รวม 8 หนังสยองทุนต่ำ แต่เน้นไอเดียดีจากค่าย Blumhouse
สำหรับคนที่เป็นคอหนังสยองขวัญอยู่แล้ว น่าจะต้องคุ้นเคยและมีการผ่านหูผ่านตากับค่ายหนังที่มีชื่อว่า Blumhouse กันมาบ้าง โดยค่ายนี้เป็นค่ายโปรดักชั่น ที่ก่อตั้งเมื่อปี 2000 โดยชายที่มีชื่อว่า Jason Blum ซึ่งแนวคิดของเขาก็คือการสร้างหนังสยองขวัญทุนต่ำแต่มีไอเดียดี มีความเจ๋งเฉพาะตัวที่ทำให้คนจดจำ โดยแนวคิดนี้แหละที่ทำให้ค่ายของเขานั้นกวาดกำไรมาเพียบ เพราะหลายครั้งที่เขาทำหนังด้วยทุนสร้างหลักหน่วย แต่กลับได้กำไรในระดับร้อยกันเลยทีเดียว
ซึ่งก็ด้วยความที่มันเป็นค่ายอิสระ แบบที่ทุนต่ำนี่แหละ เลยทำให้ในบางเรื่องก็ปัง บางเรื่องก็พังไม่น้อยอยู่เหมือนกัน แต่แอดเองก็แอบรู้สึกว่าในเรื่องที่พังหลายๆ เรื่องก็มีความน่าสนใจของมันอยู่ดีแหละ แต่เพื่อไม่ให้เสียเวลากับเรื่องไม่สนุกเยอะๆ แอดเลยขออาสาคัดเรื่องเด็ดๆ ของค่ายมาให้เลือกดูกันเลยดีกว่า หากติดใจหรือดูจนครบหมดแล้ว ค่อยไปดูเรื่องที่เหลือก็ยังได้ ส่วนจะมีเรื่องอะไรบ้าง ชอบเรื่องไหน ไม่ชอบเรื่องไหน ก็ลองมาคุยกับแอดได้เลยนะ
1. Paranormal Activity (2007)
เคธี่ และมิคาห์ คู่รักใหม่ ที่ฝ่ายชายอย่างมิคาห์กำลังเห่อกล้องและใช้มันถ่ายทุกสิ่งทุกอย่างภายในบ้านตลอดเวลา ประกอบกับที่ช่วงเวลานั้นเกิดเหตุการณ์แปลกๆ ขึ้นในบ้าน ทั้งอาการละเมอของเคธี่ รวมถึงข้าวของต่างๆ ที่เคลื่อนย้ายเอง เขาจึงลองที่จะตั้งกล้องเอาไว้เพื่อหาต้นเหตุของความผิดปกติที่เกิดขึ้น จนได้พบกับความสยองในนั้น และเมื่อยิ่งตามหาข้อมูลลงไปมากขึ้น พวกเขาก็พบความลับอันดำมืดบางอย่างจากตระกูลของเคธี่ ที่จะทำให้พวกเขาตกอยู่ในอันตราย
หนังเรื่องแรกๆ ของค่าย ที่ดึงเอาจุดแข็งของการเป็นหนังสยองขวัญทุนต่ำมาได้เป็นอย่างดี ด้วยการงัดเอาไอเดียหลายๆ อย่างมาขายได้เต็มที่ รวมถึงการสรรหามุขผีหลอกจากการตั้งกล้องเอาไว้ ก็สร้างความน่ากลัวได้อยู่ไม่น้อย แต่ทั้งนี้บางทีฉากผีก็อาจจะเบาๆ ไปหน่อยถ้าไม่นับช่วงท้ายเรื่อง เลยอาจทำให้สายสยองขวัญแบบฮาร์ดคอร์ยังไม่สาแก่ใจเท่าไรนัก แต่หากต้องการมาหาความสร้างสรรค์หามุขๆ ใหม่ๆ หรือเรื่องราวของหนังที่เต็มไปด้วยปริศนาและน่าติดตาม จนทำให้หนังมีภาคต่อตามมาอีกหลายภาคเลย แม้ว่าจะดีบ้างแย่บ้าง แต่สุดท้ายมันก็ทำให้เราประกอบภาพของเรื่องราวมันได้อย่างสนุกเลยล่ะ
2. Sinister (2012)
