Pitch Perfect (2012)
ชมรมเสียงใส ถือไมค์ตามฝัน
คะแนน
โกดังหนัง
หนังที่จะพาคนดูไปสัมผัสกับบทเพลงเพราะๆ ที่คุ้นเคยมากมาย
ควบคู่ไปกับความบันเทิงสุดฮา ดราม่า น่ารักครบรสสุดๆ
คำคมจากภาพยนตร์
“How do you not like movies? Not liking movies is like not liking puppies!” “คุณจะไม่ชอบดูหนังได้ยังไง การที่ไม่ชอบดูเนี่ย ก็เหมือนกับการไม่ชอบลูกหมาเลยนะ”
เรื่องย่อ
เบก้า สาวน้อยที่เพิ่งเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยใหม่ แต่ยังไม่เจอชมรมที่เหมาะสมกับตัวเอง จนกระทั่งเธอได้ถูกจับเข้าชมรมประสานเสียงโดยที่ไม่ได้ตั้งใจ ท่ามกลางเพื่อนๆ ใหม่นิสัยสุดแปลก แต่ด้วยการฝึกฝน และอยู่ร่วมกัน ก็ทำให้พวกเธอทุกคนกลายมาเป็นส่วนผสมของเสียง และจังหวะทำนองที่ร่วมกันร้องออกมาอย่างลงตัว จนกระทั่งเป้าหมายพวกเธอก็ใหญ่ขึ้นไปถึงการแข่งขันกันระหว่างมหาวิทยาลัย ที่ต้องเชือดเฉือนกันกับการแข่งขันกับวงประสานเสียงของมหาวิทยาลัยอื่นๆ
หนังเรื่องนี้เหมาะกับใคร
สำหรับ Pitch Perfect คือหนังที่เหมาะสำหรับคนที่มีดนตรีในหัวใจ และชอบหนังที่มีบทเพลงเพราะๆ ผสมผสานอยู่ในเรื่องราว โดยที่ไม่แคร์เท่าไรนักว่าบทของภาพยนตร์จะออกมาในรูปแบบของสูตรสำเร็จหรือไม่ ซึ่งเรื่องนี้จะสร้างความสุนทรีให้กับคนดูหนังแนวนี้มากๆ ด้วยการจัดเต็มบทเพลงดังๆ ดัดแปลงออกมาให้รูปแบบของ Acapella เพราะๆ แล้ว ก็พาเอาคนดู/ฟัง ฟินกันไปตามๆ กัน นอกจากนี้หนังยังมีความฟีลกู้ด ตลก น่ารักครบรสมากๆ ถ้าคุณชอบซีรี่ส์วงประสานเสียงอย่าง Glee ที่ตัดมากระชับขึ้นในแบบหนังแล้ว Pitch Perfect จะเป็นตัวเลือกที่ Perfect มากๆ สำหรับคุณเลย
- สายหนังเพลงเพราะๆ
- สายหนังเกี่ยวกับดนตรี
- สายหนังพลังหญิง
รีวิว / สรุปเนื้อหา
ก่อนอื่นต้องบอกว่าดีใจมากที่ได้เห็นดาราหน้าหวานอย่าง Anna Kendrick ได้รับบทนำดีๆ กับเขาสักที หลังจากโลดแล่นในวงการอยู่นานในฐานะตัวประกอบที่โผล่มาแว้บๆ แล้วก็จากไปโดยไม่มีอะไรให้จดจำ (ลองนึกถึงบทเธอในหนังอย่าง Twilight ดูสิ!) ซึ่งพอมาเรื่่องนี้เธอก็ได้รับบทนำอย่างเต็มตัว แม้ว่าจะถัวๆ กับเพื่อนร่วมวงจอมขโมยซีนอีกหลายคนไปบ้าง แต่ก็มีพื้นที่เพียงพอที่โชว์ความสามารถทั้งในด้านการแสดง และด้านการร้องเพลงให้ออกมาโดดเด่น จนแจ้งเกิดได้จริงๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับคลิป Cups (เพลง When I’m gone) ที่มีคุณรับชมทาง Youtube ไปแล้วถึง 580 ล้านครั้ง ก็เป็นเครื่องยืนยันความดังของเธอได้เป็นอย่างดี
ซึ่งใน Pitch Perfect นั้น ก็คงต้องขอบคุณปัจจัยอื่นๆ อย่างทีมนักแสดงสมทบที่ต่างมีคาแรคเตอร์ที่โดดเด่น น่าจดจำเป็นอย่างมาก อย่างเช่น ดาราอย่าง Rebel Wilson ที่มารับบท Fat Amy นั้นก็หาพื้นที่แจ้งเกิดให้กับตัวในหนังเรื่องนี้ได้อย่างสวยงามในฐานะตัวขโมยซีนสุดฮาได้เช่นกัน ซึ่งพอเอาแต่ละคนมาร้องประสานเสียงกันแล้ว ก็ได้ท่วงทำนองที่แสนจะลงตัวสมกับชื่อหนังอย่าง Pitch Perfect ได้ดีจริงๆ ซึ่งกลายเป็นจุดเด่นของหนังมากๆ ที่หยิบเอาเพลงป๊อป หรือเพลงดังๆ มากมาย มาดัดแปลงใหม่ในรูปแบบของ Acapella หรือการร้องที่ไม่ใช้เครื่องดนตรี ก็ทำให้เราได้มีโอกาสฟังเพลงที่คุ้นเคยในรูปแบบที่ต่างกันออกไป
ในแง่ของเนื้อเรื่องนั้น แม้หนังจะไปสูตรสำเร็จสไตล์หนังดนตรี หนังเต้น ที่มักเริ่มต้นด้วยการตั้งทีมใหม่ ได้ทำความรู้จัก ก่อนที่จะมีดราม่าบางอย่างที่กระทบความสัมพันธ์ให้ทีมแตกหักกันไป แล้วค่อยมีรียูเนี่ยนกันใหม่ด้วยมิตรภาพที่แน่นแฟ้นขึ้นทันเวลาที่แข่งขัน ซึ่งทุกอย่างก็เรียกได้ว่าเป็นสูตรสำเร็จไม่ต่างอะไรจากหนังเรื่องอื่นๆ ในแนวนี้ แต่ด้วยความที่การเล่าในรูปแบบที่น่ารัก ตัวละครมีความน่าสนใจ ประกอบไปกับเพลงเพราะๆ ผสมความเฟมินิสท์เข้าไปอยู่หน่อย ก็เลยทำให้ Pitch Perfect เป็นหนังสูตรที่ลงตัวในทุกๆ ด้าน จนหลายๆ คนต้องยอมหลงรักมันเลย
เกร็ดจากหนังเรื่องนี้
- ความสัมพันธ์ของตัวละคร Bumper กับ Fat Amy นั้นจริงๆ แล้วไม่ได้มีอยู่ในบท แต่ด้วยความนอกบทของทั้ง Adam Devine และ Rebel Wilson นั้น เลยเกิดเป็นเคมีที่เข้ากันมากๆ ผู้สร้างเลยจับเอาทั้งคู่ให้ออกมาเป็นคู่รักคู่ฮาร่วมกันซะเลย และก็ได้ผลเป็นอย่างดีกับหนังมากๆ
- Elizabeth Banks และ John Michael Higgins ที่รับบทพิธีกรคู่หู ที่ชอบเล่นมุขเหยียดเพศนั้น ใช้เวลาถ่ายทำในหนังทั้งหมดแค่วันเดียวเท่านั้น