รวม 7 หนัง Ryan Gosling เทพบุตรหน้าหล่อต้อนรับ The Gray Man
แล้วสั่งสมผลงานเรื่อยมา จนติด 1 ใน 50 อันดับหนุ่มโสดที่ร้อนแรงที่สุดจาก People Magazine ด้วย ซึ่งจากผลงานของเขา จะเห็นได้ว่าเขาค่อนข้างเลือกงานพอสมควร เพราะงานของเขามักออกมาคะแนนดีเสมอ และได้ร่วมกับผู้กำกับดีๆ มากหน้าหลายตา จนทำให้ List เลือกมาแนะนำค่อนข้างยากมากๆ เลย เพราะส่วนตัวก็คิดว่าหนังพี่แกดีทุกเรื่องจนอยากเก็บให้หมดจริงๆ แต่สุดท้าย เพื่อรีบต้อนรับหนังเรื่องล่าสุดของเขาใน Netflix อย่าง The Gray Man แล้ว เราก็มีหนังเก่าๆ ของเขาที่อยากให้ตามเก็บมากจริงๆ ตามลิสท์นี้เลย
หากจะพูดถึงดาราขวัญใจสาวๆ อีกคนในวงการ ที่นอกจากจะมีหน้าหล่อระดับพระกาฬที่มีเสน่ห์ดึงดูดใจแล้ว ยังมีความสามารถด้านการแสดงอย่างดี และมีแต่หนังดีๆ มากมาย ก็คงต้องมีคนนึกถึงชื่อของ Ryan Thomas Gosling กันบ้าง โดยเขาเองก็เป็นคนแคนาดา ได้เข้าวงการจากการประกวดร้องเพลง จนได้ไปเรียนการแสดงต่อ และเข้าวงการมาและมีหนังดังมากขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งมาแจ้งเกิดแบบพลุแตกจากหนังที่สร้างนิยายขวัญใจสาวๆ ของ Nicholas Sparks
The Notebook (2004)
โนอาห์เด็กหนุ่มที่เป็นช่างทำงานก่อนสร้าง ได้พบกับอัลลี่สาวน้อยที่บ้านมีฐานะ แม้ว่าพวกเขาจะรักกัน แต่ทว่าบ้านของอัลลี่ก็กีดกันเพราะความไม่สมฐานะนี้ จนกระทั่งครอบครัวอัลลี่ย้ายบ้านไปทำให้ทั้งคู่ต้องแยกจากกัน แต่โนอาห์เองก็ยังคงไม่ตัดใจจาก อัลลี่ ยังคงส่งจดหมายหาเธอแม้ว่าจะโดนกีดกันอยู่เสมอ จนกระทั่งเขาก็ได้ข่าวว่า อัลลี่ กำลังจะแต่งงานกับหนุ่มที่ดีพร้อมทุกอย่าง ซึ่ง อัลลี่ เองก็ยังไม่แน่ใจ จนตัดสินใจเดินทางกลับมาที่เมืองเดิมอีกครั้งในรอบ 10 ปี
