Mirage (2018)

ภาพลวงตา

Mirage Poster
9/10

คะแนน
โกดังหนัง

หนังสเปนหักมุมที่มาด้วยพล็อตเรื่องที่สลับซับซ้อน บรรยากาศสุดอันตรายน่าหวาดกลัว ใช้ความไซไฟวิทยาศาสตร์ผสมผสานกับงานสืบสวนสอบสวนได้น่าทึ่ง

หมวดหมู่ : Mystery Sci-Fi
สัญชาติ : Spanish
กำกับโดย : Oriol Paulo
ความยาว : 2 ชั่วโมง 8 นาที
นักแสดงนำ : Adriana Ugarte, Álvaro Morte, Chino Darín

คำคมจากภาพยนตร์

"We can't control everything that might happen."
"เราไม่สามารถควบคุมทุกสิ่งที่อาจเกิดขึ้นได้"

เรื่องย่อ

เบร่า คุณแม่ที่ย้ายบ้านมาอยู่ชานเมืองเผอิญไปเจอทีวีเก่าในบ้านและเครื่องบันทึกเทปเก่าที่สามารถสื่อสารไปยังในอดีตได้ ทำให้เธอได้ติดต่อกับนิโก เด็กที่ประสบอุบัติเหตุตายไปเมื่อ 20 ปีก่อนที่เคยอาศัยอยู่ในบ้านหลังนี้ หลังจากที่เธอสื่อสารกับเด็กคนนี้ ชีวิตของเธอก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป

หนังเรื่องนี้เหมาะกับใคร

สำหรับ Mirage เป็นหนังที่เหมาะกับคนที่ชอบหนังในสไตล์หักมุมพล็อตซับซ้อนลุ้้นระทึกที่ชวนไปดูบทสรุปที่ชวนเหว่อในตอนจบ ถ้าหากกำลังติดอกติดใจกับผลงานของผู้กำกับ Oriol Paulo เข้าอย่างจัง ไม่ว่าจะเป็น The Invisible Guest, The Body, God’s Crooked Lines แทบทุกเรื่องทำออกมาได้เข้าขั้นเจ๋งยากที่จะไปคาดเดาอะไรได้ ทุกอย่างทิ้งปริศนาไว้ให้คิดตามเพียบและหักมุมได้เข้าขั้นอัจฉริยะ ผลงานเรื่องนี้ทำออกมาในสไตล์ไซไฟวิทยาศาสตร์ใส่ความเชื่อเรื่องโชคชะตาลงไปอีก เป็นงานที่ชอบมากซุฮกให้กับกลยุทธ์การสร้างหนังที่เขาไม่เคยเลียนแบบทำซ้ำมันเลยสักเรื่อง

  • สายหนังสับขาหลอกหักมุมไปมา
  • สายหนังระทึกขวัญสืบสวน
  • สายหนังไซไฟ

รีวิว / สรุปเนื้อหา

ถ้าคิดว่า The Invisible Guest สนุกสนานหักมุมไม่พอแล้ว เรื่องนี้ไปได้ไกลยิ่งกว่าเดิม การหยิบเรื่องราวในอดีตและปัจจุบันมาสร้างสรรค์ในสไตล์ไซไฟวิทยาศาสตร์การเป็นงานที่น่าทึ่ง หนังพูดในมุมที่ว่าถ้าหากเราแก้ไขอดีตได้ขึ้นมาจริงๆ สิ่งที่เกิดขึ้นในอดีตจะสะท้อนมายังการกระทำในปัจจุบัน และทุกอย่างมันเชื่อมโยงเข้าหากัน อดีตปัจจุบัน และอนาคตแบบที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ และมันคือตัวกำหนดตัวละคร เบร่า เมื่อความไม่รู้อยากช่วยเหลือคนกลับทำให้ชีวิตเธอพลิกผันไปทันที หนังเล่าในมุมมองที่เข้าใจยากแล้วค่อยๆทำให้ดูง่ายๆ ผ่านเส้นเรื่องคืออดีตและปัจจุบัน ที่ถูกเชื่อมโยงเข้าหากันเป็นเสมือนโลกคู่ขนาน ช่วงแรกหนังเปิดพื้นที่ให้เราคิดตามว่า การแก้ไขอดีตช่วยเหลือไม่ให้เด็กชายนิโกตายมันทำให้เธอได้ผลลัพธ์ตามมาบ้าง ชีวิตในปัจจุบันเธอกลายเป็นคนแปลกหน้าทันที ชอบที่หนังแสดงให้เห็นว่าทุกการกระทำไม่ว่าจะอดีตปัจจุบันอนาคต มันทำให้ชีวิตเราเจอได้ทั้งเรื่องแย่ๆเรื่องที่ดีได้เหมือนกัน ทุกอย่างมาพร้อมความเสี่ยงมีราคาที่ต้องจ่าย และตัวเบร่า ต้องต่อสู้กับความไม่ปกติกับสิ่งที้เกิดขึ้น บทสรุปหนังตอนจบอาจธรรมดา แต่สิ่งที่ทำให้หนังไปได้ตลอดรอดฝั่ง คือเองก็ไม่ได้ทิ้งปมปัญหาที่พอเล่าไปเรื่อยๆมันโยงใยไปยังคดีฆาตกรรมที่ทำให้เนื้อหาสนุกไปอีกขั้นหลอกซ้อนหลอก

