Gattaca (1997)
ฝ่ากฏโลกพันธุกรรม
คะแนน
โกดังหนัง
หนังที่สะท้อนการเหยียดไปถึงระดับพันธุกรรม ที่ชวนปลุกใจให้เอาชนะสิ่งที่เป็น
อีกหนึ่งไซไฟชั้นดีแห่งยุค 90s ที่ชวนนึกถึงโดยเสมอมา
คำคมจากภาพยนตร์
“There is no gene for human spirit.”
“ไม่ยีนสำหรับจิตวิญญาณของมนุษย์”
เรื่องย่อ
ในโลกอนาคตที่สามารถตรวจพันธุกรรมขั้นสูงได้โดยละเอียดนั้น วินเซนต์ ชายหนุ่มที่เกิดมาพร้อมยีนที่บกพร่อง จนทำให้อายุขัยของเขาอาจต้องสิ้นสุดลงที่ 30 ปี และมีโอกาสป่วยด้วยโลกแทรกซ้อนต่างๆ ความฝันที่จะเป็นนักบินอวกาศของเขาจึงต้องจบลงด้วยสภาพร่างกายที่ไม่พร้อมมาตั้งแต่ต้น จนกระทั่งได้มาเจอกับ เจโรม หนุ่มพิการที่ไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อ จึงส่งต่อสิ่งที่เป็นอัตลักษณ์ระดับยีนของเขา อย่างเลือด และปัสสาวะ ให้กับวินเซนท์ไปทำตามความฝัน ท่ามกลางการตรวจสอบอันแสนเข้มงวด
หนังเรื่องนี้เหมาะกับใคร
สำหรับ Gattaca เนี่ย จะต้องเหมาะกับคนที่ชอบหนังแนววิทยาศาสตร์มาแน่ๆ เพราะหนังมันมีธีมหลักถึงเรื่องยีน เรื่องพันธุกรรมต่างๆ ไปจนถึงความฝันของพระเอกอย่างการเป็นนักบินอวกาศอะไรแบบนี้อิีก คนที่ชอบสายไซไฟก็คงจะต้องอินกันสุดๆ ล่ะ เพราะหนังมันมีรายละเอียดอะไรพวกนี้ที่ดีมากๆ แถมยังไม่ได้วิทยาศาสตร์แบบจ๋าจนเกินไป คนที่ไม่กีคก็ยังดูสนุก เข้าใจประเด็นสำคัญ และสร้างแรงบันดาลใจให้กับชีวิตได้ไม่แพ้กัน ใครที่ชอบหนังไซไฟที่ไม่ต้องแอคชั่นแบบ Contact, Moon อะไรแบบนี้แล้ว เรื่องนี้ก็คือต้องเก็บ
- สายหนังวิทยาศาสตร์ชั้นดี
- สายหนังไซไฟยุค 90s
รีวิว / สรุปเนื้อหา
หนังไซไฟที่พล็อตล้ำสุดๆ อีกเรื่อง ที่ดูเมื่อไรก็ยังรู้สึกว่ามันใหม่ตลอดเวลา กับประเด็นการเหยียดที่เกิดขึ้นมาโดยเสมอไม่ว่าจะยุคสมัยใด แต่เรื่องนี้มันดันเป็นการเหยียดลึกลงไปถึงระดับ DNA ซึ่งในอนาคตอันใกล้นี้ก็มีความเป็นไปได้อย่างมาก ที่เทคโนโลยีทางการแพทย์นี้ก็จะมีโอกาสเอามาใช้เพื่อตรวจหาโรค และความผิดปกติของพันธุกรรมมาได้ตั้งแต่เกิด แต่ก็ไม่รู้ว่าอนาคตสายงานต่างๆ จะมีการกำหนดกฏเกณฑ์การรับคนไปถึงระดับยีนแบบนี้หรือไม่ เพราะหนังก็สะท้อนภาพของชนชั้นล่างที่มียีนด้อยที่เลือกไม่ได้ตั้งแต่เกิด แม้จะมีความฝันที่ยิ่งใหญ่แค่ไหนก็ตาม แต่ก็ต้องถูกจำกัดด้วยสิ่งที่ติดตัวมาไม่ใช่ความสามารถแต่อย่างใด
ในส่วนถัดมาที่ดีของหนังนอกจากประเด็นชั้นเยี่ยมแล้วก็คือการดำเนินเรื่องที่แสนสนุก และใส่ความเป็นทริลเลอร์สุดระทึกให้คนดูลุ้นตาม กับตัวละคร วินเซนต์ ที่ได้รับอัตลักษณ์ใหม่ และต้องคอยตีเนียนหลบหลีกไม่ให้เจ้าหน้าที่หรือหน่วยงานรู้ อีกทั้งยังสะท้อนภาพของมนุษย์หลายคนที่มียีนส์เด่น แต่น่าเสียดายที่พวกเขากลับไม่มี ความฝัน แรงใจ หรือสิ่งที่เรียกว่า Human Spirit ฝังอยู่ในยีนส์นี้ ต่างจากวินเซนต์ เองที่มีทุกอย่างเต็มเปี่ยม ขาดก็แค่สภาวะทางร่างกายที่เขาเลือกไม่ได้เท่านั้น
แม้หนังจะวางตัวเป็นหนังแนวไซไฟจ๋าๆ ที่ไม่มีฉากแอคชั่นเลยก็ตาม แต่ตัวหนังก็ทำออกมาได้บันเทิงดูง่าย เข้าใจง่าย มีการเปรียบเปรยที่ทำออกมาได้ดี โดยที่ไม่ต้องตีความอะไร ผ่านทางบทสนทนาที่เรียบง่าย บนตัวละครที่ไม่ซับซ้อน เพราะพระเอกคือคนที่ไม่มีอะไรทั้งนั้น นอกจากการมุ่งมั่นทำตามความฝันให้เป็นจริงจากการที่ชีวิตไม่มีอะไรจะเสียอีกต่อไปแล้ว มันเลยสะท้อนกลับมายังคนดูมาอย่างดี สำหรับคนที่ไม่ได้มีต้นทุนเท่ากับคนอื่น แต่อยากประสบความสำเร็จนั้น ถ้ามันต้องเหนื่อยกว่า ต้องลงทุนมากกว่าคนอื่นแน่ๆ แต่เพื่อให้ประสบความสำเร็จเราจะยอมไปได้ไกลแค่ไหนกัน
เกร็ดจากหนังเรื่องนี้
- แม้ประเด็นจะล้ำโลก แต่ความสมจริงของหนังก็ไม่ธรรมดาเลย เพราะหนังเคยถูกโหวตโดยทีมนักวิทยาศาสตร์ NASA นี่เป็นหนัง SCI-FI ที่มีรายละเอียดที่ถูกต้องแม่นยำที่สุดเท่าที่มีมา
- Uma Thurman และ Ethan Hawke นั้น กลายมาเป็นคู่รักกันจากการถ่ายทำหนังเรื่องนี้ และเข้าพิธีวิวาห์กันในปี 1998 (เร็วแท้) จนมีลูกด้วยกัน 2 คน แต่ก็น่าเสียที่ความสัมพันธ์ทั้งคู่ก็จบลงด้วยการหย่าร้างในปี 2005 (เร็วแท้อีกแล้ว)