Fake (2003)
โกหกทั้งเพ
คะแนน
โกดังหนัง
หนังไทยล้ำสมัยที่เล่นกับอารมณ์ความรู้สึกวัยรุ่นไทย
เนื้อหาตั้งคำถามกับความรัก มุมองการใช้ชีวิตในสังคม
ผ่านนักแสดงชั้นนำ ต้า, ลีโอ พุฒ, อั้ม และเรย์
คำคมจากภาพยนตร์
“ผมกำลังคิดถึงใครคนหนึ่ง แต่ผมไม่รู้จะหาเธอพบได้อย่างไรในเมืองใหญ่อย่างนี้”
เรื่องย่อ
“เบ, โป้ และ ซุง” เป็นชายหนุ่มวัยยี่สิบต้นๆ ชีวิตจึงอยู่ในวัยเริ่มต้นและแสวงหา ทั้ง 3 คนพักอยู่ด้วยกัน แม้จะเป็นเพื่อนสนิทแต่ต่างคนก็มีวิถีชีวิตเป็นของตนเอง หนังเล่าเรื่องของตัวละครทีละตัว โดยเริ่มจาก “เบ” ที่เพิ่งผิดหวังจากการงานและเรื่องรัก หลังจากที่เบถูกคนรักทอดทิ้ง เขาก็เอาแต่เฝ้ารอคอยการติดต่อกลับมาจากแฟนเก่า , “โป้” เพลย์บอยหนุ่มที่มีผู้หญิงติดตอมมากหน้า หลังจากผ่านชีวิตแบบนี้มาจนโชกโชน โป้เริ่มตั้งคำถามระหว่างเรื่อง “เซ็กส์” กับ “ความรัก” เมื่อไหร่เขาจึงจะพบกับ “คนที่ใช่” สักที “ซุง” ชายหนุ่มที่โหยหาความรักมาโดยตลอดและก็ค้นหาตัวเองมาโดยตลอดเช่นกัน เขาไม่รู้ว่าตัวเองเหมาะกับอะไรกันแน่ แต่เขาวาดฝันว่าตัวเองจะเจอคนที่ใช้จริงๆสักที
หนังเรื่องนี้เหมาะกับใคร
สำหรับ Fake โกหกทั้งเพ คือหนังไทยแนวฮิปสเตอร์ที่เป็นต้นแบบให้วงการหนังไทยก็ว่าได้จนผู้กำกับหลายๆคนยึดมาเป็นแนวทาง หนังใช้อารมณ์ความรู้สึกของมนุษย์มาเป็นตัวเล่าเรื่องราว ผสมผสานกับมุมมองการใช้ชีวิตในกรุงเทพ ที่วัยรุ่นส่วนใหญ่แสว่งหาในเรื่องของความรักหรือเรื่องคู่ครอง บทหนังมีความร่วมสมัย ไม่มีความซีเรียสอะไรให้ผู้ชม คนที่อยากเสพติดความเหงา น่าจะหลงรักหนังเท่ห์ๆเรื่องนี้ได้ไม่ยาก
- สายหนังดราม่า
- สายหนังอาร์ท
- สายหนังที่อยากเสพติดความเหงา
รีวิว / สรุปเนื้อหา
หากจะพูดกันตรงๆหนังสื่อสารให้คนได้รับรู้ความรู้สึกของวัยรุ่นไทยที่ยังคงมีความลุ่มหลง บางคนทุ่มเทกับความรักมากเกินไป ไม่เตรียมตัวเตรียมใจที่จะเจ็บ บางคนมีความรักแค่เพื่อจะมีเพศสัมพันธ์ บางคนโสดโหยหาความรักและคิดว่าเราจะเจอคนที่ใช้ หนังจึงเหมือนเป็นการบันทึกรักถึงกรุงเทพฯ แบบที่ผู้กำกับบอกเอาไว้เมื่อ 18 ปีที่แล้ว