Scala (2022)

ที่ระลึกรอบสุดท้าย

Scala Poster
8/10

คะแนน
โกดังหนัง

บันทึกหน้าสุดท้ายการร่ำลาของโรงหนังระดับตำนาน ที่จุดจบแล้วน่าเศร้า เนื้อหาทำเอาน้ำตาแทบไหล เรียบง่ายลึกซึ้งแต่กินใจสำหรับคนรักหนังจริงๆ เสน่ห์มนคลังโรงหนังแท้จริงได้สูญหายไปตลอดกาล

หมวดหมู่ : Documentary
สัญชาติ : Thai
กำกับโดย : Ananta Thitanat
ความยาว : 1 ชั่วโมง 5 นาที
นักแสดงนำ : Pongpop Inheen, Saman Watcharasirirot, Sampao Phasukdin, Wilairat Angkabkaew, Nakorn Nuannngein

คำคมจากภาพยนตร์

"เรามีความผูกพัน แล้วก็รักสกาล่ามาก ทุกวันนี้นึกถึงก็ยังเห็นภาพว่ามันยังอยู่ตรงนั้น อยู่ในรูปแบบนั้น ไฟ โคมระย้า ดวงไฟแสงจันทร์ ห้องโถง หรือรูปปั้น สวยงามมาก"

เรื่องย่อ

สารคดียาวเรื่องแรกของ อนันตา ฐิตานัตต์ ที่เล่าเรื่องในมุมลูกหลานพนักงานโรงหนังเครือสกาล่าชนิดที่ว่าเคยวิ่งเล่นหรือดูหนังหลังโปรเจกเตอร์มาแล้ว ตัวเรื่องจะโฟกัสที่การรื้อโรงภาพยนตร์สกาล่าไปพร้อมกับการสัมภาษณ์เหล่าพนักงานเสมือนคุยลุงป้าน้าอาที่ไม่ได้เจอมานานสู่พาคนดูท่องความทรงจำของเหล่าพนักงานและตัวผู้ถ่ายทอดสารคดีเอง

หนังเรื่องนี้เหมาะกับใคร

สำหรับ Scala ที่ระลึกรอบสุดท้าย เป็นหนังที่เหมาะกับคนที่เติบโตมากับการดูหนังโรงโดยเฉพาะคนที่อายุเกิน 30 อัพจริงๆ เปรียบเสมือนการบันทึกความทรงจำของผู้คนมากมาย นี่คือโรงหนังตำนานที่อยู่ใจกลางเมืองค่าตั๋วไม่แพง เนื้อหาเรียบง่ายมาก แต่ทุกอย่างมันบาดลึกมากที่ต้องเห็นโรงหนังตำนานจากหายไปจากสังคมไทย ดูแล้วอาจจะซึ้งจนน้ำตาไหลได้ เพราะบรรยากาศเรื่องนี้จะทำให้คุณโหยหาโรงหนังตำนานอย่าง Scala อีกครั้ง

  • สายหนังสารคดี
  • สายหนังรางวัล
  • สายหนังไทย

รีวิว / สรุปเนื้อหา

ในยุคที่การหาหนังสารคดีในโรงใหญ่เป็นเรื่องยากมากๆ แต่กลับดีใจที่ได้เห็นบทบันทึกหน้าสุดท้ายของ Scala ได้ฉายในโรงหนัง คงไม่มีใครไม่รู้จักโรงหนังนี้ บรรยากาศเงียบสงบ ค่าตั๋วหนังที่ก็ไม่ได้ราคาแพง มีโคมฟ้าเด่นเป็นสง่าตั้งอยู่ แต่แล้วก็เกิดการปิดตัวของโรงหนังที่สวยงามแห่งนี้จนได้ มุมมองของผู้กำกับหญิง อนันตา ฐิตานัตต์ ในฐานะคนเล่าเรื่องและเติบโตมากับโรงหนัง เธอถ่ายทอดฟุตเทจผ่านการเล่าเรื่องที่เผยถึงที่มาที่ไปความทรงจำจนถึงวันสุดท้ายที่ต้องร่ำลาโรงหนังเห็นนี้ ภาพในหนังแค่ 1 ชั่วโมงเศษ มันน่าเจ็บปวดที่สถานที่แห่งนี้ถูกกดทับกลืนกินด้วยระบบทุนนิยม สถานที่ที่มีอายุมากกว่า 50 ปี มอบความบันเทิงให้ผู้คนมากมาย ไม่ใช่แค่ฉายหนัง แต่ยังจัดคอนเสิร์ต ทอล์คโชว์สร้างเสียงหัวเราะ กลับโดนเพิกเฉยและไม่มีใครเห็นคุณค่าแบบนี้ ทั้งที่นี่คือสถาปัตยกรรมที่ได้รางวัลมาแล้วมากมาย

