Vigilante (2023)
วิจิแลนเต้
คะแนน
โกดังหนัง
งานแอ็คชั่นล้างแค้นเดือดดาล ฉากไล่ล่าการต่อสู้ที่มันส์ สอดแทรกประเด็นดราม่าอันดำมืดในสังคมเกาหลี นัมจูฮยอก พิสูจน์แล้วว่ามีดีมากกว่าความหล่อ
คำคมจากภาพยนตร์
"เพราะกฏหมายมันอ่อนแอ ลงโทษคนร้ายเหมือนมดกัด"
เรื่องย่อ
คิมจียง นักเรียนตำรวจระดับหัวกะทิ ที่เวลากลางวันเขาเป็นนักเรียนธรรมดา แต่เวลากลางคืนเขาเป็นนักล่าทำหน้าที่เป็นศาลเตี้ย ค่อยจัดการเช็คบิลเด็กสังคมคนเลวที่ทำผิดแต่ลอยหน้าลอยตาในสังคม โดยเขามีปมที่แสนเจ็บปวดคือการที่เห็นแม่ตัวเองถูกฆ่าตายไปต่อหน้าต่อตา เมื่อกฏหมายเอาผิดพวกคนชั่วไม่ได้ เขาเลยสะสมความแค้นกับอาชญากรและตัดสินใจออกไปล่าคนชั่วในเวลากลางคืนแทน
หนังเรื่องนี้เหมาะกับใคร
สำหรับ Vigilante เป็นซีรีส์เกาหลีแอ็คชั่นทริลเลอร์ที่เหมาะกับแฟนหนังที่ชอบงานสไตล์ล้างแค้นแบบ The Equalizer ที่พูดถึงคนที่รักษากฏหมาย ตั้งตัวเป็นศาลเตี้ยไปไล่ล่าคนชั่วคนเลวที่กฏหมายเอาผิดทำอะไรคนพวกนี้ไม่ได้ แต่มันดาร์คดุดันเพราะเป็นงานล้างแค้น ที่ตัวละครหลักสะสมความเจ็บปวดที่แม่ตายเลยกลายเป็นปมที่ทำให้เลือกมาเป็นมือสังหารฆ่าคนเลวในช่วงเวลาดึก พอเป็นเรื่องราวสไตล์เกาหลีมันโหดเหี้ยมมีประเด็นดราม่าเรื่องโสมมในเกาหลีเยอะเยอะเต็มไปหมด มันเป็นเรื่องดีมากที่โครงเรื่องถูกปรับแต่งจากภาพยนตร์กลายเป็นซีรีส์ทำให้เส้นเรื่อง 8 ตอน กลายเป็นงานที่แม่งอย่างมันส์ ไม่ได้มีแค่นักล่าคนเลว แต่ยังมีคนชั่วแดนสังคมที่พร้อมจะท้าทายตำรวจ ท้าทายกฏหมายเยอะแยะเต็มไปหมด
รีวิว / สรุปเนื้อหา
ปีนี้งานเกาหลีจากทาง Disney ค่อนข้างมีคุณภาพแทบทุกเรื่องสนุก มีแนวทางการเล่าเรื่องที่ชัดเจน และเรื่องนี้ก็พูดถึงการไล่ล่าคนเลวเดนสังคมที่ทำตัวอยู่เหนือกฏหมายผ่านตัวละครที่มีปมความหลังฝั่งใจ ความเหลื่อมล้ำยังคงมีอยู่ในเกาหลีใต้ คนจนไร้โอกาสไร้ที่ยืน ไม่ได้รับความยุติธรรม เด็กหนุ่มที่มีปมในใจ ตัดสินใจผลักดันตัวเองกลายเป็นนักล่าอาชญากร จริงๆพล็อตเรื่องไม่ได้มีความแปลกใหม่เพราะตัวละครหลักก็แทบไม่ได้ต่างจาก Batman ที่จัดการคนเลวในเวลากลางคืน แต่เมื่อเรื่องนี้ดัดแปลงมาจากเว็ปตูนของเกาหลี มันทำให้เรื่องราวตลอด 8 ตอนสนุก เรื่องราวดาร์คดุดัน พระเอกไม่ได้เล่นงานใครแบบสุ่มสี่สุ่มห้าตรงข้ามเขาศึกษาข้อมูลความเลวของตัวบุคคลความช้ำร้ายที่เกิดขึ้น จากการได้รับเอื้อประโยชน์จากกฏหมาย แน่นอนว่าเกาหลีพอทำงานสไตล์ทริลเลอร์ค่อนข้างเนี๊ยบคุณภาพ ไม่มีมุมมองแบบแฟนตาซี โดยอาศัยเพียงแค่ตัวละครเดินกลางไล่ล่าด้วยทักษะการต่อสู้แบบสไตล์เกาหลี ที่พระเอกก็ใส่เสื้อฮูดปกปิดใบหน้าก็เท่านั้น พระเอกเชื่อว่ากฏหมายเอื้อให้คนเลวมีชีวิตที่สบาย แต่คนซวยกลับต้องทนทุกข์ทรมาน เขาแค่เป็นศาลเตี้ยจัดการลงโทษคนแบบนี้ให้ได้รับความทรมานแบบขีดสุด
