คิดว่าจากที่เลือกมานั้น น่าจะทำให้รู้สึกหิวกันบ้างเมื่อได้เห็นอาหารเหล่านี้อยู่จอ แต่เมื่อเลือกมาแล้วรับรองว่าไม่มีธรรมดา เพราะหนังทำอาหารแต่ละเรื่องที่ว่ามานี้ ล้วนแฝงไปด้วยข้อคิดการใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน จนแต่ละเรื่องเมื่อเราดูจบไปแล้ว น่าจะรู้สึกได้ว่า ไม่ใช่แค่อาหารเท่านั้นที่ต้องปรุงรส แต่เป็นชีวิตคนเราด้วย ที่ควรถูกปรุงให้มีหลายรสชาติบ้างเหมือนกัน ส่วนจะมีเรื่องอะไรบ้างนั้น ลองมาดูกันได้เลย

Chef (2014) – เชฟจ๋า

คาร์ล หัวหน้าเชฟที่ภัตตาคารอาหารชื่อดัง ที่กำลังหมดไฟจากการทำงานภายใต้คำสั่งของเจ้าของร้าน แถมยังเจอนักวิจารณ์สายแข็งสับผลงานเขาไปอีก จนทำให้เขาไปมีปัญหากับนัก\เข้า ชีวิตการทำอาหารของเขาต้องพลิกผันจนต้องออกจากงาน ในขณะที่ครอบครัวของเขาก็สนับสนุนให้เขาสู้อีกครั้ง เขาจึงตัดสินใจเริ่มทำร้านอาหาร Food Truck ตามแพชชั่นของตัวเอง

หนังแนวทำอาหารที่เรียบง่าย ไม่มีอะไรหวือหวา ไม่มีจังหวะพีค ไม่มีอะไรขยี้น้ำตา แต่กลับเต็มไปด้วยมนต์ขลัง ให้ได้ติดตามความฟีลกู้ดตลอดทั้งเรื่อง พร้อมได้กลับมาทบทวนตัวเองแบบตัวเอกในหนังด้วย ที่วันหนึ่งเราอาจจะเผลอลืมตัวจากอีโก้ที่โตขึ้น จนลืมไปว่าสิ่งที่อยากทำคืออะไร และความสุขที่เรียบง่ายมันเป็นยังไงกันแน่ รวมถึงความสัมพันธ์ครอบครัวที่อบอุ่น มันเลยกลายเป็นหนังประเภทสายชิล ที่ดูแล้วจะฟีลดี แถมยังหิวตามด้วยอย่างแน่นอน

Ratatouille (2007) – พ่อครัวตัวจี๊ด หัวใจคับโลก

Remy หนูสัญชาติฝรั่งเศสที่หวังจะเป็นสุดยอดเชฟให้ได้ วันหนึ่ง Remy ก็ได้โอกาสเข้ามาอยู่ในภัตคารสุดหรูในเมือง ปารีส โดยมี Auguste Gusteau ชายผู้เปรียบเสมือนเป็นไอดอลด้านการทำอาหารในดวงใจเป็นเจ้าของที่แห่งนี้ แต่ด้วยความที่เขาเป็นหนูและไม่สามารถเปิดเผยตัวได้จึงอาศัยช่วยเหลือ Linguini พ่อครัวที่ไม่มีพรสวรรค์ในการทำอาหารเลย จนได้ผลงานชั้นเลิศออกมามากมาย ในขณะที่ทางร้านก็พยายามที่จะกำจัดหนูออกไปพ้นทาง จึงเกิดเป็นเรื่องชุลมุนวุ่นวายขึ้น

นับเป็นการจับคู่ที่เป็นขั้วตรงข้ามเหลือเกิน กับการที่ใช้หนูที่ปกติแล้วเป็นสัญลักษณ์ของความสกปรกมาเป็นตัวเอกใน Animation ที่เกี่ยวกับอาหาร และยังใช้ชื่อเรื่องที่สื่อได้สองความหมายอย่าง Ratatouille ที่เป็นอาหารฝรั่งเศสชนิดหนึ่ง โดยมีคำว่า Rat ที่เ็นตัวเอกของเรื่องอยู่ข้างในนั้นด้วย ทำให้หนังสามารถเล่นเรื่องการที่อย่าให้ใครมาหยุดยั้งความฝันได้อย่างเต็มที่ แม้ว่าหลายๆ คนจะมองว่าเราไม่เหมาะก็ตาม ในเมื่อมันเป็นความฝันของตัวเอง สิ่งที่จะหยุดยั้งมันได้ก็คงมีแต่ตัวเราเองเท่านั้น จนไม่แปลกใจที่ใครจะได้รับแรงบันดาลใจจาก Animation เรื่องนี้กันมากมาย

