เรื่องย่อ

ฟิลิป และ อีริค 2 หนุ่มเพื่อนรักที่เติบโตมาด้วยกัน มีความหลงใหลในงานวรรณกรรม และทั้งคู่ก็ต่างทะเยอทะยานจะเป็นนักเขียนชื่อดังให้ได้ ทว่าโชคชะตาของพวกเขากลับถูกกำหนดให้ดำเนินไปคนละทาง ฟิลิปกลายเป็นนักเขียนหน้าใหม่ที่ประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว เขาได้พบหญิงสาวที่ตัวเองเชื่ออย่างสนิทใจว่าเธอคือคู่แท้ อย่างไรก็ตาม ช่วงเวลาแห่งความสุขก็ถึงคราวต้องจบลง เมื่อความหมกหมุ่นที่ฟิลิปมีต่อแฟนสาว มันได้กระตุ้นอาการจิตเวชในตัวเขา ทำให้เขาก่อเหตุความรุนแรงจนถูกส่งตัวไปบำบัดเป็นเวลาครึ่งปี ขณะที่อีริค แม้เขาจะส่งผลงานไปให้สำนักพิมพ์อย่างต่อเนื่อง แต่ก็ใช้เวลาอยู่นานกว่าที่หนังสือเล่มแรกของเขาจะได้รับการตีพิมพ์

หนังเรื่องนี้เหมาะกับใคร

สำหรับ Reprise เป็นหนังที่เนื้อหาตรงใจคนหนุ่มสาวยุคปัจจุบัน กระเทาะเปลือกมุมมองผู้ชายที่มีเป้าหมายในชีวิตคล้ายๆกัน คืออยากประสบความสำเร็จตามความฝันของตัวเอง แต่ปัญหาคือชีวิตจริงกับความฝันอาจไม่ได้เป็นอย่างที่หวัง เพราะมันมีปัจจัยมากมายมารุมเร้า หนังพูดถึงชีวิตและความไม้่แน่นอนของคน ไม่เว้นแม้แต่เรื่องราวของการค้นหาตัวตน ผสมผสานกับเรื่องราวของความต่างระหว่างวัยและการผันเปลี่ยนของสังคมได้อย่างลงตัว

• สายหนังดราม่า
• สายหนังรางวัล
• สายหนังโรแมนติก

รีวิว / สรุปเนื้อหา

ตั้งแต่ The Worst Person In The World เข้าฉาย บอกเลยว่าเราสนใจงานของผู้กำกับชาวนอร์จี้เจียนคนนี้มา Joachim Trier เป็นคนที่กล้าหยิบชีวิตหนุ่มสาวมาเล่าได้น่าสนใจ นี่คือจุดเริ่มต้นของงาน Oslo Trilogy ไตรภาคเมืองหลวงนอร์เวย์ ที่เขาเล่าถึงชีวิตผู้คนที่กำลังแสว่งหาดิ้นรนเพื่อโอกาสได้เติบโตในสายงานที่ตัวเองรัก เมื่อค้นหาว่าตัวเองพบเจอว่าชอบอะไร แต่เส้นทางไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ ตัวละคร 2 คนฝัน ชอบเหมือนกันอยากเป็นนักเขียน อยากมีผลงานเป็นของตัวเอง อยากมีชื่อเสียง แต่เส้นทางแตกต่างสิ้นเชิง คนหนึ่งรุ่ง อีกคนร่วง ฟิลิป เคยประสบความสำเร็จ แต่พอพบเจอความผิดหวัง เขาเริ่มกังวลว่าอาจสูญเสียพรสรรค์ที่มี แถมยังเผชิญหน้ากับความคาดหวัง คาดกดดันเพราะงานชิ้นเดิม ประสบความสำเร็จ ทุกคนมองว่างานเขียนเล่มต่อไปมันต้องดีจะเจ๋งยิ่งกว่า ส่วนอีริค นักเขียนไร้ชั้นเชิงไม่มีอะไรพิเศษ เขามีชีวิตเขียนธรรมดา แต่กลับค่อยๆดังมีชื่อเสียงขึ้นเรื่อยๆ กลายเป็นนักเขียนที่น่าจับตามองทั้งที่ผ่านมาเขาเป็นแค่คนที่ตกอยู่ในร่มเงาเพื่อนตัวเอง

