เรื่องย่อ

เบน วิทเทเกอร์ ชายวัย 70 ปี ที่หลังจากเกษียณจากการทำงานมาพักใหญ่ แต่ก็ยังรู้สึกว่าชีวิตมันว่างเกินไปจนอยากที่จะหาอะไรทำ จนกระทั่งเขาได้ไปเจอการรับสมัครพนักงานอาวุโสฝึกหัดในองค์กรแห่งหนึ่งที่เป็นสตาร์ทอัพด้านสินค้าแฟชั่นออนไลน์ และได้กลายเป็นส่วนหนึ่งในองค์กรนี้ร่วมกับเจ้าของกิจการอย่าง จูลส์ ออสติน สาวสวยรุ่นใหม่ไฟแรง ที่ปั้นธุรกิจมาจนประสบความสำเร็จ ในช่วงแรกความสัมพันธ์ของทั้งคู่นั้นเต็มไปด้วยอุปสรรคของความต่างวัย แต่ไม่ทันไรทั้งคู่กลับจูนวิธีการทำงานและทัศนคติกันออกมาได้เป็นอย่างดี จากการแลกเปลี่ยนมุมมองกันได้อย่างน่าสนใจ

หนังเรื่องนี้เหมาะกับใคร

สำหรับ The Intern หนังที่เต็มไปด้วย ความฟีลกู๊ด อิ่มเอม ทำให้ใจฟูได้โดยที่ไม่ได้โลกสวยจนเกินไป อีกทั้งยังให้แง่คิดในการทำงาน การทำธุรกิจให้กับคนดูได้อย่างมากมาย ด้วยเคมีที่เข้ากันของทีมดารา ที่เหมือนปู่วัยเกษียณสุดน่ารัก กับสาวเวิร์กกิ้งวูเมนไฟแรง เลยทำให้เป็นหนังแนวๆ ดราม่าพลังบวก สายธุรกิจอีกเรื่องที่หลายคนน่าจะชอบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าชอบแอน แฮททาเวย์ในบทประมาณนี้มาก่อนใน The Devil Wears Prada แล้ว เรื่องนี้ก็ให้ฟีลคล้ายๆ กัน แต่เรื่องนี้อาจจะได้ไปในทางฟีลกู้ดกว่าสุดๆ

• สายหนังแรงบันดาลใจทำธุรกิจ
• สายหนังดราม่าคอเมดี้ยุคใหม่
• สายหนังเพื่อนต่างวัย

รีวิว / สรุปเนื้อหา

แม้จะขึ้นชื่อว่าเป็นหนังดราม่ามาใน Genre แต่สำหรับ The Intern นั้นกลับเป็นหนังดราม่าที่อัดแน่นด้วยความฟีลกู้ดอย่างเต็มเปี่ยม ที่ทำให้คนดูสามารถหัวเราะ และยิ้มไปกับหนังตลอดทั้งเรื่อง ด้วยมุขตลกที่ใสๆ แบบไม่มีหยาบคาย แต่กลับใช้สถานการณ์ในเรื่องต่างๆ ทั้งความคิดที่แตกต่างของคนสองวัย หรือการนำปัญหาในชีวิตการทำงานมาปรับเป็นมุขตลกได้อย่างน่ารัก และชวนอารมณ์ดีได้อยู่ตลอดเวลาของหนัง

ส่วนนึงต้องเครดิตให้กับทีมดาราอย่าง ปู่โรเบิร์ต เดอ นีโร และแอน แฮททาเวย์ ที่มีเคมีความน่ารักของคนต่างเพศ ต่างวัย ที่เข้าคู่กันมาได้เป็นอย่างดี ในตัวปู่นีโรเองก็เป็นมุมคุณปู่น่ารัก มองโลกด้านบวกที่อยู่ด้วยแล้วอบอุ่น ดูน่าไว้ใจ ให้และคำปรึกษาชีวิตได้ในฐานะคนที่ผ่านโลกมาก่อน ในส่วนของแอน ก็เป็นสาวยุคใหม่ที่ทำงานคล่องแคล่ว แต่สามารถนำพาบริษัทมาได้ประสบความสำเร็จ แต่ดันพังในด้านอื่นๆ ก็สะท้อนอะไรหลายๆ ในชีวิตการทำงานได้เป็นอย่างดี 

สิ่งที่ทำให้หนังประสบความสำเร็จจริงๆ นอกจากความสนุกน่ารักของมันแล้ว ก็คงไม่พ้นในเรื่องของแง่คิดดีๆ ในการทำงาน ที่มีการแสดงออกมาในหลากหลายมุมมอง ทั้งการทำงานในโลกดิจิทัลอันแสนซับซ้อน วัฒนธรรมองค์กร ความแตกต่างระหว่างคนสอง Generation ที่สามารถเอามุมมองการทำงานมาแลกเปลี่ยนและปรับใช้กันได้ ไปจนถึงการบริหารเวลาของตัวเองให้กับคนรักและครอบครัว ต่างๆ นานา ก็เลยทำให้ The Intern กลายเป็นหนังปรากฏการณ์อีกเรื่องที่ใครๆ ต่างก็หลงรักในตอนที่มันออกฉาย เพราะทำให้คนดูใจพองไม่พอ ยังสมองพองไปด้วยข้อคิดดีๆ ไปด้วยเลย