เอลลิสัน นักเขียนนิยายแนวฆาตกรรม ที่ออกตะเวนหาเหตุการณ์ฆาตกรรมเมื่อนำมาเขียนเรื่องราวในหนังสือของเขา จนกระทั่งวันหนึ่งเขาก็ได้ย้ายมาที่บ้านหลังใหม่ พร้อมกับครอบครัว โดยบ้านที่พวกย้ายมาก็เคยมีเหตุการณ์ฆาตกรรมยกครัวเกิดขึ้น อีกทั้งเขายังได้บังเอิญไปเจอฟิลม์บันทึกเรื่องราวเก่าๆ อันสุดสยองของบ้านหลังนี้ จากหลายๆ ครอบครัวที่ต่างประสบชะตากรรมไม่ต่างกัน ไม่เว้นแม้แต่ครอบครัวของเขา ที่ต้องเผชิญกับความสยองจากบางสิ่งบางอย่างที่กำลังจะเอาชีวิตคนในบ้าน
ขอฝากเอาไว้ในอ้อมใจของหนังสยองขวัญมากๆ เพราะเป็นหนังสยองขวัญจากฝั่งอเมริกันไม่กี่เรื่องที่สร้างความสยองขนลุกขนพองได้อย่างถึงพริกถึงขิง และโดนอกโดนใจไปกับปัจจัยต่างๆ ของหนังสยองขวัญที่มีอย่างครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นการสร้างบรรยากาศสุดหลอน การโยนฉากสะดุ้งแบบเข้าไป พล็อตที่น่าสนใจน่าติดตาม รวมไปถึงตัวละครเอกที่น่าเอาใจช่วย ทั้งหมดทั้งมวลนี้ก็เพียงพอที่จะให้คอหนังสยองขวัญรักมันได้ไม่ยากเลยจริงๆ ใครที่ชอบหนังผียุคใหม่ๆ หน่อย รับรองเลยว่าโดนใจแน่นอน แม้จะมีภาค 2 ตามมาที่หลัง แต่หนังกลับดรอปลงไปมาก ส่วนนึงอาจจะขาดดาราดึงดูดอย่าง Ethan Hawk ไปด้วย
3. The Purge (2013)
ขอฝากเอาไว้ในอ้อมใจของหนังสยองขวัญมากๆ เพราะเป็นหนังสยองขวัญจากฝั่งอเมริกันไม่กี่เรื่องที่สร้างความสยองขนลุกขนพองได้อย่างถึงพริกถึงขิง และโดนอกโดนใจไปกับปัจจัยต่างๆ ของหนังสยองขวัญที่มีอย่างครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นการสร้างบรรยากาศสุดหลอน การโยนฉากสะดุ้งแบบเข้าไป พล็อตที่น่าสนใจน่าติดตาม รวมไปถึงตัวละครเอกที่น่าเอาใจช่วย ทั้งหมดทั้งมวลนี้ก็เพียงพอที่จะให้คอหนังสยองขวัญรักมันได้ไม่ยากเลยจริงๆ ใครที่ชอบหนังผียุคใหม่ๆ
เหมาะกับคนที่ชอบหนังระทึกขวัญ สยองขวัญแบบทุนต่ำที่เน้นขายไอเดียจริงๆ เพราะตัวพล็อตมันไปไกลถึงระดับการเมืองระดับประเทศ แต่ก็น่าเสียดายที่หนังไม่ได้ปรับตัวเองตามไปให้ถึงขั้นนั้นในภาคนี้ รวมถึงประเด็นก็ยังไม่ได้ออกมาเข้มข้นมากนัก เลยทำให้คนที่กะว่ามาดูหนังไล่ฆ่า ไล่เชือดกันแบบโหดๆ อาจจะต้องผิดหวังกันอยู่ไม่น้อย แต่หากมองในอีกแง่ก็นับเป็นการปูเรื่องในระดับเล็กๆ อย่างครอบครัว ก่อนที่จะนำไปสู่ภาคต่อๆ ไป ที่ขยายสเกลไปในระดับของเมืองได้มากกว่านี้จริงๆ
4. Get Out (2017)
คริส หนุ่มผิวสีที่คบกับ โรส สาวผิวขาว ที่ความสัมพันธ์ในระยะเวลา 5 เดือนของทั้งคู่ ก็ดูเหมือนจะรักและเข้ากันได้เป็นอย่างดี จนกระทั่งวันหนึ่ง โรส ก็ได้มีแผนพา คริส ไปเพื่อพบปะกับครอบครัวของเธอ ซึ่งเมื่อเขาไปถึงก็ได้พบกับบรรยากาศครอบครัวที่ดูอบอุ่น แต่ก็เต็มไปด้วยความไม่น่าไว้วางใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับบรรดาคนรับใช้ผิวสีในระแวกบ้านหลังนี้ ที่ดูมีพฤติกรรมชวนหลอนเป็นอย่างมาก และยิ่งเขาใช้เวลาอยู่ที่นี่นานขึ้น ก็ทำให้เขาได้พบกับความลับบางอย่างที่สุดแสนอันตรายจนเขาต้องหาทางเอาตัวรอดออกไปให้ได้
