Catch me if you can (2002)
จับให้ได้ถ้านายแน่จริง
คะแนน
โกดังหนัง
หนังสายต้มตุ๋นวิ่งไล่จับสไตล์ฟีลกู้ด จากเรื่องจริงสุดเหลือเชื่อ สู่ฉบับหนังโดยปู่สปีลเบิร์ก ที่รับประกันความสนุก ด้วยทีมดาราชั้นดี
หมวดหมู่ : | |
สัญชาติ : | American |
กำกับโดย : | Steven Spielberg |
ความยาว : | 2 ชั่วโมง 21 นาที |
นักแสดงนำ : | Leonardo DiCaprio, Tom Hanks, Christopher Walken |
คำคมจากภาพยนตร์
“An honest man has nothing to fear and I am trying not to be afraid of anything.” “คนที่ซื่อสัตย์สุจริตนั้นไม่มีอะไรต้องกลัว ผมเลยพยายามที่จะไม่กลัวอะไรทั้งนั้น”
เรื่องย่อ
แฟรงก์ อบาเนล เด็กหนุ่มที่บ้านแตกพ่อ แม่ แยกทางกัน จนเกิดความสับสนจนพยายามทำให้ครอบครัวกลับมาเป็นเหมือนเดิม ด้วยการหนีออกจากบ้าน ซึ่งด้วยอายุที่ยังน้อย ทำให้เขาพยายามดิ้นรนหาเงินด้วยตัวเอง ไม่ว่าสิ่งเหล่านั้นจะถูกกฏหมายหรือไม่ก็ตาม ทำให้การต้มตุ๋นจึงกลายเป็นทักษะชั้นเยี่ยมของเขา ซึ่งเขาเองก็ได้ผ่านประสบการณ์เคยเป็นทั้ง นักบิน แพทย์ ทนายความ รวมถึงอาจารย์ในมหาวิทยาลัย โดยที่ไม่เคยเรียนจบในสายเหล่านี้มาก่อน ด้วยการต้มตุ๋นที่หนักข้อขึ้น ทาง FBI จึงต้องส่ง คาร์ล แฮนรัทตี้ เข้ามาตามล่า และเอาตัวเขาเข้าคุกให้ได้
หนังเรื่องนี้เหมาะกับใคร
สำหรับ Catch Me if You Can นั้น จะเหมาะกับคอหนังที่ชอบหนังสายต้มตุ๋น หลอกลวง ชิงไหวชิงพริบ พลิกผันไปมาอยู่มาก ด้วยเรื่องราวที่สร้างมาจากเรื่องจริงอยู่แล้ว ก็ยิ่งเพิ่มความน่าสนใจให้กับตัวหนังเข้าไปใหญ่ และเมื่อมาอยู่ในมือของผู้กำกับที่มีพรสวรรค์ในการเล่าเรื่องอย่าง Steven Spielberg ก็เป็นเครื่องการันตีชั้นดี ว่าหนังน่าจะออกมาสนุกได้อยู่แล้ว ด้วยเวลากว่า 2 ชั่วโมงครึ่งของหนังก็เลยกลายเป็นความบันเทิงที่ผ่านไปอย่างรวดเร็ว และดูสนุกได้ตลอดทั้งเรื่องเลยจริงๆ ใครที่ชอบแนวๆ ต้มๆ ตุ๋นๆ แบบนี้ อย่าง The Wolf of Wall Street, Focus อะไรแบบนี้แล้ว ถูกใจกันแน่ๆ
- สายหนังต้มตุ๋นหลอกลวง
- สายหนังพ่อมดสปีลเบิร์ก
- สายหนังชีวประวัติน่าสนใจ
รีวิว / สรุปเนื้อหา
