Spotlight (2015)

คนข่าวคลั่ง

Spotlight Poster
9/10

คะแนน
โกดังหนัง

บมหนังเข้มข้นเล่าเรื่องสื่อมวลชนได้อย่างทรงพลัง
การมีทีมนักแสดงที่มีคุณภาพเนื้อหาสนุกมากกว่าที่เราคิดเอาไว้

หมวดหมู่ : Drama History
สัญชาติ : American
กำกับโดย : Tom McCarthy
ความยาว : 2 ชั่วโมง 9 นาที
นักแสดงนำ : Mark Ruffalo, Rachel McAdams, Michael Keaton

คำคมจากภาพยนตร์

"If it takes a village to raise a child it takes a village to abuse one." "ถ้าสังคมมีส่วนปลูกฝังเด็ก สังคมก็มีส่วนทารุณเด็กไม่แพ้กัน"

เรื่องย่อ

เรื่องจริงช่วงปี 2001-2002 ของทีมนักข่าวมืออาชีพแห่งสำนักหนังสือพิมพ์ The Boston Globe บรรณธิการข่าวคนใหม่ของหนังสือพิมพ์ Marty Baron ซึ่งเป็นชาวยิวและไม่ได้เป็นแท้แต่คนบอสตันโดยกำเนิด มอบหมายให้ทีม Spotlight ขุดคุ้ยข่าวบาทหลวงล่วงละเมิดทางเพศเด็กชายในบอสตันในศาสนจักรคาทอลิกท้องถิ่น จนเกิดเป็นแรงกระเพื่อมสั่นสะเทือนแปดเปื้อนไปทุกหย่อมหญ้าของศาสนาคริสต์

หนังเรื่องนี้เหมาะกับใคร

สำหรับ Spotlight  คือภาพยนตร์นำดีที่หยิบประเด็นย่ำแย่ในสังคมอเมริกันมาเล่าผ่านมุมมองสื่อมวลชนที่ทำหน้าที่นำเสนอข่าว เนื้อหาเล่าได้อย่างตรงไปตรงมา อารมณ์เหมือนคนข่าวขุดคุ้ยข้อมูลที่ไม่เป็นธรรมในสังคมที่ไม่มีใครกล่้าเอามาแฉมาเล่าได้สนุกโดยไม่จำเป็นต้องมีฉากแอ็คชั่น หรือเพลงประกอบมาบิ้วอารมณ์ ใช้พลังนักแสดงทำหน้าที่แทน เนื้อหามีบทสรุปที่ทรงพลังสะท้อนถึงการทำงานคนข่าว ถ้าเจอเรื่องไม่ดีคุณจะยอมปล่อยผ่านหรือเดินหน้าสืบหาความจริงต่อ คนที่รักความถูกต้อง หรือคนที่ทำงานสายสื่อมวลชนควรต้องดู

  • สายหนังดราม่า
  • สายหนังสื่อมวลชน
  • สายหนังที่ชอบการเปิดโปงความไม่ชอบธรรมในสังคม

รีวิว / สรุปเนื้อหา

หนังพยายามตั้งคำถามและปล่อยให้ตัวละครเดินหน้าลงพื้นที่หาคำตอบที่แท้จริง การหยิบประเด็นสื่อมาเล่าเรื่อง หนังสไตล์แบบนี้ห่างหายไปจากตลาดหนังอเมริกาพักใหญ่ เนื้อหามาในทิศทางหนังสืบสวนคดีบาทหลวงล่วงละเมิดทางเพศเด็ก เนื้อหาของข่าวคงไม่น่ามีอะไรมาก เพราะก่อนจะเป็นประเด็น เรื่องนี้ถูกปิดหูปิดตามาสักพัก นี่แหละคือประเด็นสำคัญที่ทำให้เรื่องราวมันถูกขุดคุ้ยขึ้นมา หนังพาผู้ชมแบบเราๆไปสำเร็จปัญหาแต่ละจุด ตัวละครในทีมข่าว Spotlight ลงพื้นที่พบปะแหล่งข่าว เจอทั้งเหยื่อ ผู้กระทำ ผู้เกี่ยวข้อง ตามด้วยบทสัมภาษณ์ที่ทั้งจริงและเท็จสลับกันไป ปมปัญหาคล่อยๆคลี่คลายออกมา หนังเล่าเรื่องกระชับฉับไว และเรียบง่าย แต่ผลลัพธ์นั้นอิมแพคต่อความคิดความรู้สึกคนดูได้มหาศาล