หนังที่เหมาะกับคอหนังสยองขวัญ ระทึกขวัญที่อยากได้อะไรที่แปลกใหม่ อย่างเช่น การโยนประเด็นเรื่องผิวสี ที่เสียดสีสังคมอเมริกันมาได้เจ็บแสบ รวมถึงความตลกร้ายหน้าตาย ที่เข้ามาอยู่ในหนังสยองขวัญได้ลงตัวแล้ว เรื่องนี้คือคำตอบของสิ่งที่กำลังตามหาเลย เพราะหนังมีครบทุกอย่าง แถมยังเดินเรื่องได้สนุก จากบทที่แปลกใหม่และชวนติดตามได้ทั้งเรื่อง จนเรียกได้ว่าเป็นสยองขวัญสุดสร้างสรรค์สำหรับ Gen ใหม่ก็ไม่แปลกนัก อีกทั้งหนังยังกวาดรางวัลมาได้อีกเพียบ จนนับว่าเป็นงานชั้นดีระดับเรือธงของค่ายที่ไม่ควรพลาดเลย
5. Happy Death Day (2017)
ทรี สาวมหาลัยที่ใช้ชีวิตแบบสาวมหาลัยสุดฮอททั่วไป ที่ใช้ชีวิตสนุกไปวันๆ เน้นเที่ยวเมาหัวราน้ำมากกว่าที่จะเข้าเรียน จนกระทั่งในวันเกิดของเธอที่เมื่อตื่นขึ้นมาเธอก็พบกับชายหนุ่มที่เธอจำชื่อไม่ได้ หลังจากการเมาอย่างหนักหน่วง เธอจึงพาร่างที่ยังไม่สร่างเมากลับมาที่ห้องพัก และเตรียมออกมาปาร์ตี้ต่อในคืนนั้น แต่ในระหว่างทาง เธอกลับโดนฆาตกรสวมหน้ากากมาสคอตของโรงเรียนฆ่าตายอย่างโหดเหี้ยม แต่แล้วเธอก็ตื่นขึ้นมาในวันเกิดของเธออีกครั้ง แล้วก็ตายอีก เมื่อตื่นอีกรอบเธอจึงต้องออกตามหาความจริง และเอาชีวิตรอดไปให้พ้นวันให้ได้
สำหรับคนที่กำลังเบื่อหนังไล่ฆ่าแบบเดิมๆ ที่โยนวัยรุ่นเข้ามาเป็นเหยื่อให้ฆาตกรโรคจิตใส่หน้ากากไล่เชือดอยู่เรื่อยไป แต่เรื่องนี้ก็โยนเอาพล็อตลูปเวลาเข้ามาผสม จนยกระดับให้หนังไล่ฆ่าแบบเดิมๆ นั้นดูมีอะไรและชวนติดตามมากขึ้น อีกทั้งตัวบทที่ผสมหลากหลายแนวก็ออกมากลมกล่อมดีด้วย หนังจึงเหมาะอย่างมากกับคนที่ชอบหนังขายไอเดียจากค่าย Blumhouse ที่ทำออกมาได้ดีกว่าที่คิด แถมภาค 2 ยังบ้าถึงขนาดเอาทฤษฏีเวลามาเล่นกันแบบจัดเต็มมากๆ เรียกได้ว่าขายไอเดียสุดๆ เลย
6. Insidious (2010)
จอร์ช และ เรไน แลมเบิร์ธ คู่สามีภรรยาที่เผชิญกับเรื่องราวประหลาด เมื่อลูกชายคนโตของพวกนั้น ตกอยู่ในอาการโคม่า เมื่อพาไปหมอและใช้วิธีการรักษาในหลายๆ ทาง แต่ก็ไม่มีอะไรดีขึ้น ทำให้พวกเขาจึงตัดสินใจขอความช่วยเหลือจากหมอผี เอลิส ที่บอกกับพวกเขาว่า ลูกชายของพวกเขานั้น วิญญาณออกจากร่างไป และถูกปีศาจตัวนึงจับเอาไว้ในโลกหลังความตาย ในขณะที่บรรดาภูตผีจากอีกฝั่งก็เริ่มรุกรานครอบครัวนี้มากขึ้น เพราะหวังยึดร่างลูกชายของพวกเขา ทำให้ทั้งสองสามีภรรยา รวมถึงทีมงานแม่หมอ จึงต้องร่วมมือกันทุกวิถีทาง เพื่อไม่ให้ลูกชายของเขาติดอยู่ในโลกนั้นไปตลอดกาล
