Sexphone (2003)
คลื่นเหงาสาวข้างบ้าน
คะแนน
โกดังหนัง
หนังรักรอมคอมที่ให้ความรู้สึก Feel Good ใช้คลื่นวิทยุมาเป็นสื่อกลางจนกลายเป็นความรัก บีม กวี และพอลล่า ทำให้เราหลงรักหนังเรื่องนี้มาก
หมวดหมู่ : | Romantic |
สัญชาติ : | Thai |
กำกับโดย : | Haeman Chatemee |
ความยาว : | 1 ชั่วโมง 53 นาที |
นักแสดงนำ : | Kawee Tanjararak, Paula Taylor |
คำคมจากภาพยนตร์
"ความรักก็เหมือนคลื่นวิทยุ ต้องหา ต้องปรับ ต้องจูนกันอยู่เสมอ"
เรื่องย่อ
ดื้อ ดีเจหนุ่มรักสงบ ที่อาศัยอยู่กับคุณปู่ แต่วันดีคืนดีเขามาเจอเพื่อนบ้านสาว เจ ลูกครึ่งที่มีความมั่นใจในตัวเองสูง แต่ทั้งสองคนคือเพื่อนบ้านที่ไม่ลงรอยกันมาตลอด แต่เมื่อเพื่อนสนิทของเจ ได้ฝากเบอร์โทรศัพท์ของบ้านเจ เอาไว้ให้กับสถานีวิทยุที่ชื่อ "คลื่นเหงา" ของดีเจ.แมน (อนันต์ บุนนาค) ที่ดื้อทำงานเป็นผู้ช่วยสถานีวิทยุอยู่ที่นั้น แต่แล้วเมื่อวันที่ดื้อต้องจัดรายการวิทยุโดยจำเป็น ดื้อได้ต่อโทรศัพท์เข้าบ้านของเจ แล้วเกิดการเข้าใจผิดกัน ทำให้เจคิดว่าคนที่เธอคุยอยู่นั้น คือ "เซ็กส์โฟน" แต่หลังจากคืนนั้น เจก็กลายเป็นข่าวดังเพียงช่วงข้ามคืน เจเลยได้ต่อโทรศัพท์เข้าไปต่อว่าดื้อในรายการวิทยุก่อนวันขึ้นปีใหม่ แต่ไม่นานทั้งสอง ก็กลายเป็นเพื่อนคุยที่รู้ใจกันในที่สุด แต่หารู้ไม่ว่าคนที่ทั้งสองคุยกันนั้น ก็คือเพื่อนบ้านตัวแสบที่ไม่ลงรอยกันนั้นเอง
หนังเรื่องนี้เหมาะกับใคร
สำหรับ Sexphone คลื่นเหงา สาวข้างบ้าน จัดเป็นหนังรักในดวงใจใครหลายคนไม่เพ้อฝันจนเกินไป หยิบจับคน 2 คนที่ไม่ถูกชะตากันอย่างรุนแรง แต่กลับตกหลุมรักกันทั้งที่ไม่เคยเจอหน้ากันมาก่อนผ่านการฟังเพลงและบทสนทนาโทรศัพท์ หนังค่อยๆละลายความอคติในใจของตัวละครทิ้งไป ส่วนตัวเป็นหนังรักที่ดูเพลิดเพลินโดยไม่ต้องพยายามเลย แถมมีเพลงประกอบเพราะๆอีกตั้งหาก
- สายหนังโรแมนติก
- สายหนังที่ชอบบีม กวี
รีวิว / สรุปเนื้อหา