ภาพของหนังดูธรรมดา แต่ลึกซึ้งเพราะมันไม่ได้เป็นการสำรวจพื้นที่ในโรงหนัง แต่เนื้อหายังพาผู้ชมไปสัมผัสถึงความเจ็บปวดของพนักงานและกลุ่มคนที่ทำงานกับ Scala หลายๆคนใช้ชีวิตที่นั้นมาเกือบครึ่งชีวิตแล้ว กลับกลายเป็นคนที่ต้องมาถอดถอนหลายๆสิ่งหลายๆอย่างในโรงหนังที่พวกเขาเติบโตมา เก้าอี้ที่นั่ง ผ้าม่าน มันเลยเป็นความรู้สึกเศร้าใจ จากคนภายนอก ซึ่งลึกๆแล้วพวกเขาก็คงเจ็บปวดไม่แพ้กัน ที่ไม่มีคำว่าบ้านให้พวกเขาได้ทำงานได้ใช้ชีวิตได้พักพิงอีกแล้ว การเล่าเรื่องไม่ได้มีนัยยะแอบแฝง เป็นมุมมองของผู้หญิงคนหนึ่งที่เก็บฟุตเทจ และรวบรวมภาพที่ดีสุด สิ่งที่สัมผัสได้ก็คือเธอเองก็รักที่นี้ มีความรัก ความผูกพันธ์เช่นกัน ไม่แปลกใจที่เธอพยายามนำเสนอภาพทุกอย่างออกมาด้วยความคิดที่ไม่ตำหนิหรือวิพากย์วิจารณ์อะไรใครทั้งสิ้น ส่วนตัวค่อนข้างชอบเพราะหนังได้เปิดมุมมองของกลุ่มคนชุดสุดท้ายของ Scala ได้เห็นมุมมองบทสนทนาความเจ็บปวดที่พวกเขาต้องเผชิญและหลีกเลี่ยงมันไม่ได้จริงๆ

นี่เป็นสารคดีที่เล่าในมุมมองของคนที่เติบโตมากับโรงหนัง ภาพที่เล่าจึงไม่ได้โฟกัสอะไรทั้งนั้น ไม่ได้เอาใครมาเล่าเรื่อง ผู้กำกับบันทึกภาพในวันที่โรงหนังแห่งนี้ค่อยๆถูกถอดถอน  มีฉากทักทายกับพนักงานและการใช้ชีวิตประจำวันของพวกเขา เสริมดราม่านับถอยหลังการบอกลาบ้านหลังเดิม ยิ่งกว่านั้น หนังก็ซ้ำเติมด้วยฟุตเตสแล่นผ่านจอไปเรื่อย ๆ คนดูจะเห็นหลักฐานความทรงจำประกอบโรงหนังตั้งแต่ภาพถ่าย , ซากบุหรี่เก่าเกือบ 50 ปี , เหรียญใต้เก้าอี้ไร้เจ้าของ , แมวผลัดถิ่นคนละตัวกับเรื่องเล่า หรือเสียงของผู้ประท้วงทุกอย่างเข้ามาด้วยความบังเอิญแทบทั้งสิ้นไม่มีอะไรแอบแฝงทั้งนั้น

เกร็ดจากหนังเรื่องนี้

  • สารคดีเรื่องนี้ อนันตา ฐิตานัตต์ ใช้กล้องธรรมดาบันทึกภาพในวันที่โรงหนัง Scala โดนถอดถอน
  • หนังได้รับการฉายที่เทศกาลหนัง Berlin Film Festival 2022
  • ทีมผู้สร้างได้งบประมาณเกือบ 3 แสนบาท มาจากเทศกาลหนัง Yamagata International Documentary Film Festival