ที่บันทึกช่วงเวลาและความรู้สึกของ ‘วัยรุ่น’ ในกรุงเทพฯ เมื่อเกือบ 20 ปีก่อนได้อย่างมีสีสัน สวยงาม คมคาย และน่าตื่นตาตื่นใจ โดยเฉพาะการตั้งคำถามกับ ความรัก’ ส่วนประกอบสำคัญในชีวิตที่มีความทั้งงดงาม ฉาบฉวย หวือหวา สุขสม มีความหวัง ไปจนถึงเจ็บปวดแสนสาหัส หนังพาเราไปสัมผัสถึงทัศนคติความรักเรื่องเพศสัมพันธ์ที่แปลกแตกต่างออกไป
เสน่ห์ของหนังจริงๆนอกจากตัวละครที่ดำเนินเรื่องราวผ่าน 3 มุมมองที่ไม่เหมือนกันแล้ว ยังมีเรื่องการถ่ายทอดมุมภาพที่ดิบมีสไตล์ 3 ตัวละครโทนภาพเฉดสีที่ไม่เหมือนกันสื่อถึงทัศนคติที่บ่งบอกถึงตัวตนของพวกเขา เราจึงได้เห็นมุมกล้องเฟรมภาพแต่ละช็อตที่เท่ ไดอะล็อกคมๆของนักแสดง ขนาดเดียวกันหนังยังพูดถึงความรักความรู้สึกของตัวละครของนางเอกที่เข้ามาปั่นหัวผู้ชาย เราได้ซึมซับว่า ที่สุดแล้วความรักมันอยู่ที่ความรู้สึก แต่นี่มีผู้ชายเข้ามาเกี่ยวข้อง มันยังคงวนเวียนให้เราได้คิดอยู่ตลอดเวลา ความวุ่นวายชีวิตคนไทยส่วนใหญ่มักจะแสวงหาความรัก และมันวนเวียนแบบนี้เรื่อยมา
ทีมนักแสดงหลัก 4 คนเป็นการรวมตัวดาราวัยรุ่นที่อาจเรียกว่าดรีมทีม ผู้กำกับ ธนกร พงษ์สุวรรณ ดึงศักยภาพที่แท้จริงออกมาได้หมด บุคลิกเท่ห์มีหลายๆประเด็นที่น่าจดจำ พุฒิพงศ์ ศรีวัฒน์, เผ่าพล เทพหัสดิน ณ อยุธยา, เร แมคโดนัลด์ ที่สร้างปรากฏการณ์ให้ ‘พุฒ ต้า เร’ กลายเป็นนักแสดงไอคอนของวัยรุ่นไทย รวมทั้งเป็นผลงานการแสดงภาพยนตร์เรื่องแรกของ อั้ม-พัชราภา ไชยเชื้อ ที่สะกดให้ทุกคนอยู่ในมนต์สะกดจากเสน่ห์เหลือล้นของเธอ
เกร็ดจากหนังเรื่องนี้
- ธนกร พงษ์สุวรรณ ผู้กำกับใช้เวลาเขียนบทนี้เรื่องนี้ถึง 4 ปีก่อนที่หนังจะถูกนำมาสร้าง
- เร แม็คโดแนลด์”, “พุฒิพงศ์ ศรีวัฒน์” (ลีโอ พุฒ) และ “เผ่าพล เทพหัสดิน ณ อยุธยา” (ต้า บาร์บี้) คือนักแสดงที่ถูกเขียนอยู่ในบทมาตั้งแต่แรกอยู่แล้ว
- หนังออกมาเป็น 3 โทนสีคือ “น้ำเงิน, เหลือง และ แดง” เพื่อให้แต่ละตอนมีโทนและวิธีการเล่าเรื่องที่แตกต่างกันออกไปตามคาแร็กเตอร์นักแสดงนำด้วย และในทุกโลเคชั่นจะสะท้อนบุคลิกคนแสดงและบรรยากาศรอบข้างเอาไว้