Broker (2022)
จัดหารัก
คะแนน
โกดังหนัง
โคเรเอดะเก่งกาจ ทำหนังด้านมืดสังคมเกาหลีธุรกิจสีเทาค้าขายเด็กทารกเล่าในมุมมองที่สว่าง หรือความไม่พร้อมของผู้หญิงที่มีเด็กเกิดมา กลายเป็นหนังที่ดูอบอุ่น ทั้งที่พล็อตดาร์คมาก เสียดสีสังคมเกาหลีเจ็บแสบ หนังคุณภาพที่ดูเพลินๆได้เลย
หมวดหมู่ : | Drama |
สัญชาติ : | Korean |
กำกับโดย : | Hirokazu Koreeda |
ความยาว : | 2 ชั่วโมง 9 นาที |
นักแสดงนำ : | Song Kang-Ho, Kang Dong Won, IU |
คำคมจากภาพยนตร์
"เราหาผู้ปกครองให้เด็กที่ถูกทิ้ง มันก็เหมือนเป็นการทำบุญนั้นแหละ"
เรื่องย่อ
ซังฮยอน เจ้าของร้านซักรีดที่เป็นอาสาสมัครทำงานให้โบสถ์ใกล้บ้าน ใครๆ ต่างก็มองว่าเขาเป็นคนใจบุญ แต่ลับหลังนั้นเขาและ ดงซู ลูกน้องคนสนิทกลับขโมยเด็กจากกล่องทารก ไปขายต่อในตลาดมืด (กล่องนี้นั้นโบสถ์ทำไว้เพื่อให้พ่อแม่นำลูกทารกที่ตนไม่พร้อมเลี้ยงดูมาวางไว้) ทุกอย่างเป็นไปด้วยดีแทบทุกครั้ง จนกระทั่ง โซยอง คุณแม่วัยสาวคนหนึ่งดันเปลี่ยนใจกลับมาเอาลูกน้อยของเธอคืน ซังฮยอนและดงซูจึงต้องพยายามโน้มน้าวให้หญิงสาวนั้นเปลี่ยนใจ ในขณะเดียวกันตำรวจหญิงสองคน ซูจิน และ อี ก็กำลังสะกดรอยตามแก๊งค้าเด็กและหมายจะจับกุมซังฮยอนให้ได้คาหนังคาเขา!
หนังเรื่องนี้เหมาะกับใคร
สำหรับ Broker นั้นเป็นหนังที่เหมาะกับคนที่ชอบดูหนังของ Hirokazu Koreeda ที่มักพาคนดูไปสำรวจถึงเบื้องลึกของจิตใจมนุษย์ ก่อนที่จะลากคนดูมายำด้วยความเศร้า หดหู่กับเนื้อแท้บางอย่างอยู่เสมอ ซึ่งกับเรื่องนี้ เรามองว่ามันเป็นมุมที่มีความซอฟ และปลอบปะโลมจิตใจมากกว่า แม้ว่าจะมีความเจ็บปวดแฝงอยู่ก็ตาม แต่ในบางช่วงมันก็ทำให้เรารู้สึกอบอุ่นไปกับคำว่าครอบครัวได้อย่างบอกไม่ถูก
- สายหนังรางวัล
- สายหนังเนิบช้าซึมลึก
- สายหนังดราม่าครอบครัว
รีวิว / สรุปเนื้อหา
เรื่องย่อหนังอาจจะดูดาร์คดูเลวร้ายออกแนวอาชญากรรม แต่เนื้อหาข้างหนังมันกลายเป็นหนังครอบครัวที่ดูแล้วอบอุ่น จะว่าไปประเด็นของหนังก็พูดถึงโครงสร้างสังคมเกาหลีถึงความไม่พร้อมของผู้ชายหญิงที่มีเด็กแรกเกิดเกิดขึ้นมา เมื่อภาระในการเอาตัวรอดในสังคมเกาหลีใต้นับวันยากเย็นแสนลำบาก และการมีเด็กน้อยเกิดมาก็แบกภาระแบกชีวิตอีกคนที่ต้องดูแล การทอดทิ้งลูกตัวเองเลยเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เกิดขึ้นเยะแยะในช่วงหลัง มีไม่บ่อยครั้งของคนเป็นแม่เมื่อทิ้งลูกแล้วทิ้งเลย แต่ตัวละครผู้หญิงเกิดความรู้สึกนึกคิดขึ้นมา เธอเองรู้ดีว่ามันผิด และอยากจะกลับมาเอาลูกคืน แต่สุดท้าย เมื่อเด็กทารกลูกในไส้ไปอยู่กับมิจฉาชีพ ความรู้สึกนึกคิดเกิดขึ้น เมื่อมีเงินและตลาดมืด มีกลุ่มคนที่ต้องการเด็ก แต่มีลูกไม่ได้ ทำให้เธอเลยเลือกจะเอาเงินมากกว่าดูแลเลือดเนื้อเชื้อไขตัวเอง ยุคสมัยนี้การดูแลเด็กเล็กมันยากเย็น การร่วมมือกับแก๊งขายเด็กก็คงเป็นตัวเลือกเดียวที่เธอต้องจำใจ แม้ว่าอีกใจหนึ่งไม่อยากทำแต่เพราะไม่มีเงินและสถานะทางสังคมบีบให้เธอเป็นแบบนี้
