Bullet Train (2022)
ระห่ำด่วน ขบวนนักฆ่า
คะแนน
โกดังหนัง
หนังแอ็คชั่นใหม่ของผู้กำกับ Deadpool 2และ JohnWick นักฆ่าทำภารกิจบนรถไฟ เนื้อหาแม่งโคตรมันส์เดือดกว่าที่คิด ฉากเซอรไพรส์เพียบ พล็อตสับขาหลอกคนดู วางตัวละครได้แยบยล ปล่อยมุกกันฮาลั่นโรง Brad Pitt คุณภาพไม่มีตกจริงๆ
คำคมจากภาพยนตร์
"Nothing In Life Is An Accident."
ไม่มีอะไรในชีวิตที่เป็นอุบัติเหตุ
เรื่องย่อ
เลดี้บั๊ก นักฆ่าพาซวย โชคชะตามักจะมีอะไรเซอร์ไพรส์เสมอ กับภารกิจครั้งสำคัญที่ทำให้เขาต้องปะทะกับนักฆ่าจากทั่วโลก ทุกคนต่างมีเป้าหมายที่เกี่ยวข้องกันแต่ก็ต้องต่อกรกันอย่างเลี่ยงไม่ได้ บนรถไฟที่เร็วที่สุด...เขาจะลงจากขบวนรถไฟได้อย่างไร? ปลายทางสุดโกลาหล เป็นจุดเริ่มต้นความระห่ำ
หนังเรื่องนี้เหมาะกับใคร
สำหรับ Bullet Train จัดว่าเป็นหนังแอ็คชั่นคอมเมดี้โคตรเดือด ที่ใช้สถานการณ์ความดวงซวยของคนบนรถไฟความเร็วสูงมาเล่าเรื่องได้หรรษาและโคตรฉลาด เนื้อหางัดคิวบู๊มุกตลกหน้าตายทำให้เกิดอารมณ์ขัน มีความบ้าบอมีวินาศสันตะโร ถ้าเป็นคอหนังแอ็คชั่น เป็นคนที่ดูหนังแบบไม่ซับซ้อนไม่คิดอะไรเรื่องนี้จะเหมาะมากๆ แถมผสมผสานกลิ่นอายความเป็นหนังนักฆ่าโลกใต้ดินของญี่ปุุ่นที่ดูไม่ปลอม และเชื่อมโยงเส้นเรื่องในแบบที่ไม่คาดคิด มันจึงเป็นหนังที่เดาอะไรไม่ได้
- สายหนังแอ็คชั่น
- สายหนังที่ชอบกลิ่นอายญี่ปุ่น
- สายหนังตลก
รีวิว / สรุปเนื้อหา
คำวิจารณ์หนังอาจออกมาธรรมดา แต่พอได้ดูจริงหนังค่อนข้างจัดจ้านไม่เบาเลยจ้า คือไม่ได้เน้นแค่ขนนักแสดงดัง หรืออัดแน่นไปด้วยฉากแอ็คชั่น จังหวะนรก แต่พล็อตเรื่องวางโครงได้ดีสนุกเกินคาด หนังมาด้วยความฮาปนอารมณ์ขันในช่วงแรกๆ ที่เกริ่นนำตัวละครนักฆ่าบนรถไฟจากนั้นเปิดเรื่องการต่อสู้ของนักฆ่าทันที เราคาดเดาเรื่องราวอะไรไม่ได้เลย เพราะทุกๆฉากๆทุกๆซีนมีตัวละครลับปรากฏตัวเพียบสร้างเซอร์ไพรส์ผู้ชม ขบวนรถไฟที่ทุกคนแม่งต้องเงียบ ห้ามส่งเสียงไปรบกวนคนอื่น แต่มีนักฆ่ามากมายพร้อมใจกันขึ้นรถไฟมาเพื่อฆ่าคน มันเป็นความบันเทิงระดับ 5 ดาว ที่ใส่ฉากแอ็คชั่นเป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยมการจัดวางตัวละครได้บู๊ได้ไล่ล่ากันอย่างเมามันส์ การใช้โลเคชั่นรถไฟความเร็วสูงเพื่อสร้างคิวบู๊ทำเราร้องว้าวไปเลยจ้า ซัดกันยับเยิน สู้กันไปไม่พอ ปล่อยมุกแทบทุกฉากและมาได้ถูกจังหวะ สับขาหลอกคนดูไปเต็มๆ
