เรื่องย่อ

คาร์ล กับ ญาญ่า คู่รักวงการแฟชั่น ที่ความสัมพันธ์กำลังย่ำแย่ทะเลาะกันหนักหน่วงไม่เหมือนเก่า พวกเขาทั้งคู่ได้รับเชิญให้ลงเรือลำหรู ที่เต็มไปด้วยผู้โดยสารระดับไฮคลาสและทรงอิทธิพลมากมาย เมื่อเรือแล่นออกสู่ท้องทะเล ก็ดูเหมือนว่าพายุกำลังค่อย ๆ ก่อตัวขึ้น คลื่นลมทะเลทำให้คนทั้งลำเรือมีอาการเมาคลื่น และกระทบต่อมื้ออาหารค่ำ ทำให้กัปตันสั่งให้ปิดฉากโปรแกรมท่องเรือครั้งนี้ ก่อนที่พวกเขาทั้งคู่จะพบว่าถูกทิ้งเอาไว้บนเกาะร้างที่เต็มไปด้วยมหาเศรษฐีกับบริกรอีกหนึ่งคน และดูเหมือนว่าสถานการณ์ต่าง ๆ พลิกไปอีกขั้วทันที เพาะดูเหมือนว่าจะเป็นเพียงบริกรเพียงคนเดียวเท่านั้น ที่รู้จักวิธีจับปลาและเอาตัวรอดจากวิกฤตติดเกาะครั้งนี้

หนังเรื่องนี้เหมาะกับใคร

สำหรับ Triangle of Sadness จัดเป็นหนังที่เสียดสีสังคมได้อย่างเมามันส์เรื่องหนึ่ง หนังมีกลิ่นอายความเป็นยุโรป ชำแหละคนรวยคนจนคนชนชั้นกลาง คิดว่าตอนดูแต่ละคนน่าจะสนุกและอินกับประเด็นของหนังได้ไม่ยาก ยิ่งเราสนใจประเด็นสังคมมากแค่ไหนก็จะยิ่งเห็นภาพของความเหลื่อมล้ำได้ชัดเจนยิ่งขึ้นและสามารถสนุกไปกับหนังได้อย่างเต็มที่เลย หลายๆคนบอกว่านี่คือมัน Parasite เวอร์ชั่นบนเรือจะนิยามแบบนั้นคงไม่แปลกเพราะ นี่เป็นการยำแหลกช่องว่างของผู้คนในยุคทุนนิยมที่นับวันมันช่างห่างไกลความเท่าเทียมจริงๆ

• สายหนังรางวัลคุณภาพ
• สายหนังตลก
• สายหนังดราม่าเสียดสีสังคม

รีวิว / สรุปเนื้อหา

ถ้าหากจะพูดแบบบ้านๆ หนังเรื่องนี้ก็คือการกัดจิกเสียดสีคนรวย และกลุ่มคนที่อยากจะถีบตัวเองไปอยู่ในสังคมที่สูง ไม่ได้ผิดอะไรอะไรที่พวกเขาคิดแบบนั้น ใครๆก็อยากมีชีวิตที่ดี มีหน้ามีตาทางสังคม มีอิสรภาพทางการเงิน มีคนนับหน้าถือตา มีธุรกิจให้คนได้อวย นับวันโลกยิ่งพัฒนามากขึ้นไปมากเท่าไหร่ คนยิ่งอยากโลภทะเยอทะยานมากขึ้นเท่านั้น คู่รักวงการแฟชั่นมาเที่ยวแค่อยากพักผ่อนจากความสัมพันธ์ที่พังๆแต่ดูเหมือนว่าการไปเที่ยวบนเรือยอร์ชหรูกลับทำให้เหตุการณ์ไม่คาดฝัน พวกเขาพบเจอคนรวยมากมาย คนละสังคมที่เคยเจอมา ทั้งเจ้าของธุรกิจปุ๋ยที่มักโอ้อวดข่มคนอื่นเพื่อบอกว่าข้านี่รวยจากการทำธุรกิจ คู่รักวัยเกษียณที่ดูไม่น่ามีอันตรายอะไร แต่เบื้องหลังเป็นผู้ค้าอาวุธ คือง่ายๆคือมีแต่คนมีเงินแบบมหาศาล ผิดกับคาร์ลและญาญ่า คู่รักแฟชั่นที่เป็นเสมือนเบี้ยในแวดวงนั้น พวกเขา มีใบหน้ารูปร่างที่หล่อ แต่ก็มีคู่แข่งนับร้อยที่แย่งชิงงาน ซึ่งพวกเขาภายนอกเหมือนอยู่ในสังคมชั้นสูง แต่มาดูจริงๆแล้วก็เป็นแค่คนที่ทำงานให้นายทุน ไม่ได้ใหญ่โตเป็นเซเลปไฮโซแต่อย่างใด เมื่อได้มาเที่ยวมันเลยทำให้พวกเขากลายเป็นคนคนละชนชั้นไปโดยทันที