หนังเรื่องนี้เล่าในแบบโลกสวย แต่ข้างในมันโหดร้าย บรรยากาศเหมือนเลยผ่อนคลาย มีอยู่ 2-3 ประเด็นที่รู้สึกชอบ คือตัวละครหญิงที่ทอดทิ้งลูกถูกถามว่าทำไมไม่ไปทำแท้ง เพื่อตัดปัญหาในเมื่อไม่มีเงินไม่มีปัญหาจะเลี้ยงเด็ก แต่เธอเลือกจะไม่ตัดชีวิตเด็กที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ เลือกจะให้เด็กเกิดมามีชีวิต หรือการที่ตัวละครที่ขายเด็กมีฉากหน้าเป็นร้านซักแห้ง ที่ทำงานเหมือนคนใจบุญ แต่เพราะข้างหลังแอบเอาเด็กไปขาย เพราะพวกเขาเองก็มีปัญหาชีวิตก็ต้องกินต้องใช้เงินเหมือนกัน มันเลยทำให้รู้ว่าโครงสร้างในทุกๆชนชั้นในเกาหลีเองก็มีปัญหาเหมือนกัน การเดินทางบนรถของกลุ่มคนในเรื่องที่จงใจไปขายเด็กทารก มันเหมือนเป็นการไปสำรวจปมตัวละครคุณแม่ยังสาวที่ทอดทิ้งลูกในกล่อง Baby Box เพราะข้ออ้างมากมายที่เธอสารภาพออกมา สุดท้ายมันก็กลายเป็นการผลักปัญหาตัวเองไปให้คนอื่น หรือการที่พวกเขาพยายายามขายเด็กทารก แต่ปิดดีลไม่ลงตัวมันสักที มันไม่ใช่เพราะเรื่องเงิน แต่พวกเขาก็รู้สึกเหมือนกันว่า ถ้าขายไปแล้วเด็กน้อยคนนี้จะเป็นอย่างไรต่อไปอีกละ เมื่อระยะทางความผูกพันธ์ทำให้พวกเขาเริ่มมีความรู้สึกนึกคิดผิดชอบชั่วดีขึ้นมาอีก หนังตั้งคำถามเยอะแยะมากมายให้ผู้ชมได้คิดตามหลากหลายประเด็น โดยเฉพาะช่วงท้ายเรื่องที่จากเดิมต้องการขายเด็กคนนี้เพื่อประโยชน์ของตัวเอง แต่สุดท้ายปลายทางกลับเป็นประเด็นอื่นไปทำให้รู้สึกว่าความผูกพันธ์มันกลายเป็นความสัมผัสความเห็นอกเห็นใจกับเด็กคนนี้ไปแบบไม่ทันตั้งตัว
ส่วนนักแสดงนำในเรื่อง ชอบที่แทบทุกคนถูกจัดวางหน้าที่ของตัวเองรับส่งบทดี ไม่มีใครขาดๆเกินสักคน ไม่ว่าจะเป็น อีจีอึน หรือที่รู้จักกันว่า ไอยู คุณแม่ยังสาวที่ตัดสินใจทอดทิ้งลูก ก่อนจะเปลี่ยนใจในเวลาต่อมา จากเดิมที่ดูเลวร้ายทิ้งลูกได้ แต่สุดท้ายก็ทำเพราะเอาเงิน ขายลูกเพื่อความอยู่รอด สีหน้าแววตาของเธอบ่งบอกถึงความไม่พร้อมที่จะแบกรับปัญหาที่จะเกิดขึ้นออกแนวว่าผลักไส้เด็กออกไป เมื่อได้ใช้ชีวิตอยู่กับลูกในระหว่างเดินทางไปขายเด็ก มันก็เกิดความรู้สึกผิดขึ้นมาแบบไม่ทันตั้งตัว ทิ้งก็ผิด ขายได้เงินก็มีตราบาปในใจอีก ทำอะไรก็ผิดมันทุกข้อเลย, ซง คัง โฮ ชายที่ดูอบอ้อมอารีย์ ดูเหมือนเป็น Family แต่เบื้องหลังคือคนเห็นแก่ตัวคนหนึ่งที่หากินจากการค้าเด็ก ดูเหมือนมือสมัครเล่น แต่ทำมาบอกรอบจัดเชี่ยวชาญมาเป็นอย่างดี, คัง ดง วอน ลูกมือคนสนิทที่เห็นดีเห็นงามก็ลูกพี่ตัวเอง ทำก็เพื่อความอยู่รอด, แบ ดูนา ตำรวจหญิงผู้ไล่ล่าตามจับแก๊งค์ขายเด็กทารก เหมือนเป็นผู้หญิงใสๆ แต่รอบจัดและวางแผนมาเพื่อต้อนแก๊งค์นี้เข้าคุก คือต้องชมผู้กำกับที่จัดวางตัวละครให้ได้น่าสนใจมากๆ เพราะเขาเล่าเรื่องได้ละเมียดละไมมันเลยทำให้ภาพตัวละครทุกคนมีมิติ
เกร็ดจากหนังเรื่องนี้
- หนังได้รับการปรบมือที่เทศกาลหนังเมือง Cannes 12 นาที
- หนังเรื่องนี้ใช้เวลาเตรียมงานมาตั้งแต่ปี 2010
- Song Kang-Ho นักแสดงนำต้องมาช่วยผู้กำกับ Hirokazu Koreeda เกลาบทหนังจากภาษาญี่ปุ่นเป็นเกาหลี
- Hirokazu Koreeda เจอ Song Kang-Ho บ่อยเวลาไปเทศกาลหนัง เลยชักชวนมาแสดงในหนังมันซะเลย