นอกจากฉากแอ็คชั่นคิวบู๊มุกตลกการจัดวางเนื้อหาตัวละครที่ดีจนทำให้หนังดูไม่น่าเบื่อ บรรยากาศหนังบนรถไฟโลเคชั่นเดียวก็ทำได้เชื่อสนิทใจว่า เรื่องราวที่เพลิดเพลินอยู่ตรงหน้านี้คือประเทศญี่ปุ่น รถไฟฟ้าชิงคันเซนความเร็วสูง ทั้งที่เซตติ้งการถ่ายทำทั้งหมดไม่ได้ไปสถานที่จริงอยู่ที่อเมริกา แต่การทำเนื้อหาไม่ได้หลอกตา นักฆ่าแต่ละคนปรากฏตัวออกมาทำเรานึกว่านี่มันโลกยากูซ่าชัดๆ หนังมีความหลากหลายซาวด์ประกอบมิกซ์มาได้ลงตัวมาก มันบิ้วอารมณ์ให้เข้ากับการต่อสู้แบบชี้เป็นชี้ตายให้ตัวละคร สร้างความหึกเหิมขึ้นทันที แถมผู้กำกับยังนำเสนอในประเด็นจังหวะชีวิตคน ความซวย โชคชะตา ชะตากรรม ที่ทุกคนๆไม่รู้อนาคตข้างหน้าได้ออกมาดี คือทุกอย่างเชื่อมโยงกันได้ดิบดี ทำให้นักฆ่าอย่าง Lady Bugs ต้องพบวันซวยๆไปเต็มๆ ช่วงท้ายๆเรื่องหนังโคตรเท่ห์มากๆ เดือดแค่ไหนแนะนำให้ไปดูในโรงรับรองไม่ผิดหวัง
ส่วนนักแสดง คงไม่มีใครคิดว่า Brad Pitt จะกลับมาสู่การบู๊ได้ดุเดือด การเปิดตัวหนังในลุคดูธรรมดาไม่มีพิษภัย เหมือนคุณลุงมาเอากระเป๋าส่งของ แล้วพอเจอเหตุการณ์ซวยๆก็เปิดพื้นที่ให้เล่นคิวบู๊เอง ซึ่งเทพบุตรวงการหนังวัย 57 ปีก็แสดงเองไปมากกว่า 95 % ว่าง่ายๆคือก็เล่นเอง มันเลนทำให้เราได้เห็นฉากแอ็คชั่นเพี้ยนๆฮาๆเต็มไปหมดจาก Brad ส่วน Aaron Taylor-Johnson สุดหล่อที่พักหลังปรากฏตัวในหนังฟอร์มยักษ์ เรื่องนี้ก็พีคมาก เล่นเป็นนักฆ่าฝาแฝดกับ Brian Tyree Henry นี่คือ 2 ตัวละครที่มี Impact กับหนัง เน้นฮาเน้นความเสียงหัวเราะให้ผู้ชม, Hiroyuki Sanada หรือพี่ชิเหน๋ ตัวละครที่แทบจะโผล่มาในหนังแอ็คชั้นดังๆแทบทุกเรื่อง ก็มีฉากบู๊เท่ห์ให้น่าจดจำมากๆ และตัวละครผู้หญิงตัวแสบอย่าง Joey King ที่ตีบทแตกกระจาย หญิงสาวที่แฝงตัวเป็นเหมือนคนดี แต่ซุกซ้อนความร้ายกาจเอาไว้แทบทุกคนแสดงได้ดี ทำให้คนดูสนุกไปกับหนังเรื่องนี้ได้ไม่ยาก
เกร็ดจากหนังเรื่องนี้
- Brad Pitt และ David Leitch คุ้นเคยกันเป็นอย่างดี เพราะว่าฝ่ายหลังเป็นสตั๊นแมนต์มาตั้งแต่หนังเรื่อง Fight Club
- หนังไม่ได้ไปถ่ายทำที่ประเทศญี่ปุ่น
- จอ LCD บนรถไฟคือสิ่งที่จำลองฉากหลังเป็นประเทศญี่ปุ่น
- มุกตลกของนักแสดงมาจากการด้นสด