The Protege (2021)
เธอ...รหัสสังหาร
คะแนน
โกดังหนัง
หนังแอ็คชั่นที่ดูเพลิน มีกลิ่นอายแบบ James Bond Casino Royale ที่ได้พลังของแม็คกี้ คิว มาทำให้เห็นนักฆ่าตัวแม่ที่ปังมาก
คำคมจากภาพยนตร์
"Technology evolves so quickly it’s going to kill us one day."
"เทคโนโลยีไปเร็วมาก แม่งคงฆ่าเราตายสักวัน"
เรื่องย่อ
แอนนา นักฆ่าฝีมือฉกาจที่มีอาชีพบังหน้าเป็นเจ้าของร้านหนังสือในลอนดอน เธอคือลูกศิษย์นักฆ่ารุ่นเก๋ามูดี้ แต่ทว่าสถานการณ์อันโหดร้ายเธออาจารย์ที่สั่งสอนวิชาไป ทำให้เธอต้องหาทางแก้แค้นคนที่อยู่เบื้องหลังในครั้งนี้ให้ได้
หนังเรื่องนี้เหมาะกับใคร
สำหรับ The Protege เป็นหนังแอ็คชั่นที่มีกลิ่นอายลูกผสมหนังแบบสายลับกับหนังแนวสืบสวนสอบสวนหาเพื่อแก้แค้นล้างแค้น ว่าการตามตรงถ้านึกภาพไม่ออกหนังมีความคล้าย Casino Royale กับ Mr. & Mrs. Smith ดุดันเล่าเรื่องสนุกมีความเป็นฟิล์มนัวร์ หนังทำงานได้ดีในแง่ของพาร์ทแอ็คชั่นดราม่าที่ตัวร้ายกับตัวเองฟาดกันแต่มีประเด็นซุกซ่อนเอาไว้ให้ได้คิดตามเพียบ หนังดูสนุกไม่ซับซ้อนเกินไป แม้จะมีฉากซ้อนหลอกตาคนเพียบ คอหนังแอ็คชั่นดูได้ดูดีดูสนุกไม่มีผิดหวังแน่ๆ
- สายหนังแอ็คชั่น
- สายหนังแนวล้างแค้น
- สายหนังพลังหญิง
รีวิว / สรุปเนื้อหา
พอดูเรื่องนี้จบบอกเลยว่าเหมือนเรากำลังดู Casino Royale ที่มีกลิ่นอายหนังนักฆ่าแนวฟิล์มนัวร์ชัดๆ พล็อตเรื่องอาจดูธรรมดาไม่มีความแปลกใหม่แต่หนังกลับทำให้ผู้ชมแบบเราๆเพลิดเพลินได้ ความแค้น แก้แค้น ล้างแค้น ความหลังของนักฆ่าสาวคนหนึ่งที่ออกมาลุยทำภารกิจ เธอต้องงัดสกิลทุกอย่างออกมาลุยออกมาบู๊ให้แหลก พอมาเปฌนนักฆ่าพลังหญิงเลยดูจับต้องง่ายกว่าสนุกกว่าที่จะใช้ผู้ชายมาเป็นคนนำเรื่อง ที่ทำให้เรารู้สึกเอนจอยเป็นฉากบู๊นี่แหละที่จัดหนักจัดเต็ม เรียกว่าหนังกลบจุดบอดที่หนังมีช่องโหว่ออกไปซะสนิท ฉากแอ็คชั่นปล่อยออกมาเป็นชุด นักฆ่าสาว องค์กรร้ายที่มาเล่นงานเธอ ได้ Feeling เหมือนหนังไล่ล่าวิ่งไล่จับยังไงยังนั้น
บรรยากาศในเรื่องการเซ็ตติ้งโลเคชั่น ทำได้ดี จากลอนดอน ไปดานัง เวียดนาม มาจงถึงบูคาเรสต์ โรมาเนีย คือหนังโลเคชั่นแต่ละที่ออกมาได้ถึงพริกถึงขิง ไม่ได้ดูหลอกตาคนเลยแม้แต่นิดเดียว หนังสร้างสรรค์ ได้เห็นฉากย้อนความหลังที่ดูแล้วก็หดหู่ของตัวละครแอนนา เธอโดนชุบชีวิตเพราะนักฆ่าอย่างมูดี้ การเล่าเรื่องระหว่างที่ย้อนความหลังสื่อสารให้เราเข้าใจว่าทำไมเธอจึงผูกพันธ์กับครูตัวเอง และทำไมเธอจึงอยากล้างแค้นมากขนาดนี้ บางซีนดูแล้วก็หดหู่เหมือนกัน ต้องชื่นชมว่า มาร์ติน แคมเบลส์ ผู้กำกับนำเสนออกมาได้ดีเลยสานต่อประเด็นความแต้นให้นางเอกอย่างแอนนาได้ แม้ว่าวายร้ายหลักในเรื่องจะถูกใช้งานไม่ถูกที่ถูกทางไปหน่อย
สิ่งที่ทำให้หนังแข็งแรงที่สุดคือพลังของนักแสดงนำนี่แหละที่ถูกใช้งานได้ถูกที่ถูกเวลาทำให้หนังคุมโทนได้ แม็คกี้ คิว นักฆ่าสาวที่มาออกตามล่าฆาตรกรที่อยู่เบื้องหลังการตายของมูดี้ ฉากแอ็คชั่นที่เธอแสดงออกมา เธอเล่นเองแทบทั้งหมด เสี่ยงตาย ภาพที่ออกมาเลยดูสวย ดูสนุก พลังหญิงของเธอบอกเลยว่าเสน่ห์เหลือร้าย ฉากตะลุยเดียวที่เป็น Long Take คือทั้สุดของเธอ จริงๆแล้วมีฉากบู๊ดีๆหลายซีนมาก แต่ Long Take ลุยเดี่ยวคือที่สุด เราได้เห็นคุณภาพของเธอที่คับแก้วมาก ซามูเอล แอล แจ็คสัน นักฆ่าชั้นครูของแอนนา บทบาทนี้ไม่เกรียนไม่มีมีมฮา มาแบบนิ่งสุขุมเยือกเย็นมาก นี่ยังไม่รวมไมเคิล คีตันที่อายุอานามเยอะ แต่ก็ขอเล่นคิวบู๊เองด้วย คุณน้าแกไม่ธรรมดาฉากต่อสู้กับแม็คกี้ดูตื่นเต้นดูฮาในเวลาเดียวกัน
เกร็ดจากหนังเรื่องนี้
- Michael Keaton อายุ 70 ปีแล้ว แต่แสดงฉากบู๊ฉากต่อสู้เองไม่พึ่งพาสตั๊นแมน
- Maggie Q ต้องฝึกซ้อมคิวบู๊เองก่อนจะเข้าฉากแสดงเอง
- หนังไปถ่ายทำที่โรมาเนีย โดยเซ็ตฉากว่าเป็นเวียดนาม