อีกหนังสยองขวัญยุคใหม่ที่เหมาะสำหรับคอหนังสยองขวัญเป็นอย่างมาก และสร้างความแปลกใหม่จากหนังสยองขวัญเดิมๆ ที่เคยทำมาได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะคอหนังผีแบบ Hardcore ที่ชอบในส่วนของบรรยากาศชวนหลอน ผีโผล่มาแบบไม่ต้องหลบ และเสียงประกอบที่ทำเอาโสตประสาทหวั่นไหว แถมเนื้อเรื่องที่พาทัวร์แดนวิญญาณก็เป็นฟิลลิ่งบ้านผีสิงที่โหดดี พล็อตเรื่องรวมๆ ก็ถือว่าสนุก อาจจะมีภาคหลังๆ ออกทะเลไปหน่อย แต่ก็คุ้มค่าที่จะเสียเวลาดูกันอยู่ดี
7. Unfriended (2014)
ลอร่า บาร์นส์ สาววัยรุ่นที่ฆ่าตัวตาย หลังจากที่ถูกกลุ่มเพื่อนๆ แอบถ่ายเธอในขณะเมาไปลงในโลกออนไลน์ จนสร้างความอับอายให้เธอเป็นอย่างมาก จนทำให้เธอทนไม่ไหวจบชีวิตตัวเอง หลังจากผ่านไป 1 ปี แบล์ สาววัยรุ่นอีกคนที่เคยรู้จักกับลอร่า ได้นัดประชุมสายกับกลุ่มเพื่อนๆ ของเธอ โดยที่ไม่รู้เลยว่า มันจะนำไปสู่ความสยอง เมื่อเพื่อนเก่าของเธอได้กลับมาในรูปแบบดิจิทัลแล้วค่อยๆ คร่าชีวิตพวกเขาไปทีละคน
หนังขายไอเดียสุดเจ๋งด้วยการเล่าเรื่องผ่านหน้าจอเท่านั้น โดยทุกอย่างที่เกิดขึ้นนั้นจะผ่านโปรแกรม Skype ที่ตัวละครใช้พูดคุยกัน แม้ว่าจะมีข้อจำกัดจากหน้าจอ แต่หนังก็สามารถสร้างสรรค์ความสยองออกมาได้เป็นอย่างดี มีลูกเล่นที่น่าสนใจ และใช้หน้าจอมาได้เกิดประโยชน์สุดๆ อีกทั้งประเด็นของหนังก็ยังพูดถึงการ Bullying ในโลกออนไลน์ที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งในปัจจุบันเลย ซึ่งหนังเองก็มีภาค 2 ตามมา แม้ว่าจะไม่ได้เป็นเรื่องผีและวิญญาณ แต่ก็เป็นการสะท้อนภัยร้ายของโลกออนไลน์จากเหล่า Hacker ออกมาได้น่ากลัวไม่แพ้ภาคแรกเลย
8. The Black Phone (2022)
ฟินนี่ย์ ชอว์ เด็กหนุ่มวัย 13 ที่โดยฆาตกรต่อเนื่องคนดังที่มีชื่อว่า “The Grabber” ลักพาตัวแล้วพาไปขังเอาไว้ในห้องใต้ดินอันมืดมิด แต่ในสถานการณ์สุดสิ้นหวังนั้น เขากลับพบโทรศัพท์ปริศนาอันนึง ที่แม้ว่ามันจะต่อสายไปยังโลกภายนอกไม่ได้ แต่มันกลับทำให้เขาได้สื่อสารกับเหยื่อรายก่อนๆ ที่ตายไปได้ และช่วยกันพาให้เขารอดไปจากสถานการณ์นี้
อีกหนังพล็อตเจ๋งของปี ที่ได้ Ethan Hawk ขาประจำของค่ายมารับบทเป็นฆาตกรโรคจิต พร้อมกับเรื่องราวชวนลุ้น กับเหยื่อและเหล่าวิญญาณที่จะให้เรามาช่วยลุ้นว่าเขาจะรอดไปจากสถานการณ์นี้ได้อย่างไร ใครชอบหนังพล็อตน่าสนใจไอเดียดีแบบนี้ ไปรับชมกันได้เลยในโรงภาพยนตร์สัปดาห์นี้ (13 ก.ค. 2022)