แม้ว่าเรื่องราวของหนังจะดูหวือหวาเสมือนมาจากนิยาย แต่จริงๆ แล้ว Catch Me If You Can ก็สร้างมาจากหนังสือชีวประวัติของบุคคลดังอย่าง แฟรงก์ อบาเนล นักต้มตุ๋นระดับตำนานที่กลายมาเป็นเศรษฐีได้ในวัยแค่เพียง 21 ปีเท่านั้น จนไม่แปลกใจนัก ว่าด้วยเรื่องราวที่น่าสนใจเช่นนี้ จะทำให้หนังสือขายดีจนติด Best Seller ของหลายสำนักมากว่า 10 ปี จนกระทั่งมาเข้ามือของผู้กำกับพ่อมดแห่งวงการฮอลลีวู้ด อย่าง Steven Spielberg ที่ถ่ายทอดมันออกมาได้อย่างมีสีสัน สนุก ชวนติดตามจนเป็นหนังในดวงใจของใครหลายๆ คนได้อีกเรื่อง เพราะเขาได้ทำเรื่องราวที่ไม่ธรรมดา ได้ออกมามีมนต์เสน่ห์ได้มากจริงๆ
การเลือกเอานักแสดงอย่าง Leonardo DiCaprio มารับบทของ อบาเนล ก็เป็นอะไรที่เหมาะสมมาก ด้วยคำบรรยายถึงตัวตนจริงๆ ว่าเป็นคนที่หล่อเหลา มีปฏิภาณไหวพริบที่ดี ฉลาดเป็นกรด และช่างสังเกต ก็เรียกได้ว่ามีครบถ้วนทุกอย่างในนักแสดงคนนี้ รวมถึงการเอาดาราเกรด A อย่าง Tom Hanks มารับบท Carl Hanratty ก็ดูเพิ่มความอบอุ่นให้กับหนังอยู่ไม่น้อย ด้วยสไตล์ของเขาที่ดูไม่มีความโหดหรือรุนแรงแต่อย่างใด ทำให้ในมุมไล่ล่าของตำรวจในเรื่องนี้ ออกมาเป็นศึกชิงไหวชิงพริบที่น่ารักดีมากๆ
การดำเนินเรื่องของหนังเต็มไปด้วยความสร้างสรรค์ กับการได้เห็นตัวละครทำอะไรบ้าๆ ได้อย่างเต็มที่ อย่างการไปประกอบสายอาชีพต่างๆ ทั้งๆ ที่ไม่ได้มีความรู้ในส่วนนั้นจริงๆ รวมถึงความฉลาดเป็นกรดก็ทำให้แผนการต้มตุ๋น และการหลบหนี วัดกึ๋นกับตำรวจจึงเต็มไปด้วยชั้นเชิง และด้วยความที่เขาใช้ความกะล่อน โดยที่ไม่ได้มีการฆ่าหรือทำร้ายร่างกายใคร หรือยุ่งเกี่ยวกับเรื่องที่ร้ายแรงไปกว่านี้ เลยทำให้คนดูพร้อมเชียร์และเอาใจช่วยตัวละครนี้อยู่มาก แม้ว่าเราจะรู้จุดหมายปลายทางของเขาแล้วก็ตาม ก็ไม่ได้ทำให้เรื่องราวในหนังสนุกน้อยลงแต่อย่างใด
เกร็ดจากหนังเรื่องนี้
- จากปากคำของ Frank Abagnale ตัวจริงนั้น เคยออกมาบอกว่า กว่า 80% ของเรื่องราวในหนังสือนั้น เป็นเรื่องจริงๆ ของเขา ซึ่งทางคนเขียนบทหนังเรื่องนี้ ก็ยึดเอาโครงเรื่องมาจากหนังสือ และเอาหลายๆ ตัวละครมาผสมๆ กันจนออกมาเป็นฉบับหนังเรื่องนี้
- Frank Abagnale ตัวจริงได้เข้ามาเป็น Cameo หรือดารารับเชิญในหนังเรื่องนี้ ในฐานะเจ้าหน้าที่ตำรวจฝรั่งเศส ที่เข้ามาจับ Frank (ในเรื่อง) ในฉาก Christmas Eve ปี 1969 ด้วย
- ในหนังมีฉากที่ Frank Abagnale นั้นถูก FBI ประกาศอยู่ในลิสท์ Most Wanted ที่ทางการต้องการตัวมากๆ ในขณะที่ชีวิตจริง เขาไม่เคยถูกติดในลิสท์นั้น เพราะมันมีไว้สำหรับอาชญากรที่ก่อความรุนแรงเท่านั้น