Kurt Cobain: Montage of Heck (2015)
เคิร์ต โคเบน รำลึกราชาอัลเทอร์เนทีฟ
คะแนน
โกดังหนัง
สารคดีเพื่อแฟนๆ Nirvana โดยเฉพาะ ชีวิตที่เต็มไปด้วยบาดแผลมองไม่เห็นแสงสว่าง สัมผัสทุกแง่มุมที่สับสน ก่อนจะผงาดในฐานะร็อคสตาร์ในเวลาต่อมา
หมวดหมู่ : | Documentary |
สัญชาติ : | American |
กำกับโดย : | Brett Morgen |
ความยาว : | 2 ชั่วโมง 25 นาที |
นักแสดงนำ : | Courtney Love, Frances Bean Cobain, Dave Grohl |
คำคมจากภาพยนตร์
"Wanting to be someone else is a waste of who you are."
"การอยากเป็นคนอื่นมันเสียตัวตนที่คุณเป็น"
เรื่องย่อ
สารคดีที่น่าทึ่งของการสร้างความสำเร็จและการล่มสลายของหนึ่งในศิลปินที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลก นี่ไม่ใช่การเดินทางเพื่อความทรงจำที่ดีสำหรับแฟนๆ ของ Nirvana แต่เป็นการแสดงให้เห็นภาพที่ดิบๆ และตรงไปตรงมาของชายผู้ไม่เคยรอดพ้นจากปีศาจของเขาได้เลย 100% ยกนิ้วให้
หนังเรื่องนี้เหมาะกับใคร
สำหรับ Kurt Cobain: Montage of Heck เป็นสารคดีที่เหมาะกับสาวกเดนตายของ Nirvana และคอเพลงแนวกรั๊นจ์หรือชาวร็อคตัวจริงเสียงจริง เนื้อหาเจาะลึกไปกับต้วต้นของ Kurt ในแง่มุมที่หลายๆคนไม่เคยรู้เจ็บปวดบาดลึก มันคือการระบายผ่านเรื่องราวที่ไม่มีใครเข้าใจว่าความโหดร้ายในชีวิตเกิดจากภาระสังคมรอบข้าง มันหดหู่สิ้นหวัง เลยกลายเป็นเพลงฮิตๆเพลงสร้างชื่อของวงไปโดยปริยาย
รีวิว / สรุปเนื้อหา
Kurt Montage of Heck สารคดีชีวิตของ Kurt เจ้าพ่อเพลงกรั๊นจ์ แนวดนตรีที่มาเร็วไปเร็วดับซ่าวงการเพลงแนวแฮร์แบนด์ให้สิ้นซาก แต่งตัวเสื้อยืด กางเกงยีนส์ กีตาร์ไม่เน้นโซโล่ ดนตรีซาวด์ความหนักหน่วงซาวด์แบบดิบๆ สารคดีความยาว 145 นาที เรื่องนี้ เล่าถึงเรื่องราวเกี่ยวกับ Kurt ที่สาวกหลายคนอาจยังไม่รู้ในบางมุม ตั้งแต่เล่าถึงกำเนิดของ, จุดหักเหในชีวิต, การใช้สารเสพติด ยาวไปจนถึงช่วงที่โด่งดังที่สุด และการใช้ชีวิตคู่กับภรรยา เล่าผ่านบทสัมภาษณ์ของคนรอบตัว หรือบางช่วงก็เล่าจากไดอารี่ของเขาเอง โดยมีภาพเอนิเมชั่น และบทเพลงของ Nirvana ในรูปแบบเครื่องสาย เป็นส่วนประกอบในการเล่าเรื่อง ส่วนตัวชอบประเด็นที่นำเสนอ ผ่านภาพการ์ตูนที่ทำให้เห็นภาพความจริง ที่รับรู้เลยว่าร็อคสตาร์ผู้นี้หดหู่มีชีวิตที่สิ้นหวังมากๆ