เนื้อหามันค่อนข้างอ่อนไหมต่อผู้ชมมาก เกี่ยวกับเรื่องศรัทธาของคน ทำไมศาสนาสิ่งที่ยึเเหนี่ยวจิตใจคน ถึงมีอิทธิพลเทียบเท่ามาเฟียที่มนุษย์เกรงกลัวแต่บาปกรรม สรุปแล้ว ศรัทธา เป็นเพียงแค่เปลือกเท่านั้นจริงๆ ใช่ไหม?
หนังเลือกจะโตมตีไปยังความเลวร้ายในเรื่องของศาสนา และสื่อมวลชนท้องถิ่นคือคนที่ลงมาสืบสวนแทนคนในเครื่องแบบแทน เพราะพวกเขาเลือกจะมองข้ามไป นอกจากนั้นแล้วเนื้อเรื่องมันยังสะท้อนให้เห็นถึงความย่ำแย่สีงคมอเมริกันชน เพราะมันมีประเด็นความเลื่อมใสศรัทธาของคนในสังคม เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย หนังเต็มไปด้วยประเด็นหนักหนาสาหัส แต่สิ่งที่ได้กลับมาคือเราไม่รู้สึกเครียดกับข้อความที่สื่อสารออกมาเลย ตรงข้ามเรากลับรู้สึกว่า เนื้อหาสนุกมาก โดยไม่จำเป็นต้องมาบิ้วอัพหาฉากๆดาร์คๆมาเรียกเรตติ้ง


บทหนังมีความแข็งแรง ใช้ประเด็นการตีแพร่ของสื่อมวลชนมาเล่นงานโจมตีศาสนา ทำให้เราได้รู้ว่าสื่อมีอิทธิพลสำคัญต่อโลกในยุคใหม่ สื่อสามารถชี้เป็นชี้ตายได้เลย จุดนี้เองทำให้เรารู้สึกว่า หนังมีความเป็นหนังน้ำดี นำภาพที่จริงของสื่อมาเล่า แต่ในขณะเดียวกันตัวร้ายของเรื่องคือศาสนจักร แต่ช่้องโหว่คือหนังนำมุมของสื่อมาเล่าอยู่แทบฝ่ายเดียวทำให้เราไม่ได้เห็นมุมบาทหลวงที่ล่วงละเมิดทางเพศเด็ก ทำให้เราไม่ได้เห็นความเลวของผู้กระทำ, ความสกปรกของผู้ที่เกี่ยวข้อง, การปิดหูปิดตาของผู้ที่มีอำนาจ เพราะบางครั้งเหยื่อเมื่อโดนกระทำจะรู้สึกสะเทือนทางจิตใจ จนไม่สามารถเปิดเผยบางอย่างให้กับสังคมรับรู้ได้

ประเด็นสุดท้ายที่เรามากคือการแสดงของทีม Spotlight ทุกคน ที่วางหน้าที่ตัวเองได้ดี อินเนอร์นักแสดงแต่ละคนช่วยส่งให้อารมณ์หนังทรงพลังเช่น Mark Ruffalo ที่อาจจะเป็นแค่นักข่าวธรรมดาแต่มีความกระตือรือร้นและรักในงานของตัวเองเป็นพิเศษเขาทำเต็มที่เพือหาสาเหตุที่แท้จริง จนเกือบทำให้ตัวเองเสียงานจนมีความรู้สึกดราม่าในตัวเอง ขณะที่อีกคนก็คงหนีไม่พ้น Michael Keaton และ Rachel McAdams คนหนึ่งนี่พลังของนักข่าวรุ่นใหญ่ใจนิ่งแถมยังมีมุก งานนี้ต้องยกให้เขา กับอีกคน เป็นสาวสวยที่ดูไม่น่าจะมีอะไร แต่เธอฉลาดในการหาแหล่งข่าวและกัดไม่ปล่อย ในทีมทำให้เราเชื่อสนิทใจว่าตีความเป็นสื่อมวลชนดีเยี่ยม ทำให้คนดูอย่างเราอินตามกับเรื่องราวไปด้วยทุกวินาที

เกร็ดจากหนังเรื่องนี้

  • ตัวละครที่เป็นทีม Spotlight ต้องไป Workshop เพื่อให้เข้าถึงการเป็นสื่อมวลชนจริงๆ
  • หนังคว้า 2 สาขาออสการ์ 2016 บทหนังดั้งเดิมยอดเยี่ยมและหนังยอดเยี่ยม
  • นักแสดงที่รับบทนักข่าวในทีม Spotlight ได้พบกันบุคคลทีมข่าวตัวจริง เพื่อพูดคุยแลกเปลี่ยนมุมมองการทำงานต่างๆกันลงมือแสดงจริง