The Bear (2022) – เดอะแบร์

เจเรมี เชฟหนุ่มฝีมือดีระดับมิชลิน ที่ต้องกลับมาดูร้านแซนวิชประจำเมืองของพ่อที่มีชื่อว่า The Original Beef of Chicagoland ซึ่งเป็นร้านที่เต็ไปด้วยปัญหาจากยอดหนี้เก่าที่ค้างสูง รวมถึงสมาชิกในร้านแต่ละคนที่มากเรื่องมากความ ปากจัด จนทำให้ในครัวกลายเป็นเหมือนสมรภูมิขนาดย่อมๆ ที่ทุกคนต่างต้องผ่านความวุ่นวายในการเสิร์ฟแซนวิชให้ลูกค้าให้ได้

อีกหนึ่งซีรีส์สงครามในห้องครัวสุดปั่นประสาท เพราะแค่ตอนแรกเราก็เห็นถึงความตึงเครียด และเต็มไปด้วยความโหวกเหวกโวยวายปะทะอารมณ์กันแบบจัดเต็ม ที่จะทำให้เราเห็นปัญหาในครัวแบบระดับ Max จนบางทีก็ได้แต่เริ่มสงสัยว่าตกลงพวกเขาจะมาทะเลาะกันหรือทำอาหารกันแน่ แต่มันก็เป็นภาพที่เรียลๆ ดี ของวงการทำอาหารแบบสู้ชีวิต แถมทีมนักแสดงก็เล่นกันได้ดีมากๆ เป็นอีกซีรีส์ทำอาหารคุณภาพที่ไม่อยากให้พลาดเลย

Jiro Dreams of Sushi (2014) – จิโระ เทพเจ้าซูชิ

สารคดีที่บอกเล่าชีวิตของ จิโระ โอโนะ เจ้าของร้านซูชิชื่อดังอย่าง Sukiyabashi Jiro ที่ทำอาชีพขายซูชิแทบจะทั้งชีวิต จนได้รับฉายาเป็น เทพเจ้าซูชิ ด้วยการควบคุมคุณภาพตั้งแต่วัตถุดิบ สู่ความพิถีพิถันในการปั้นแต่ละคำ ประกอบกับการเปิดรับแค่ 10 ที่เท่านั้น เลยทำให้ร้านของเขาเป็นจุดหมายปลายทางของคนรักซูชิที่ต้องจองกันข้ามเดือนเลย

สายปลาดิบ สายซูชิ จะต้องน้ำลายไหลไปกับสารคดีเรื่องนี้ เพราะมันจะพาเราไปสำรวจวงการนี้อย่างจริงจัง และเห็นปู่จิโระปั่นซูชิแบบคำต่อคำ ด้วยเมนูที่หลากหลายชวนน้ำลายสอ นอกจากนี้ยังปลุกไฟ จากแพชชั่นของปู่แกที่ดูรักในอาชีพนี้มากๆ และพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้มันออกมาดีที่สุดสำหรับลูกค้าในแต่ละวันของเขา โดยที่เขาไม่รู้สึกเบื่อ หรือขี้เกียจเลยแม้แต่นิดเดียว ใครสายอาหารญี่ปุ่น ขอแนะนำให้ลองชิมสารคดีเรื่องนี้ดู

Julie & Julia (2009) – ปรุงรักให้ครบรส

จูเลีย ไชลด์ ผู้หญิงที่มีฐานะ ได้ติดตามสามีของเธอไปเป็นทูตที่กรุงปารีส และได้มีโอกาสเข้าคอร์สทำอาหารที่ Le Cordon Bleu จนได้ออกตำราอาหารเป็นของตัวเองขึ้นมา และเป็นกลายนักทำอาหารที่มีชื่อชื่อเสียงในยุค 1950s ในขณะที่ปัจจุบัน จูลี พาวเวลล์ หญิงสาวในเมืองที่เป็นบรรณาธิการนิตยสาร ที่กำลังหมดไฟ เลยตัดสินใจทำอาหารจากตำรา Mastering the Art of French Cooking ทั้งหมด 524 เมนู เพื่อหาเป้าหมายใหม่ของตัวเอง