หนังพูดถึงประเด็นความสัมพันธ์ของตัวละครคนหนึ่งที่รุ่งสุดขีดกลัวการล้มเหลว แบกรับมันไม่ไหวและชีวิตหวาดกลัวจนทุกอย่างดำดิ่ง ส่วนอีกคนไม่มีอะไรเลย แต่ชีวิตกลับไปได้ดี กราฟชีวิตต่างกันสุดขีด พวกเขาคือเพื่อนรักกันแต่ชีวิตแยกย้ายแยกทางกันไปในแบบฉบับตัวเอง และไม่มีวันที่จะกลับมาเหมือนเดิม เหมือนวันแรกที่พวกเขาคิดและฝันร่วมกันไว้ หนังยอดเยี่ยมตรงที่เทคนิควิธีการเล่าเรื่อง ที่ปูเนื้อหาตัวละคร แล้วก็ตัดสลับฉากเนื้อหาทีละนิดทีละน้อย มีเสียงบรรยายสลับมาช่วยทำให้เข้าใจเรื่องราว หนังมี Message ที่ดี มันพูดถึงการแบกรับความคาดหวัง ความกดดันของคนที่ประสบความสำเร็จในช่วงวัยรุ่นรับมือไม่ทัน ชีวิตหนุ่มสาวที่ได้เข้าใจ มันทำให้เรารับรู้ว่า สุข ทุกข์ เศร้า ความสิ้นหวัง ความสับสน ทุกอย่างเกิดขึ้นได้หมด หรือแม้แต่ชีวิตเราก็พบกับความว่างเปล่า หนังถ่ายทอดอออกมาดูเป็นธรรมชาติ ไม่ได้หยาบหรือดาร์คจนเกินไป

เมื่อสำรวจดูหนังเรื่องนี้สิ่งหนึ่งที่ผู้กำกับใส่ลงไปคือ หนังพูดถึงคนเราแม่งก็เห็นแก่ตัว แต่พยายามทำตัวแบบรู้สึกว่าผิด แต่จริงๆแล้วก็ทำเพื่อรักษาน้ำใจ ซึ่งมันน่าอึดอัดสิ้นดี หนังเล่าผ่านมุมมองออสโล เมืองหลวงของนอร์เวย์ที่วัยรุ่นมากมายได้มีเวลาชีวิตได้ค้นหาคำตอบสิ่งที่ชีวิตต้องการจริงๆแล้วมันคืออะไรกันแน่ พวกเขามีพื้นที่มีเวลาให้ได้ทดลองทำโน่นทำนี่ล้มเหลวแล้วก็มีโอกาสหาทางเลือกใหม่ บรรยากาศหนังมันดูเรียลมาก เหนือสิ่งอื่นได้คือการแสดงของดารานำ 2 คน Anders Danielsen ที่ชีวิตจริงเป็นคุณหมอดาราคู่บุญของผู้กำกับ Joachim Trier ที่แสดงใน The Worst Person In The World นี่คือตัวละครที่พาเราดำดิ่งเป็นกับความสำเร็จและความผิดหวัง ชีวิตมันไม่มีอะไรแน่นอน และไม่มีสูตรสำเร็จจริงๆ ด้าน Phillip Espen Klouman Høiner เป็นเสมือนคนที่ไม่เก่งไม่มีอะไรเลย แต่ชีวิตพอไปอยู่ถูกที่ถูกเวลา มันทำให้เขาค่อยเติบโตทีละนิดทีละน้อย แต่อย่างก้าวทุกอย่างดูมั่นคง