หนังหวานปนเศร้าจากนิยายของ Nicholas Spark ที่ยังคงทำออกมาเพื่อรีดน้ำตาคนดูให้ไหลพรากๆ เช่นเคย โดนในเรื่องนี้ได้พระ-นาง หล่อสวยแห่งยุคทั้ง Ryan Gosling และ Rachel McAdams กับความรักที่เต็มไปด้วยอุปสรรค ที่แม้ว่าจะรักกันมากแค่ไหน ก็เหมือนคนเขียนมันก็จงใจจะขยี้ให้คนดูตายคาจอกับความรักของทั้งคู่ นับเป็นอีกหนังรักในดวงใจของใครหลายๆ คน แม้ว่าบางคนจะมองว่าน้ำเน่าเกินเบอร์ แต่สุดท้ายก็ดราม่าแบบนี้แหละที่ได้ใจคนดูไปเต็มๆ
Blue Valentine (2011)
ดีน ผู้ชายธรรมดาที่สนุกไปกับงานรับเหมาย้ายบ้าน จนกระทั่งได้มาพบกับ ซินดี้ สาวนักศึกษาที่ตั้งใจอยากจบเป็นแพทย์ในอนาคต ในตอนนั้น ซินดี้ ตั้งใจจะเลิกกับแฟนเก่าพอดี เลยได้คบหาดูใจกับดีน จนกลายเป็นในช่วงที่ทั้งคู่รักกันมากที่สุดในช่วงชีวิต จนกระทั่ง 6 ปีผ่านไป ทั้งคู่ก็ได้มีลูกสาวด้วยกัน 1 คน แต่กลับกันคือความรักของทั้งคู่กลับช่างโรยรา และแทนที่ด้วยความไม่ค่อยพูดค่อยจา เต็มไปด้วยการทะเลาะกันแทน จนทั้งสองฝ่ายต่างเริ่มไม่แน่ใจอีกต่อไปแล้วว่า พวกเขายังจะกลับมารักกันเหมือนเดิมได้หรือไม่
Blue Valentine นั้น อาจไม่เหมาะกับคนที่มองความรักที่มีแต่ด้านสวยงาม เหมือนอย่างหนังโรแมนติก คอเมดี้ ทั่วๆ ไป แต่กลับเป็นหนังรักแบบเรียลๆ ที่มีหลายมุมมองของความรักทั้งพาร์ทความสุข และพาร์ความเศร้าแบบปนกันไป โดยช่วงที่ดูก็จะรู้สึกเจ็บหนักๆ หน่อยกับการได้เห็นความรักของสองตัวละครที่หวานปานน้ำผึ้งสลับกับพาร์ทความพังในแบบที่ต่างคนต่างจะทำลายกันได้อย่างน่าเศร้า ใครที่ชอบหนังชีวิตคู่พังๆ ก็น่าจะถูกใจเข้าไปเต็มๆ
Drive (2011)
เรื่องราวของชายหนุ่มผู้เงียบขรึมผู้มีชีวิต 2 พาร์ท เวลากลางวันเขาคือสตั๊นท์แมน และทำงานเป็นช่างซ่อมรถในอู่ แต่เมื่อถึงเวลากลางคืนเขาคือโชเฟอร์ขับรถรับจ้างพาโจรหนีตำรวจ ทว่าชีวิตเปลี่ยนไปเมื่อ ไดร์เวอร์ กลายเป็นเป้าหมายของกลุ่มคนที่อันตรายที่สุดในแอลเอ หลังไปช่วยเหลือ ไอรีน สาวข้างห้องที่ถูกทำร้าย และเมื่อถูกไล่ล่า สิ่งเดียวที่ ไดร์เวอร์ สามารถทำได้เพื่อความอยู่รอดก็คือ….ซิ่ง!