นี่คือหนังรักวัยรุ่นของคนแอบเหงาเพื่อนบ้านที่ไม่ถูกชะตาอย่างรุนแรงเจอกันเมื่อไหร่ทะเลาะกันเมื่อนั้น แต่กลับมาเป็นคนที่เข้าอกเข้าใจเพราะต่างระบายปัญหาชีวิตให้อีกฝ่ายจนเป็นความรู้สึกผูกพันธ์ อีกคนหนึ่งรู้แล้วว่าเป็นใครแต่อีกคนนั้นไม่รู้ มันเป็นหนังกุ๊กกิ๊กโรแมนติกที่มีอารมณ์แบบละครไทย ตอนที่เราได้ดูหนังเรื่องนี้ ความรู้สึกในหัวคือรู้สึกว่าคิดถึงการฟังเพลงผ่านคลื่นวิทยุมาก มันคือช่วงเวลาที่เรามีความสุขมารอฟังเพลงที่ชอบเอาไว้ บทหนังใช้คลื่นวิทยุเป็นสื่อกลาง ทำให้คน 2 คนที่ไม่ชอบหน้ากัน ได้มาทำความรู้จักกัน พูดคุยกันแบบเปิดใจ ทั้ง 2 ฝายต่างมีความเข้าใจกันและกันโดยไม่ต้องพยายาม ประเด็นนี้มันสะท้อนให้เราเห็นว่าบางครั้งคนเราย่อมเลือกที่จะคุยแลกเปลี่ยนเรื่องราวามากกว่าคนแปลกหน้ากันมากกว่า เพราะว่าบางครั้งคนที่เราเจอหน้าคุยกันทุกวันอาจไม่สามารถไปคุยรับฟังได้เสมอไป
พระเอกที่เดิมทีก็ไม่ชอบนางเอกทั้งมุมมองและนิสัย พอได้คุยกับเธอผ่านทางโทรศัพท์ได้เรียนรู้เธอไปเรื่อยๆ จนเกิดเป็นความรักความรู้สึกดี กลายเป็นว่ากำแพงในใจที่มีนั้นค่อยๆๆหายไป ทั้งคู่แลกเปลี่ยนพูดคุยกันอย่างสนุกปากเปิดบทสนทนาคุยเพื่อนินทากันได้ และต่างฝ่ายก็มีสิ่งที่ชอบและไม่ชอบในชีวิตประจำวันอยู่ที่เปิดอกคุยกันได้แบบไม่เกรงใจ ทั้ง 2 ฝ่ายกลับรู้สึกดีต่อใจ สนิทกันจนเกิดเป็นความรักแบบไม่รู้ตัวและรอคอยที่จะเจอกัน หนังเรื่องนี้สะท้อนให้เรารับรู้ได้อย่าง 1 ว่าคนเราจะรักกัน บางครั้งเราต้องศึกษาและเข้าใจอีกฝ่าย รับกันให้ได้ ปรับตัวเข้าหากันเพื่อเปิดโอกาสให้อีกคนเข้ามาในชีวิต
นักแสดง ส่วนตัวแล้วชอบนักแสดงนำ 2 คน บีม กวี และพอลล่า เทเลอร์ ทั้งคู่คีย์แมนหลักที่ทำให้เนื้อหาดูน่ารัก บทไม่มีอะไรมาก ตัวละครเกลียดกันไม่ชอบกัน และก็มีแกนกลางคือวิทยุมาทำให้ทั้งคู่ได้รักกันชอบกัน บีม ดีทูบีดังมาก อาร์เอสก็ไม่เอารอช้าที่จะส่งเด็กในสังกัดมาแสดงนำในหนังรักร่วมกับพอลล่า เทเลอร์ ที่ลุคลูกครึ่งใสๆพูดไม่ชัด กลายเป็นเคมีการแสดงที่ลงตัว ไม่ซิเล่นเป็นพระนางได้กลมกลืน จากบทพนักงานเบื้องหลังเปิดในคลื่นวิทยุ กับสาวออฟฟิศขี้เหวี่ยง
เกร็ดจากหนังเรื่องนี้
- นี่คือหนังเรื่องที่ 2 ของพอลล่า เทเลอร์
- บีม กวี แสดงหนังเรื่อง 3 ในค่ายอาร์เอส ถัดจาก ๙ พระคุ้มครอง และ สังหรณ์
- หนังเรื่องนี้อาร์เอสปล่อยมา ในช่วงกระแสอัลบั้มของ D2B พอดี
- หนังได้รางวัลสื่อมวลชนดีเด่นประเภทภาพยนตร์ ประจำปี 2546 จากสื่อมวลชนคาทอลิค
- หนังทำเงินไปเพียงแค่ 26 ล้านบาท เพราะจำนวนโรงฉายน้อยในเวลานั้น