ตัวหนังหลอกล่อคนดูแล้วค่อยๆพูดค่อยๆเปิดให้เห็นปูมหลังของ 2 ตัวละคร เบร่า และนิโก ที่มีหลายๆสิ่งหลายๆอย่างเชื่อมโยงเข้าหากัน จนน่าคิดตามว่า มันไม่ได้เป็นแค่หนังวิทยาศาสตร์ไซไฟลูปเวลา หนังฆาตกรรม ไขคดี แต่ยังพูดถึงจังหวะชีวิตโลกชะตาประเด็นความรักที่นำพาคนที่อยู่กันคนละช่วงเวลา มานั่งหาคำตอบกับสิ่งที่เกิดขึ้น ความผิดเพี้ยนในการแก้ไขอดีตที่เขาและเธอต้องมารับผิดชอบ ต้องนี้ผู้ชมต้องดูและสังเกตดีๆ เพราะระหว่างทาง ผู้กำกับหย่อนปริศนาหย่อนคำตอบให้คนดูได้คิดตามเพียบ ตลอด 2 ชั่วโมง หนังตรึงคนดูได้อยู่หมัด มันได้ความเพลิดเพลินความบันเทิงที่เล่นกับเส้นเรื่องของเวลาได้เป็นอย่างดี ผสมผสานกับความเป็นหนังทริลเลอร์แบบที่ Oriol Paulo ช่ำชอง ใครจะไปคิดละว่าจะกล้าเอาเรื่องที่ไม่มีใครเชื่อแบบชะตาลิขิตมาเล่าได้สนุกแบบนี้ บทหนังของเขาเด็ดขาดแยบยล ทำการบ้านมาค่อนข้างดีอุดช่องโหว่ได้เหนือชั้น ปมปัญหาเพียบ แต่พอคลี่คลายต้องยกนิ้วให้เลย คาดเดาอะไรไม่ได้ ไม่แปลกใจที่ผลงานของเขาแทบทุกเรื่องถูกซื้อลิขสิทธิ์ไปรีเมคในต่างประเทศเพียบ

งานของผู้กำกับ Oriol Paulo เป็นมากกว่าความบันเทิงให้สาระแง่คิดผ่านการแสดงจากแคสติ้งที่เลือกมากลมกลืนไปกับบทคาแรกเตอร์เรื่องราวไม่มีจุดไหนรู้สึกน่าเบื่อ บทดีทำให้ได้การแสดงที่แนบเนียนไปกับเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นนางเอก Adriana Ugarte ที่กลายเป็นหัวใจสำคัญ พาหนังไปได้ตลอดรอดฝั่ง หญิงสาวแค่ย้ายบ้านสำรวจบ้านใหม่ดันไปเจอเรื่องราวไม่คาดฝันเปลี่ยนแปลงชีวิตเธอ กลายเป็นว่าทำให้ได้สำรวจชีวิตเธอ ซึ่งตลอดทางเต็มไปด้วยปัญหา ซีนดราม่าเข้าขั้นตัวแม่ของจริง Álvaro Morte หรือที่แฟนหนังคุ้นเคยจาก Money Heist ในบท The Professor กลายเป็นว่าเราได้เห็นการแสดงที่ซับซ้อนน่าดูเติมเรื่องราวให้มันเข้มข้นไปอีกขั้น Chino Darín ตัวละครปริศนาในสายตานางเอกที่ตอนแรกก็ไม่รู้ว่ามาดีมาร้ายมิตรแท้หรือคนที่จ้องจะทำร้ายกันแน่ เป็นการแสดงที่มีเล่ห์เหลี่ยมมากๆ

เกร็ดจากหนังเรื่องนี้

  • หนังถูกนำซื้อลิขสิทธิ์ไปรีเมคเป็นเวอร์ชั่น Hindi ชื่อเรื่อง Dobaaraa ออกฉายปี 2022