พล็อตเรื่องมีความแข็งแกร่งเพราะมันไม่ได้แค่พระเอกไปแก้แค้นล้างแค้นเท่านั้นแต่ยังมีตัวละครมากมายที่เชิดชูเขาเป็นฮีโร่แต่ในเวลาเดียวกันก็มีตำรวจมากมายที่พร้อมจะเดินหน้าไล่ล่าเปิดโปงตัวจริง เมื่อคนมีอำนาจมีกฏหมายในมือทำอะไรคนเลวอาชญากรไม่ได้ ภาพของซีรีส์เรื่องค่อยๆเปิดเผยความล้มเหลวของกระบวนการยุติธรรมที่อ่อนปวกเปียกไร้ประสิทธิภาพ ภาพของ Vigilant อาจไม่ต่างจาก Robert Mccall นักฆ่าโฮมโปร แต่นี่เป็นเวอร์ชั่นที่โหดเหี้ยมกว่าหลายเท่า นอกจากไล่ล่าและโดนตำรวจล่าตัวแล้ว ยังมีตัวละครมากมายที่พร้อมเข้ามาปั่นป่วนเรื่องราวให้มันซับซ้อน ทั้งคนมีเงินที่บ้าคลั่งอยากปลอมตัวเป็น Vigilante หรือแม้กระทั่งนักฆ่าที่ทำงานรับใช้คนเลวที่พร้อมจะเช็กบิลหาตัว Vigilante ฉากแอ็คชั่นมันกำลังพอเหมาะพอเจาะ แต่ในเวลาเดียวกันประเด็นดราม่าในสังคมเกาหลีเรื่องสกปรก การคอรัปชั่นก็ตีความออกมาได้สนุกสนาน พล็อตเรื่องเล่าออกมาได้กระชับ มันค่อยๆพูดถึงการเติบโตของตัวละครที่ไม่ได้แข็งแกร่ง แต่ก็มีมุมมองที่อ่อนแอและเป็นนักล่าคนเลวที่มีความเป็นคนธรรมดาทั่วไปที่เอาทักษะการต่อสู้แบบตำรวจมาใช้เล่นงานคนร้าย
การแสดงของ นัมจูฮยอก พิสูจน์และตอกย้ำให้เห็นว่าเขาไม่ได้มีดีแค่ความหล่อ แต่พอเล่นบทแอ็คชั่นแล้วให้อารมณ์ดาร์คๆดุดัน การเป็นนักล่าเป็นศาลเตี้ยก็เพราะต้องการเช็คบิลคนเลวที่กฏหมายทำอะไรไม่ได้ เปิดมุมมองใหม่ๆของพระเอกคนนี้ให้ผู้ชมได้รู้ว่าไม่ได้เล่นได้แค่รักหรือแนวคอมเมดี้, ยูจีแท ตำรวจบ้าพลังนักล่าฮีโร่ศาลเตี้ย เปิดตัวได้ดุดันน่าเกรงขามรูปร่างบึกบึน บุคลิกแข็งกร้าวพร้อมบวกพร้อมอัดคนร้ายแบบไม่เกรงกลัวให้อารมณ์เหมือนมาดองซก แต่มาในโหมดที่ดาร์คกว่าไม่มีมุมตลก, คิมโซจิน นักข่าวสาวเจ้าแฉผู้ไม่สนใจอะไรนอกจากเปิดโปงความจริงให้สังคมได้รับรู้ หญิงสาวเดือดดาลเกรี้ยวกราดฉุนเฉียวตลอดเวลา และ อีจุนฮยอก คนมีเงินที่เป็นแฟนคลับ Vigilante ที่มาด้วยความทะเล้นแฝงไปด้วยความดาร์ค
เกร็ดจากหนังเรื่องนี้
- Yoo Ji-tae ต้องเพิ่มน้ำหนัก 20 กิโลกรัมเพื่อรับบทนายตำรวจ Jo Heon
- งานสุดท้ายของพระเอก Nam Joo-hyuk ก่อนจะไปเข้ากรมเกฑฑ์ทหาร
- เดิมทีจะสร้างเป็นภาพยนตร์ในปี 2019 ก่อนจะเปลี่ยนใจทำเป็นซีรีส์