หนังที่ทำมาเพื่อคอหนังสายทริลเลอร์อาชญากรรม บทหนังที่เรียบง่ายแต่ใส่กิมมิคที่น่าสนใจ ตัวละครทำหน้าที่โชเฟอร์รับส่งของผิดและถูกกฏหมายทุกชนิดเพื่อค่าตอบแทนที่สูง หนังไม่ได้ไปเน้นฉากบู๊ให้ตัวละคร แต่ปล่อยให้พระเอกได้โชว์ทักษะการซิ่งรถที่มันส์ไม่แพ้เรื่องไหนเหมือนกัน หนังมีความอาร์ทและดิบเถื่อนมาก จนแฟนหนังมากมายยกย่องให้หนังเรื่องนี้คือผลงานที่ดีสุดของ Ryan Gosling
The Nice Guys (2016)
ในกรุงลอสแองเจลิสในปี 1977 ฮอลแลนด์ มาร์ช นักสืบพ่อลูกหนึ่ง ที่ต้องมาร่วมสืบสวนคดีร่วมกับ แจ็คสัน ฮีลี่ย์ นักสืบเลือดร้อนสายลุย ที่ต้องมาเจอกับคดีดาราหนังโป๊ที่เสียชีวิตอย่างเป็นปริศนาในอุบัติเหตุรถชน แต่กลับมีเงื่อนงำหลายๆ อย่าง รวมถึงการค้นพบความเกี่ยวข้อง ของ เอมิเลีย ลูกสาวของเจ้าหน้าที่กระทรวงยุติธรรมที่ดันเป็นพยานของคดีด้วย จนทำให้ทั้งคู่ต้องหัวปวดกับการเข้าไปพัวพันกับความยุ่งเหยิงต่างๆ รวมถึงแก๊งมาเฟียด้วย
ถ้าอยากเห็น Ryan Gosling รับบทบ้าๆ ฮาๆ กับเขาบ้าง ต้องจัดเรื่องนี้เลย เพราะหนังกำกับโดยผู้กำกับที่อัดความบ้าตัวพ่ออย่าง Shane Black เติมสีสันให้กับ Iron Man 3 มาแล้ว ซึ่งในเรื่องนี้ก็ใช้สไตล์จัดจ้าน และเอาของในยุค 70s มาใช้ได้ดีมากๆ แล้วก็ไม่คิดว่าเคมีพี่ Ryan แกจะเข้ากับเฮีย Russell Crowe ขนาดนี้ ทำให้ทั้งมุขตลกหน้าตาย หรือมุขโบ๊ะบ๊ะอย่างการโยนปืนพลาดก็ให้ผลดีอยู่ไม่น้อย ส่วนพล็อตเรื่องก็ชวนติดตาม มีความสุข ทำรวมๆ ออกมาได้ดีมาก ใครชอบหนังตำรวจคู่หูแบบติดตลกไปด้วย นี่คืออีกเรื่องที่อยากให้ดูเลย
La La Land (2017)
มีอา บาริสต้าสาวที่มีความฝันอยากจะเป็น ‘นักแสดง’ แต่ไปออดิชั่นมากี่งานก็ต้องผิดหวังอยู่ร่ำไป จนเธอได้มาเจอกับ ‘เซบาสเตียน’ นักเปียโนหนุ่มที่ฝันอยากจะเปิดไนท์คลับที่บรรเลงเพลงแจ๊ซ เมื่อตอนที่ทั้งคู่เจอกัน สถานะของพวกเขาแทบไม่ต่างกัน ต่างฝ่ายต่างกำลังวิ่งตามฝัน และ ‘ความรัก’ ก็เป็นแรงบันดาลใจให้พวกเขากล้าที่จะลงมือทำอะไรสักอย่าง อย่าง มีอา ก็ลาออกจากการเป็นบาริสต้า และลงมือเขียนบทละคร พร้อมกับแสดงนำด้วยตัวเอง ส่วน เซบาสเตียน หลังจากที่อยู่ในสถานะทางการงานที่ไม่มั่นคงมาตลอด ก็ตัดสินใจเข้าร่วมกับวงดนตรีที่กำลังป๊อบมากในปัจจุบัน โดยเขาต้องทิ้งความเป็นตัวเองไป