หนังที่จะมาปลุกไฟในตัวคุณ แม้ว่าคุณจะไม่เคยทำอาหารเลยก็ตาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับช่วงที่ต้องกักตัว ช่วงที่ Work from Home แบบนี้ ก็สามารถทดลองทำอะไรใหม่ๆ ที่ตัวเองรักได้ ซึ่งการได้ลองทำอะไรใหม่ๆ ดูก็มักทำให้เราเกิดแพชชั่นใหม่ๆ ขึ้นมาได้ ไม่ต่างกับ จูลี่ ในเรื่อง หนังเรื่องนี้มันเลยดูเป็นโทนแบบนั้น ที่เราจะได้เห็นการลองทำเมนูใหม่ๆ ที่ชวนน้ำลายสอ กับหลากหลายเมนูชวนหิวที่จัดเต็มอยู่ในหนังทั้งเรื่อง

No Reservations (2007) – เชฟสาว เสิร์ฟหัวใจรัก

เคท อาร์มสตรอง หัวหน้าเชฟ ระดับเพอร์เฟคชั่นนิสที่ต้องการความสมบูรณ์แบบในทุกๆ จานที่จะส่งออกไปหาผู้ทาน และใช้ชีวิตอย่างเป็นระบบแบบแผน ไม่มีหลุดจากที่วางไว้ จนกระทั่งเธอได้มาพบกับ นิค พาล์มเมอร์ หนุ่มผู้เข้ามาเป็น รองหัวหน้าเชฟ ที่เน้นการสร้างบรรยากาศเป็นกันเอง และทำตัวสบายๆ จนกระทั่งขัดแย้งกับสิ่งที่เคททำมาโดยคลอด จนทำให้เธอกลับมาตั้งคำถามกับตัวเองอีกครั้ง ว่าความสุขในชีวิตที่แท้จริงคืออะไร

หนังแนวกุ๊กกิ๊กกันหลังครัว ที่สะท้อนเรื่องความบ้างานจนลืมใช้ชีวิต และใส่ในคนรอบข้างได้น่ารักดี แม้ว่าหนังจะค่อนไปทางสูตรสำเร็จที่เดากันได้ ตั้งแต่เห็นสไตล์ที่ต่างกันของพระ-นาง แต่สุดท้ายมันก็ต้องมีจุดที่จูนเข้าหากันได้อยู่ดี ซึ่งหนังเหมาะกับคนชอบอะไรเบาสมองอยู่เหมือนกัน และมีมุมข้อคิดเรื่องการทำงานแทรกเข้ามาให้พอชวนคิด ว่าสุดท้ายแม้จะปรุงอาหารได้ดีเลิศขนาดไหน ก็อย่าลืมปรุงรสชีวิตไม่ให้จืดชืดกันไปด้วย

The Menu (2022) – เมนูสยอง

ไทเลอร์ และมาโกต์ หนุ่มสาว 2 คน ที่เข้าร่วมงานทานอาหารที่เกาะแห่งหนึ่ง ซึ่งเกาะแห่งนั้นมีร้านอาหารที่มีชื่อเสียงนามว่า ฮาวธอร์น โดยมี เชฟสโลวิค ชื่อดังเป็นผู้คิดค้นคอร์สอาหารอันลือลั่นนี้ แต่แล้วเมื่อเวลาผ่านไป แขกทุกคนต่างต้องเผชิญกับความสยอง เมื่อแต่ละเมนูที่ออกมา ล้วนเป็นเครื่องมือโจมตีจิตใจพวกเขาอย่างหนักหน่วง และไร้ทางหนีออกไปได้ แขกทั้งหลาย จึงพยายามเอาชีวิตรอดไปจากที่แห่งนี้

หนังสายแซะวงการ Fine Dining ได้อย่างเจ็บแสบ สำหรับหลายๆ คนที่อยู่ในวงการนี้หลากหลายอาชีพก็ผลัดกันโดนแซะไปคนละนิด คนละหน่อย ตัวหนังค่อนข้างสนุกมากๆ กับการค่อยๆ ไต่ระดับความตึงเครียดที่ตัวละครในเรื่องจะต้องเผชิญ จากการกลั่นแกล้งเล็กๆ ไปสู่ ความโหดที่เบอร์ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ เพราะท่ามกลางเมนูที่ชวนหิวแต่ละจาน ก็แฝงไปด้วยเรื่องราวต่างๆ น่าระทึก จนทำให้มันกลายเป็นหนังสายอาหารที่ผสมผสานความระทึกขวัญไปได้อย่างลงตัว และเสียดสีการทานอาหารหรูได้อย่างสนุกสนาน ผ่านตัวละครที่หลากหลายน่าสนใจมาก