Whitney Houston: I Wanna Dance with Somebody (2023)
ชีวิตสุดมหัศจรรย์…วิทนีย์ ฮุสตัน
คะแนน
โกดังหนัง
บันเทิงมากอินไปขุ่นแม่จริงๆทุกๆเพลงมอบความสุขแบบไม่รู้ตัว ถ้าหากคุณชื่นชอบเพลงของ Whitney Houston ยังไงไม่ควรพลาดเด็ดขาด
คำคมจากภาพยนตร์
“I will sing what I want to sing.”
“ฉันจะร้องในสิ่งที่ฉันอยากจะร้อง”
เรื่องย่อ
หนังที่จะพาผู้ชมไปสัมผัสชีวิตของตำนานที่กว่าจะก้าวมาเป็นนักร้องเสียงคุณภาพเป็นตัวแม่ของวงการไม่ใช่เรื่องง่ายๆ จากเด็กสาวจากนิวเจอร์ซีย์ ที่หลงรักการร้องเพลง มีคนในครอบครัวที่เป็นนักร้องได้ ฝึกหัดร้องเพลงที่โบสถ์ไปร้องเพลงเป็นคอรัสจนได้รับการเซ็นสัญญาออกอัลบั้ม กลายเป็นนักร้องหญิงที่ทรงอิทธิพลในวงการเพลง Pop ในช่วงต้นยุค 90
หนังเรื่องนี้เหมาะกับใคร
สำหรับ Whitney Houston: I Wanna Dance with Somebody คือหนังกึ่งชีวประวัติแนวดนตรีที่น่าสนใจอีกเรื่องหนึ่ง จากเดิมที่เราเห็นร็อคสตาร์ฝั่งผู้ชาย รอบนี้เปลี่ยนแนวมาเป็นผู้หญิงตำนานไอคอนอย่าง Whitney Houston หนังเต็มอิ่มไปกับบทเพลงช่วงเวลาการเป็นศิลปินที่พีคสุดของราชินีเพลงป็อป แต่ในเวลาเดียวกันก็ได้เห็นแง่มุมชีวิตที่ร่ำรวยสุขสบายที่ก็ไม่ได้สุขเหมือนที่คนภายนอกมองกัน ถ้าหากรักเสียงเพลงของเธอ ยังไงเรื่องนี้ควรค่าแก่การชมมาก โดยเฉพาะแฟนเพลง Whitney
- สายหนังชีวประวัติ
- สายหนังที่ชอบการฟังเพลง
- สายหนังเพลง Pop
- สายหนังที่ชอบ Whitney Houston
รีวิว / สรุปเนื้อหา
1 ในหนังชีวประวัติคนดนตรีที่น่าดูเรื่องหนึ่ง แม้ว่าคะแนนคำวิจารณ์จะไม่น่าประทับใจ แต่ถ้าหากชอบฟังเพลงหลงรักในเสียงร้องของ Whitney Houston ยังไงก็ต้องดูแน่ๆ และรู้สึกตื่นเต้นที่ได้เห็นเรื่องราวตำนานดีว่าหญิงแกร่งคนนี้บนจอเงิน ภาพรวมของหนังคือการเล่าในมุมมองใหม่ๆที่คนทั่วไปไม่เคยสัมผัสมาก่อน ค่อนข้างชอบวิธีการนำเสนอของหนังที่โทนเรื่องเล่าแบบเรียบง่าย ปูพื้นเรื่องให้ผู้คนที่เกิดไม่ทันหรือไม่อินกับเพลงของเธออินไปกับเรื่องราวการใช้ชีวิตของเธอ สิ่งที่เห็นได้ชัดคือตัว Whitney อาจเป็นคนดังเป็นไอคอนมีแฟนคลับเยอะแยะ เป็นเซเลปคนดัง แต่เธอไม่ได้อินไม่ได้มีความสุขไม่ได้ใช้ชีวิตตามที่ใจต้องการ ยิ่งเมื่อดังมากก็สูญเสียตัวตนตัวเองทิ้งไป ยิ่งดูไปเรื่อยๆเรายิ่งสัมผัสได้เลยว่า ชีวิตมีเงินมีทองมากมายแค่ไหน ก็แบกรับกับปัญหาเยอะแยะเต็มไปหมด และสุดท้ายเองเธอก็แค่คนธรรมดาคนหนึ่ง ชีวิตเป็นนักร้องในสายตาคนอื่นที่มอบความสุขในการร้องเพลง แต่เธอก็แค่อยากใช้ชีวิตแบบคนทั่วไป ไม่ต้องมีอะไรเยอะแยะเว่อวังอะไรทั้งนั้น
จุดที่น่าชื่นชมคือการบาลานซ์การเลือกเพลงของ Whitney เข้ามาอยู่ในหนังในแต่ละช่วงเวลาได้ค่อนข้างเหมาะสม ทุกๆเพลงมันค่อนข้างจะทรงพลังมาก แต่ละฉากทำออกมาทำให้รู้สึกเหมือนดูคอนเสิร์ตดูโชว์ดีๆของหนังไปเลยจ้า มันให้ความรู้สึกดีเอนจอยเคลิ้มไปกับสิ่งที่หนังนำเสนอ การเรียบเรียงเพลงเพราะมาก สิ่งที่น่าประทับใจก็คือการแสดงของ Naomi Ackie ที่มีเสน่ห์ ทุกคนอาจมีคำถามว่าใครกันจะมาเป็นราชินีป็อปตัวแม่กันแน่ แต่เมื่อเป็นดาราสาวจากอังกฤษ ทำให้เธอต้องศึกษาท่าทางของ Whitney มาเต็มๆ และการแสดงก็ทำออกมาได้น่าประทับใจ ยิ่งฉากอยู่บนเวทีเป็นอะไรที่เพลินมาก เหมือนว่าหนังจะให้น้ำหนักการแสดงบทเวที ทำให้พาร์ทดราม่ามีรายละเอียดที่น้อยมากไม่ได้ลงลึกมากเท่าที่ควร นักแสดงที่น่าชื่นชมอีกคนคือ Stanley Tucci ที่มารับบทโปรดิวเซอร์เพลงคู่บุญ กลายเป็นส่วนเติมเต็มทำให้หนังมีมิติ พูดถึงความสัมพันธ์ของคนทำเพลงและนักร้องซึ่งถ่ายทอดออกมาได้เยี่ยม
จุดที่น่าเสียดายของหนังคือการเล่าเรื่องในมุมมองเดียว ไม่ได้มีความรู้สึกแปลกใหม่หรือโฟกัสอะไรเลย ทำให้มันน่าเสียดายเหมือนกันที่หนังไม่ได้ไปแตะปัญหาชีวิตที่เต็มไปด้วยความดาร์คๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องครอบครัวสามีตัวแสบ หรือชื่อเสียงที่โด่งดังเป็นไอคอนในคนในอเมริกาก็ไม่ได้แตะต้องเยอะแยะมันเลยทำให้เราเองก็รู้สึกเสียดายเหมือนกันที่หนังเลือกจะละทิ้งชีวิตด้านลบๆ และทำหนังในแนว Tribute ซะมากกว่า
เกร็ดจากหนังเรื่องนี้
- Naomi Ackie ไม่ได้ร้องเพลงจริงๆ แต่เธอลิปซิงในเรื่อง