OMG รักจังวะ..ผิดจังหวะ (2022)
รักจังวะ..ผิดจังหวะ
คะแนน
โกดังหนัง
ชอบความธรรมดาที่ดูจับต้องได้อารมณ์หนังไม่ได้เล่นยาก มันมีกลิ่นอายความหวานความขม ลึกซึ้ง และบาดลึก เพื่อนผู้ชายแอบรักหญิงในฝันมานาน สกาย และจูเน่ ขับเคลื่อนหนังได้โดนใจมากๆ
คำคมจากภาพยนตร์
"เรา Move On กันเถอะเนอะ แล้วถ้าเราไม่ Move ละ"
เรื่องย่อ
กาย ที่ดันไปตกหลุมรัก จูน หญิงสาวที่ดันมีแฟนอยู่แล้ว เขาจึงรอจังหวะที่จูนโสดเพื่อเข้าหา แต่พอจูนเลิกกับแฟน กายก็ดันมีแฟนซะอย่างนั้น จนดูเหมือนว่าพระเจ้าคอยกลั่นแกล้งให้ผิดที่ผิดเวลาอยู่ตลอด กระทั่งวันหนึ่ง กายจึงตัดสินใจว่าจะลองเดินหน้าสู้กับพระเจ้าดูสักตั้ง เรื่องราวความรักของคนสองคนที่จังหวะไม่เป็นใจจึงเริ่มต้นขึ้น
หนังเรื่องนี้เหมาะกับใคร
สำหรับ OMG รักจังวะ..ผิดจังหวะ เป็นหนังรักโรแมนติกคอมเมดี้ที่เหมาะกับคนแอบรักรอคอยความรัก พล็อตเรื่องน่าจะไปโดนใจคนดูทั่วไปได้ง่าย การหยิบประเด็นชีวิตในมหาลัย, การเข้าสู่สังคมวัยทำงานและประเด็นครอบครัว มาเล่าเรื่องได้เจ็บแสบบาดลึกความรู้สึก ชีวิตจริงคนเราไม่ได้สวยหรูจริงๆ และหนังก็สอดแทรกพฤติกรรมการใช้ชีวิตผู้คนในยุคปัจจุบันได้แบบชัดเจน หนังเรื่องนี้ดูได้กับกลุ่มคนทุกกลุ่ม มีจังหวะนรกที่ฮากร๊ากแบบไม่ทันตั้งตัว
- สายหนังแอบรักเพื่อน
- สายหนังรักโรแมนติก
- สายหนัง GDH
รีวิว / สรุปเนื้อหา
มีคนบอกว่าหนังเรื่องนี้คือเพื่อนสนิทเวอร์ชั่น 2022 ที่พยายามตีโจทย์เข้าไปโดนใจเด็กวัยรุ่นยุคนี้ แต่ดูไปดูมาหนังจะออกไปในแนวทางตัวเองซะมากกว่าและดูไม่ได้ซ้ำซากจำเจ การหยิบพล็อตรักความรัก การฝังใจกับใครสักคนในชีวิต คนเรามักเกิดขึ้นตอนเรียนมหาลัย เพราะมันเป็นช่วงเวลาที่เราได้พบเจอเพื่อนมากมาย ได้เรียนรู้ได้ใช้ชีวิตเฮฮาแบบเต็มที่สนุกสุดเหวี่ยง ที่เขาบอกว่ารักไม่ยุ่งมุ่งแต่หญิงก็คงจริง ผู้ชายคนนั้นก็ปิ้งรักผู้หญิงสมัยเรียนมาตลอด ชอบเขาอยากจีบแต่ใจก็ไม่กล้า เพราะคิดเยอะคิดโน่นคิดนี่ สุดท้ายโดนเพื่อนสนิทชิงตัวไปช้ำใจเจ็บใจได้แต่แอบมอง หนังเหมือนหยิบยกห้วงเวลาของผู้ชายคนหนึ่งที่เต็มไปด้วยความช้ำๆเจ็บปวด อกหักผิดหวัง เมาค้าง เพ้อเจ้อตามประสาคนผิดหวัง ทีมงานกล้านำเสนอในสิ่งที่หนังรักเรื่องอื่นๆในไทยไม่ทำกัน ความรู้สึกรักในรั้วมหาลัย คุณพงศ์หยิบเอามาเล่าได้ตลกขำสนุกมากๆ มันไม่ซึ้ง ไม่โรแมนติก ไม่ละมุนละไมเลย