ยิ่งพอฟังเพลง Something in the Way ที่ผู้กำกับ The batman อย่าง Matt Reeves นำไปใช้เป็นพล็อตหนัง คือมันใช่เลย ชีวิต Kurt แทบไม่ต่างจาก Bruce Wayne เวอร์ชั่น Robert Pattinson เลย เมืองที่อยู่อาศัยแม่งก็นรกดีๆนี่เอง ยาเสพติด อบายมุข คนไร้บ้าน คนจรจัด คนตกงาน หลายๆอย่างหล่อหลอมให้ Kurt เป็นคนที่ยุ่งเหยิง เหมือนคนที่มีจิตใจเปราะบาง และสุดท้ายเขาก็เรียนไม่จบ หันไปเล่นยาตั้งแต่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ ช่วงชีวิตที่ยังไม่ได้จับกีตาร์อย่างจริงจัง ดูเหมือนจะมืดมน เขาลองทำในสิ่งดาร์คๆ ที่เป็นสิ่งต้องห้าม โดดเรียน, ทำลายข้าวของ, พยายามจะให้รถไฟทับฆ่าตัวตาย, ลิ้มลองการมีเพศสัมพันธ์กับผู้หญิง, ทำร้ายร่างกายหนักขึ้นจนร่างกายปวดท้องรับไม่ไหวซึ่งมันมาจากการเสพยาหนัก ซึ่งมันก็มาจากอิทธิพลจากสภาพสังคมคนรอบข้าง และตัว Kurt ก็มาจากครอบครัวชนชั้นแรงงานที่พ่อแม่เองก็แยกทางกัน หนังพาไปสำรวจความรู้สึกนึกคิดของ Kurt ที้เบื่อหน่ายกับความเลวร้ายในสังคม ชีวิตสิ้นหวังอยู่ดีๆ ก็กลายมาเป็นนักดนตรี เพียงเพราะอยากระบายความอึดอัดออกมาเป็นเพลง
จากภารโรงทำเพลงเพราะอยากระบายอยู่ดีๆก็ชีวิตโด่งดังเป็นพลุแตก ได้ออกอัลบั้มชุดแรก และต่ยอดมาสู่การทำอัลบั้ม Nevermind ที่มียอดขายถล่มถลายมีเพลงฮิตแทบทุกแทร็ก กลายเป็นขวัญใจวัยรุ่นที่คนมากมายอยากหลอกเลียนแบบและเจริญรอยตาม ชีวิตจากมืดสนิทกลายเป็นมีพร้อมทุกอย่างมีเงินมีทอง แทนที่จะขยับขยายไปสู่สิ่งที่ดีกว่า แต่ Kurt ใช้ชีวิตธรรมดาเรียบง่ายมีภรรยาและลูกสาว แต่มันไม่ได้ทำให้เขาไปในจุดที่ดีขึ้นความเป็นเด็กบ้านแตกสาแหรกขาดหล่อหลอมให้เขากลายเป็นศิลปินเพลงร็อค แต่ในเวลาเดียวกันชื่อเสียง ยาเสพติด โรคซึมเศร้า อาการปวดท้องที่นับวันมีแต่จะแย่ลง และปัญหาอีกร้อยแปดที่ถาโถมเข้ามา เมื่อแบกรับไม่ได้ก็บอกลาโลกนี้ดีกว่า หนังสื่อให้เห็นว่า Kurt เองก็แค่คนธรรมดา มีผิดหวัง มีความเลวร้าย แต่ในเวลาเดียวกันเขาก็แค่คนที่อยากจะไปให้พ้นๆจากสังคมที่อึดอัน เสียงร้องการระเบิดอารมณ์ผ่านเสียงเพลงมันคือการระบายแต่ดันไปสร้างความสุขให้แฟนเพลง และเขาคือตำนานที่ทุกคนบูชามาจนถึงปัจจุบัน
เกร็ดจากหนังเรื่องนี้
- สารคดีที่ใช้เวลาทำนานถึง 7 ปี
- ทีมงานเริ่มเก็บฟุตเทจสัมภาษณ์คนใกล้ชิด Kurt มาตั้งแต่ปี 2007
- หนังทำภาพฟุตเทจขึ้นมาใหม่ ในฉากที่ไม่สามารถหาภาพมาได้