La La Land เป็นภาพยนตร์ที่ควรคู่แก่การดูเป็นอย่างยิ่ง เนื้อหานำวัฒนธรรมยุคเก่าและยุคใหม่มาประยุกต์เข้าไว้ด้วยกัน ทำให้เรื่องราวที่ถ่ายทอดออกมามันได้ทั้งความรัก ความฝัน ความเป็นจริง ผ่านการนำเสนอในรูปแบบมิวสิคัล คนที่ชอบหนังที่มีกลิ่นอายดนตรีแบบแจ๊สจะได้ลิ้มรสชาติที่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร หนังขับเคลื่อนไปอย่างสุนทรีย์ทุกอย่างไหลลื่นไปหมด เราคิดว่าคนชอบหนังเพลง ชอบความคลาสสิกน่าจะรักผลงานเรื่องนี้
Blade Runner 2049 (2017)
หลังจากเหตุการณ์ในภาคแรก 30 ปี เค คือเจ้าหน้าที่ตำรวจจากกรมตำรวจ LA ที่ยังคงได้รับมอบหมายให้ตามล่าเหล่า เรพลิแคนท์ หรือมนุษย์สังเคราะห์ ที่ยังหลงเหลืออยู่ และดูเหมือนว่าจะมี เรพลิแคนท์ คลอดออกมาจาก เรพลิแคนท์หญิงรายหนึ่งได้ด้วย และเมื่อสืบไปก็พบกับความเกี่ยวข้องบางอย่างในอดีต จนทำให้เขาจึงต้องออกตามหา นิค เด็คการ์ด อดีต Blade Runner ที่หายตัวไปกว่า 30 ปีด้วย
อีกหนึ่งหนังที่เป็นที่รักของคอหนังไซไฟเป็นอย่างยิ่ง แม้ว่าภาคแรกมันจะเจ๊งไม่เป็นท่าตอนออกฉาย แต่สุดท้ายดันกลายเป็นหนังในตำนานขึ้นมาซะงั้น จนปัจจุบันก็ขึ้นหิ่้งไปแล้ว แล้วภาคต่อก็ทำออกมาได้ดีเลย ทั้งคุณภาพงานภาพสวยๆ เนื้อเรื่องที่เสมือนต่อเรื่องกันมา ซึ่งด้วยความที่หนังห่างจากภาคแรกกว่า 30 ปี จึงต้องหาดารารุ่นใหม่มาเป็นตัวแทนตัวเอกอีกคน ซึ่งก็ได้ Ryan Gosling ที่เข้ากับบทนี้มากๆ ด้วยความนิ่งเท่ของเขา ก็เหมาะกับหนังไซไฟที่เน้นรายละเอียดเยอะขนาดนี้ เป็นอีกเรื่องที่ไม่ควรพลาดเลย
The Gray man (2022)
คอร์ท เจนทรี อดีตนักโทษ ที่ถูกดึงตัวให้เข้ามาเป็นนักฆ่า ภายใต้คำสั่งของทีม CIA โดยเขานั้นต้องออกล่าเหยื่อตามคำสั่ง ในรหัสประจำตัวว่า “เซียร์รา ซิกซ์” แต่กลับต้องเจอสถานการณ์พลิก เมื่อวันหนึ่งเขาต้องกลายเป็นเหยื่อเสียเอง เมื่อ ลอยด์ แฮนเซน สมาชิก CIA อีกคน ที่ดันมาออกตามล่าเขาแทน จนทำให้เขาต้องเอาชีวิตรอด และได้รับความช่วยเหลือจากสายลับหญิงอีกคนอย่าง ดานี่ มาแรนด้า เพื่อเปิดศึกสายลับแบบเต็มตัว
อีกหนังเรื่องล่าสุดที่สร้างจากนิยายชื่อดังในชื่อเดียวกัน และได้รับการแปลในชื่อไทยว่า ‘ล่องหนฆ่า’ จากปลายปากกาของ Mark Greaney ที่แม้ว่าหนังสือจะออกมาสักพักแล้ว แต่ก็เพิ่งได้มีโอกาสทำเป็นหนังโดย Netflix ซึ่งตัวนิยายเองก็ได้คำชื่นชมดีไม่แพ้กันว่าเป็น เจสัน บอร์น แบบอัดสารกระตุ้นเข้าไป ทำให้น่าจะเดือดอยู่มากๆ ซึ่ง Ryan Gosling เองก็รับบทตัวเอก ที่ต้องปะทะกับ Chris Evan ที่เรื่องนี้ขอมาเป็นวายร้าย ที่จะทำให้ความหล่อต้องปะทะกันอย่างเดือดแน่นอน