคมคายในเรื่องของภาษา ผ่านการแสดงที่ยอดเยี่ยมของ Owen Wilson ที่ได้พาผู้ชมไปสำรวจเรื่องราวมากมายและทำให้แฟนหนังที่หลงรักมนเสน่ห์เมืองหลวงแดนน้ำหอมจะรู้สึกฟิน

• สายหนังโรแมนติก
• สายหนังประวัติศาสตร์
• สายหนังที่ชอบความงดงามของฝรั่งเศส
• สายหนังที่ชอบงานของปู่ Woody Allen

รีวิว / สรุปเนื้อหา

แค่เปิดเรื่องหนังก็ทำให้เราอินซะแล้วด้วยเพลงประกอบที่ไพเราะ กับเพลงแจ๊สคลาสสิค ในช่วงเริ่มต้นนั้นและดำเนินไปตลอดทั้งเรื่องนั้น เชื่อเหลือเกินว่า ผู้ชมจะถูกมนต์เสน่ห์ของเมืองปารีส สะกดเข้าอย่างจัง และยากที่เกินจะโหยหานอกจากจะนั่งอิ่มเอมต่อภาพเหล่านั้นอย่างจำยอม และปล่อยอารมณ์ไปสู่โลกแห่งจินตนาการเพ้อฝัน ก่อนจะปูเรื่องราวผ่านตัวละคร ผ่านสถานที่สำคัญในปารีส หนังใช้ความเป็นแฟนตาซีมีการเชื่อมต่อโลกแห่งความจริงและความฝัน ได้มหัศจรรย์ พาพระเอกที่เบื่อหน่ายชีวิตปัจจุบันไปสู่ปารีสในยุค 1920งานภาพมีความงดงามให้ฟีลย้อนยุคจริงๆ  และตลอดทั้งเรื่องมันก็ให้อารมณ์ที่ฟีลกู๊ดให้อารมณ์ขันต่อผู้ชม บทมันดูกลมกล่อมเป็นชิ้นเป็นอัน องค์ประกอบในหนังเรื่องนี้ทุกอย่างถือว่าลงตัวเลย

หนังมีเสน่ห์คือพยายามถ่ายทอดเนื้อหาให้โดนใจผู้ชมในหลายๆแง่มุมโดยพยายามถ่ายทอดมุมมองความคิดตัวละครที่มีความต้องการที่แตกต่างกันเช่น พระเอกมีความสุขมากกว่าโลกปัจจุบัน ที่ได้ออกมาจากที่ที่คนรอบข้างไม่เข้าใจศิลปะอย่างถ่องแท้ ชีวิตหรูหราเพื่อให้คนมายอมรับ เสพงานแค่ผิวเผิน  ซึ่งมันพิสูจน์ได้จากการที่เขาเลือกจะไม่ไปพบปะครอบครัวแฟนและเพื่อน แต่มานั่งรอรถโบราณเพื่อให้ได้ไปสัมผัสเรื่องราวในอดีตทุกค่ำคืน เพื่อหวังว่าจะได้กลับมายังยุคที่เขาปลาบปลื้ม ได้คนคอเดียวกันที่มาช่วยเติมเต็มความรู้สึกตัวเอง ทุกๆคำพูดทุกๆคำเจรจาของบุคคลผู้ยิ่งใหญ่ การแสดงออกหรือกิริยาต่างๆ มันทำให้ผู้ชมรู้สึกอิ่มเอมไปตลอดทั้งเรื่อง เสมือนกับเราได้หลุดไปสู่โลกแห่งจินตนาการเหล่านั้นได้อย่างเสมือนจริง

แม้ว่าบรรยากาศหนังจะโรแมนติกแค่ไหน แต่หนังของวู้ดดี้ มันก็ต้องมีพล็อตไดอาล็อคความรักของ 2 ตัวละครที่มีความผูกพันธ์ และในเรื่องนี้ หลักใหญ่ใจความจริงๆเกิดขึ้นในพาร์ทอดีตที่กิล ได้เจอสาวงามเมืองน้ำหอมที่เขารู้สึกหวั่นไหวอยากเจอเธอแทบทุกๆครั้ง เธอทั้งสวยเป็นแฟชั่นนิสต้า มีมุมมองที่น่าคบหามากกว่าคนรักของเขาในยุคปัจจุบัน และนั้นทำให้ตัวละครได้เรียนรู้ทัศนคติของอีกฝ่ายและพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว ผ่านการเสวนาพูดคุยกันอย่างเข้าอกเข้าใจซึ่งกันและกัน เพียงแค่ตลกร้ายที่ตัวละคร 2 คน ดันไม่ชอบสภาพแวดล้อมสังคมที่ตัวเองอยู่ ซึ่งบริบทนี้มันก็ก็สะท้อนถึงผู้คนยุคนี้ที่ไม่พอใจกับสิ่งที่ตัวเองมีได้ชัดเจน และมักอยากหนีออกจากความเป็นจริงไป