โลกใบนี้ตัดสินคนที่ผลประโยชน์รูปหลักสวยหล่อเงินทอง หนังจึงค่อยๆขยับขยายเนื้อหาไปทีละนิด คู่รักหนุ่มสาวมาเที่ยวบนเรือที่เต็มไปด้วยคนมีเงินอายุเยอะทั้งนั้น มันทำให้พวกเขากระเสือกกระสนดิ้นรนเพื่ออยากจะมีอะไรที่ดูเทียบเท่ากับคนเหล่านั้น หรือไหนจะเป็นเจ้าหน้าที่พนักงานบนเรือที่ก็ไร้ความรับผิดชอบสิ้นดี ไม่ว่าจะเป็นกัปตันเรือที่วันๆเอาแต่เมา หัวหน้าลูกเรือที่เอาแต่ยึดมั่นในหน้าที่ซะจนน่าหมั่นไส้ สถานการณ์ในหนังมันก็ตลกดีเหมือนกันตรงที่ว่า พอคนเรามีเงินมันทำอะไรก็ได้จะสั่งจะให้คนโน่นคนนี้ทำอะไรตามใจชอบ สั่งให้คนนี่เป็นโน่นเป็นนี่ ไม่แคร์อะไรทั้งนั้น เพราะคิดว่าเงินคือพระเจ้า สิ่งที่น่าสังเกตุของหนังคือองค์ประกอบเรื่องมันดูจับต้องได้ แล้วก็ใส่บทพูดฮาตลกเสียดสีความรวยความจนของผู้คนลงไป เมื่อมาถึงฉากไคลแม็กซ์จุดพลิกผันของเรื่องเท่านั้นแหละ มันทำให้ภาพของหนังเริ่มชัดเจนทันทีว่า จะเซเลปไฮโซ นักธุรกิจเกรดเอ แม่งก็รักตัวกลัวตายเหมือนกัน ก็แค่คนธรรมดา ไม่ได้พิเศษอะไรเหมือนเสื้อผ้าแบรนด์เนมหรูๆ เครื่องประดับเกรดพรีเมียมที่สวมใส่ หนังค่อยๆสะท้อนให้เห็นว่ากลุ่มคนเหล่านี้ก็มีความจอมปลอมเหมือนกัน ธาตุแท้สัญชาติยานดิบเลยออกลายมาทันที ซึ่งไม่ต่างจากโลกในปัจจุบัน เราต้องดิ้นรนเอาตัวรอดในเหตุการณ์ที่กดดันยามวิกฤติใครปรับตัวอยู่รอดได้มักเป็นคนที่ถือไผ่ได้เปรียบเสมอ

นอกจากบทหนังจะเล่าออกมาได้เยี่ยมแล้ว นักแสดงก็ทำออกมาได้ดีไม่แพ้กัน ขอพูดถึงตัวละครที่เราอยากชื่นชม คือ Dolly De Leon หัวหน้าพนักงานทำความสะอาดชาวฟิลิปปินส์ที่มีความ\ชำนาญในการล่าเหยื่อหาอาหาร ตัวละครที่ถือไผ่เหนือกว่าใครๆ นี่คือคนที่โดนกดขี่และกลายเป็นใหญ่ทันทีเมื่อมีเหตุการณ์พลิกผัน ชอบตัวละครนี้มีเสน่ห์ ตามมาด้วย Charlbi Dean แม้ว่าเธอจะจากโลกนี้ไปแล้ว แต่การแสดงของเธอ บุคลิกที่น่ารักสดใส สีหน้าแววตาทำให้หนังเรื่องนี้น่ามองขึ้นมาทันที, Harris Dickinson หนุ่มหล่อจาก Kingsman นี่คือตัวแทนของผู้ชายที่คิดว่าตัวเองเป็นใหญ่ กดขี่ข่มเหงผู้หญิง คิดว่าตัวเองต้องเทคแคร์ผู้หญิงเสมอไป หรือการพยายามพูดว่าชายหญิงเท่าเทียมกันจริงๆมันก็แค่ข้ออ้าง ชอบ Harris ที่พลิกบทบาทครั้งสำคัญ 3 ตัวละครนี้ทำให้หนังสนุก ไม่แปลกใจเลยทำไมคนชนชั้นรองถึงพยายามเต็มที่จะไปให้อยู่ในจุดสูงสุดไม่มีใครอยากเป็นคนรากหญ้าต่อไป ถ้ามีอำนาจมีผลประโยชน์ต่อรองพวกเขาก็อยากไปอยู่ในที่ดีๆ โลกใบนี้ชนชั้นความเท่าเทียมไม่เคยมีอยู่จริง ปัญหาความเหลื่อมล้ำไม่ว่าสังคมไหน อยากที่จะเปลี่ยนแปลงจริงๆ