Creed (2015)

ปมแชมป์เลือดนักชก

Creed Poster
9/10

คะแนน
โกดังหนัง

การส่งไม้ต่อจากรุ่นพ่อสู่รุ่นลูกที่ทำออกมาได้อย่างน่าประทับใจ และยังคงหัวใจของหนัง Rocky มาถึงคนรุ่นใหม่ในชื่อ Creed ได้น่าชื่นชม

หมวดหมู่ : Drama Sport
สัญชาติ : American
กำกับโดย : Ryan Coogler
ความยาว : 2 ชั่วโมง 13 นาที
นักแสดงนำ : Michael B. Jordan, Sylvester Stallone, Tessa Thompson

คำคมจากภาพยนตร์

“ํOne step at a time. One punch at a time. One round at a time.“
“ไปทีละสเตป ทีละหมัด ทีละยก”

เรื่องย่อ

อโดนิส จอห์นสัน ลูกชายของอดีตแชมป์มวยโลก อพอลโล ครีด คู่ปรับและเพื่อนสนิทคนสำคัญของ ร็อคกี้ บัลบัว ที่ได้เติบโตมาโดยที่ไม่มีพ่อ แต่กลับได้สายเลือดของนักสู้มาโดยเต็มๆ จนทำให้เขาได้มีโอกาสมีที่ฟิลาดิเฟียเพื่อทำตามความฝันในการเป็นนักมวยอย่างพ่อของเขา จนกระทั่งได้มาเจอกับ ร็อคกี้ ที่ปัจจุบันผันตัวมาเป็นโค้ชเรียบร้อยแล้ว เขาจึงขอร้องให้ร็อคกี้ มาเป็นเทรนเนอร์ที่จะพาเขาเข้าสู่วงการมวยอย่างเต็มตัว

หนังเรื่องนี้เหมาะกับใคร

สำหรับ Creed นั้น เหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่ติดตามหนังตระกูล Rocky มาโดยตลอด และได้เห็นพัฒนาที่เปลี่ยนแปลงของเขา มาจนถึงยุคที่เขาเองต้องผันตัวมาเป็นโค้ช และพร้อมที่จะส่งต่อจิตวิญญาณของนักสู้ไปให้กับลูกชายของเพื่อนสนิทของเขาเอาไว้ หากคุณไม่ได้เป็นแฟนหนังร็อกกี้ แต่ชอบดูหนังมวย หรือการต่อสู้อยู่แล้วนั้น มันก็ยังคงเป็นหนังที่ตอบโจทย์ได้อยู่ดี ด้วยเนื้อเรื่องที่เข้มข้น เสริมสร้างกำลังใจและพลังบวก ประกอบกับฉากมวยสุดมันส์ คือหนังแอคชั่นหมัดมวยจะต้องฟินกันอย่างแน่นอน เอาเป็นว่าใครชอบหนังมวยดีๆ อย่าง Rocky, Warrior หรือ Raging Bull แล้ว ไม่ควรพลาด Creed ด้วยประการทั้งปวงจริงๆ

  • สายหนังกีฬามวย
  • สายหนังดราม่ามวย
  • สายหนังภาคต่อในตำนาน

รีวิว / สรุปเนื้อหา

แม้ว่า Rocky จะเป็นหนังมวยที่มีประวัติอันยาวนานมาตั้งแต่ปี 1976 และลากยาวมาถึง 2006 ในภาค Rocky Balboa ซึ่งเป็นภาคที่ 6 ของชุด ที่ใครหลายคนก็คิดว่าน่าจะเป็นภาคสุดท้ายที่ปิดตำนานนี้ของเขากันแล้ว แต่สุดท้ายแล้วก็ยังมีการสานต่อตำนานนี้ออกมาอีกใน Creed เรื่องนี้นั่นเอง ซึ่งก่อนหน้าจะมาดู Creed ได้นั้น ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องไปไล่ดูภาคแรกๆ มาก่อนก็ได้ เพราะ Creed เปรียบเสมือนเป็นจุดเริ่มต้นของหนังในชุดตัวเองอยู่แล้ว เพียงแต่มีการนำตัวละครอย่างร็อคกี้กลับมาอีกครั้ง ในฐานะโค้ช ที่ต้องดูแลลูกชายของเพื่อนสนิทของเขาอย่าง อพอลโล ครีด ที่เสีียชีวิตไปจากการชกกับนักมวยชาวรัสเซียในภาคก่อนๆ

ซึ่งก็เป็นไปตามคาดเหมือนเดิมที่ว่าหนังเกี่ยวกับวงการหมัดมวยมักไม่มีหนังห่วย เพราะการส่งไม้ต่อในครั้งนี้ ก็เป็นเรื่องราวที่ทำออกมาได้ดีมากๆ ทั้งในแง่ของการเคารพต้นฉบับของหนังตระกูล Rocky เอง ที่ถ้าสังเกตจะเห็นได้ว่าหนังมีอะไรหลายๆ อย่างที่คล้ายคลึงกับภาคแรกมากๆ เพียงแต่อยู่ในยุคสมัยและฉากหลังที่เปลี่ยนไปเท่านั้น ด้วยความที่เป็นหนังหมัดมวยแล้ว ก็แน่นอนว่าหนังก็มีฉากมันส์ๆ มากมายที่ดุเดือดมากๆ การต่อยกันแต่ละครั้งบนเวทีล้วนมีความสมจริง ดุดัน เสมือนดูมวยจริงๆ เลย ทำให้เราร่วมลุ้นไปกับเรื่องราวได้ในทุกแมชในเรื่องเลยทีเดียว

ซึ่งในจากในพาร์ทมวยแล้ว หนังก็มีปมประเด็นของตัวละครที่ดี ในการที่จะเอาชื่อของ อพอลโล ครีด มาใช้ของตัวเอก ก็ดูเป็นปมในใจของเขาที่อยากจะพยายามพิสูจน์ตัวเองให้หลุดออกมาจากเงาชื่อเสียงของพ่อ ที่ทำให้กลายเป็นเรื่องที่กดดันสำหรับเขามาโดยตลอด แม้พล็อตของหนังจะดูเป็นสูตรสำเร็จ แต่ระหว่างทางนั้น ก็เรียกได้ว่าเป็นการถ่ายทอดออกมาได้ดีเลยทีเดียวสำหรับพาร์ทการคลายปมทางจิตใจต่างๆ จนพูดได้อย่างเต็มปากว่า Creed นั้น คือการรับไม่ต่อจากรุ่นสู่ได้อย่างสวยงาม

เกร็ดจากหนังเรื่องนี้

  • Carl Weathers ดาราที่เคยเล่นเป็น Apollo Creed ถึงกับกล่าวชื่นชมพลังความเข้มแข็งที่อยู่ในหนังเรื่องนี้ พร้อมกับการแสดงชั้นดีของ Michael B. Jordan จนทำให้ Jordan รู้สึกเป็นเกียรติแบบสุดๆ ที่ได้มาสานต่อเรื่องราวนี้
  • นี่คือหนังเรื่องแรกในชุด Rocky ที่ Sylvester Stallone ไม่ได้เขียนบทเอง
  • Sylvester Stallone มีอายุ 69 ปีตอนที่หนังออกฉาย ซึ่งเป็นอายุที่เท่ากับ Burgess Meredith ดาราที่แสดงเป็น Mickey ครูฝึกของ Rocky ในตอนที่ภาคแรกออกฉายเหมือนกัน