ชอบที่หนังเล่าเรื่องผ่านตัวละคร กาย และสิ่งที่เขาต้องเจอ มันไม่ใช่แค่ความรัก หรือเรื่องศัตรูหัวใจ แต่มันเป็นเรื่องของจังหวะชีวิต ที่คนเราทุกคนต้องเติบโตไปเจอสังคมใหม่แวดล้อมใหม่ๆ เพียงแต่พระเอกแม่งยังฝังใจอยู่เหมือนเดิม แล้วก็ยังกะวนกะวายไม่คิดจะไปไหนเลยจริงๆ ครึ่งแรกของหนังแม่งธรรมดามากๆ หลังจากนั้นครึ่งหลังหนังก็ไหลลื่นจังหวะมันค่อยๆหนักหน่วง การมีตัวละครที่เพิ่มขึ้นเข้ามา ทำให้ความสัมพันธ์ของกายและจูน ค่อยๆเปลี่ยนแปลงไป จังหวะหนังมันมาแบบดาร์คๆทีละนิดทีละนิด ไม่ว่าจะเป็นในแง่ของความเห็นแก่ตัว ที่คนเรามักชอบสร้างบาดแผลความมักง่ายใส่คนอื่นแบบไม่รู้ตัว ลากคนโน่นคนนี่เข้ามาอยู่ในสังคมที่เราสร้างมันขึ้นมาเอง มันไม่ใช้หนังตลก ไม่ใช้รอมคอม มันพูดถึงผู้คนในยุคนี้ที่มักง่ายจนเกินไป หรือจะเป็นประเด็นครอบครัว ที่คนเรามักเอาชุดความคิดของตัวเองไปใส่ให้คนใกล้ตัว จนเราเองก็ไม่ได้ใช้อารมณ์ความรู้สึกจริงๆในการแก้ปัญหาหรือตัดสินใจจะทำอะไรก็ทำแบบสงๆสิ้นคิด หลายๆฉากดูแล้วจุกอกไปเหมือนกัน นอกจากนี้การสร้างซีนต่างๆให้ออกมาดูโรแมนติก ก็ออกมาเป็นสร้างจังหวะนรกให้ดูกาวๆ ทั้งน้ำท่วม มีเสาไฟ จุดที่ยอดเยี่ยมคือการจัดวางโทนภาพ โลเคชั่น เฉดสีทุกอย่างมันดูแปลกตา ไม่มีความรู้สึกว่าเป็นหนังรักสไตล์ GDH
ส่วนการแสดงกันบ้างเราว่าหนังเรื่องนี้มีจุดที่แข็งแรงมากๆคือ2 ดารานำ เนี่ยแหละ ไม่ว่าจะเป็น สกาย วงศ์รวี และ จูเน่ เพลินพิชญา กลายเป็นคู่พระนางของหนังที่มีเคมีเข้าตัวแบบลงตัวมากๆ แม้ว่าจะไม่เคยเล่นหนังมาก่อน แต่ปรากฏว่าทั้งคู่สอบผ่าน สกายขึ้นแท่นพระเอกได้สบายๆ ประสบการณ์คงบ่มเพาะมาพอสมควรแล้วละ การสื่อสารความเป็นผู้ชายที่งมงายหมกหมุ่นกับความรักเพียงแค่ผู้หญิงคนเดียวจนไม่คิดจะไปไหน เพราะเป็นคนอ่อนต่อโลก ประสบการณ์รักที่มีไม่มากพอ กายเป็นเสมือนภาพของผู้ชายหนุ่มขี้อาย อยากมีแฟน แต่ก็ขี้ขลาดใช้ชีวิตชิวๆไปวันๆโดยไร้แก่รสารจริงๆ ด้านจูเน่ ออร่าของเธอทำให้นางโดดเด่นหญิงสาวที่ถูกรักโดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่า มีใครบางคนฝังใจรอคอยมาตลอด นางมีเสน่ห์ทำให้ตัวละครจูน กลายเป็นเสมือนนางฟ้าของเรื่อง เมื่อ 2 คนมาเข้าฉากด้วยกันมันดูมีความเป็นธรรมชาติ มอบพลังการแสดงที่ดีๆมากเคมีลงตัว ถือว่าเป็นการแคสติ้งที่สอบผ่าน ด้านพี่พีช พชร หนุ่มหล่อมาดเนี๊ยบลุคนักดนตรี คู่แข่งพระเอก เป็นคนที่มาซัพพอร์ทได้น่าดูน่าชมมากๆ บอกเลยว่าคาแรกเตอร์นี้แทบจะไม่เหมือนงานก่อนๆของพีชเลย บอกเลยว่าถ้าไม่มีพีช หนังคนกร่อยพอสมควร, ส่วนแก๊งค์ครอบครัวกาย พี่พลอย หอวัง เหมือนจะสนุกสนานกับบทดราม่าจริงๆซะแล้วจาก One For The Road เรื่องนี้แรงหนักกว่าเดิมอีก
.
เกร็ดจากหนังเรื่องนี้
- สกาย วงศ์รวี อยู่ GDH มา 8 ปี พึ่งได้ขึ้นแท่นเป็นพระเอกหนังครั้งแรก
- ฐิติพงศ์ เกิดทองทวี กำกับหนังครั้งแรกในชีวิต หลังจากชิมลางงาน MV, โฆษณามา 8-9 ปี
- ฐิติพงศ์ เกิดทองทวี รับบทผู้กำกับและเป็น Acting Coach
- ผู้กำกับเขียนบทหนังขึ้นมาจากประสบการณ์ชีวิตจริงตัวเอง
- บทกาย, จูน, พีท 3 ตัวละครนำในเรื่อง ผู้กำกับดัดแปลงจากชื่อเล่นของนักแสดงนำ