Bohemian Rhapsody (2018)
โบฮีเมียน แรปโซดี
คะแนน
โกดังหนัง
ชอบการเล่าเรื่องที่เหมือนกึ่งสารคดีวงที่ทำได้ทรงพลัง Rami Malek แสดงได้เจ๋งมากจนไม่กล้าละสายตา แฟนเพลงวง Queen คนรัก Freddie ไม่ควรพลาด
คำคมจากภาพยนตร์
"I'm Not The Leader Of Queen, I'm Only The Lead Singer."
"ผมไม่ใช่ผู้นำของวงควีน ผมเป็นเพียงแค่นักร้องนำ"
เรื่องย่อ
ฟารุค บัลซารา ที่เติบโตมากับครอบครัวเชื้อสายเปอร์เซียในอังกฤษที่เคร่งครัด และวันหนึ่งด้วยความบังเอิญ เขาได้กลายมาเป็นนักร้องนำที่ต่อมาเรียกตัวเองว่า ‘Queen’ พร้อมอีก 3 สมาชิกของวง ไบรอัน เมย์, โรเจอร์ เทย์เลอร์ และจอห์น ดีคอน ซึ่งฟารุคได้เปลี่ยนชื่อเป็น เฟรดดี เมอร์คูรี ในภายหลัง และพบเจอกับความสำเร็จที่ทำให้เขาได้รับยกย่องให้เป็นหนึ่งในศิลปินที่สำคัญสุดในประวัติศาสตร์
หนังเรื่องนี้เหมาะกับใคร
สำหรับ Bohemian Rhapsody คือหนังกึ่งชีวประวัติแนวดนตรีที่น่าสนใจอีกเรื่องหนึ่ง การหยิบเรื่องราวของ Freddie Mercury นักร้องนำวง Queen มาเล่าในหลากหลายแง่มุมกว่าจะเป็นร็อคสตาร์ไม่ได้ง่ายเลยกว่าจะได้รับการยอมรับ และวิธีการทำเพลงพิสูจน์ให้เห็นถึงความคิดสร้างสรรค์ที่เข้าขั้นมหัศจรรย์ หนังเรื่องนี้กลมกล่อม อาจจะไม่ได้เจาะลึกโฟกัสแง่มุมเชิงลึกมากนัก แต่การได้ฟังเพลงร็อคบนแผ่นฟิล์มไม่ใช่เรื่องง่ายๆ และหนังเรื่องนี้ทำออกมาถูกใจผู้คนมากมาย โดยเฉพาะแฟนเพลงวง Queen คนชอบฟังเพลงร็อคย้อนยุคจะได้เต็มอิ่มจุใจไปเลย
- สายหนังชีวประวัติ
- สายหนังที่ชอบการฟังเพลง
- สายหนังที่วง Queen
- สายหนังที่เป็นขาวร็อค
รีวิว / สรุปเนื้อหา
หลายๆคนอาจมองว่าหนังห่างไกลจากชีวิตจริงของ Freddie นักร้องนำวง Queen ผู้มีเสียงร้องที่ทรงพลังสะกดใจคนฟังได้อยู่หมัด แต่เรากลับรู้สึกว่าว่าถ้าจะโฟกัสเล่าเรื่องมากเกินไปประเด็นใดประเด็นหนึ่งอาจทำให้หนังหลุดโฟกัสไปได้ เราว่ามันคือช่วงเวลาที่แฟนเพลงวง Queen จะมีความสุข รวมถึงคนดูหนังทั่วไปจะอินกับเรื่องราวได้ไม่ยาก หนังทำออกมาในเชิงที่หลายๆคนอาจไม่เคยรู้มาก่อน เช่นประเด็นที่เขาเคยมีรักแรกเป็นรักทีมั่นคงกับผู้หญิงคนหนึ่งที่สวย หรือการที่เขาเสนอตัวเขาไปเป็นนักร้องนำวงด้วยซ้ำ โชว์พลังเสียงให้ Brain May ดึงมาร้องเพลง หรือแม้กระทั่งการขายรถเพื่อทำอัลบั้มเพลงเองในยุคนั้น ซึ่งเป็นการลงทุนที่เสียงมาก ไปจนถึงมุมมองการสร้างเพลงที่ไพเราะไอเดียที่แปลกมากไม่ยึดโยงแนวทางของใคร แบบที่เราได้เห็นการทดลองทำเพลงที่ไม่เหมือนนักร้องในยุคนั้นที่มีเพลงป้อนให้เรา เบื้องหลังการทำเพลง Bohemian Rhapsody ที่กว่าจะสำเร็จไม่ใช่เรื่องง่าย 6 นาทีเป็นเพลงช้านายทุนไม่เอาด้วย แต่พวกเขาก็ต่อสู้จนเพลงมันดังขึ้นมาได้ ไปจนถึงเพลงฮิตอื่นๆเช่น We Will Rock You , Another One Bite Of Dust
หนังเลือกจะพูดถึงวง Queen ให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นได้เราจึงได้เห็นมุมมองการทำงานที่ดูจะเป็นทีมเวิร์คของ 4 Freddie, Brain, John, Roger ที่เป็นส่วนประกอบที่ลงตัว ร้องนำ กีตาร์ เบส กลอง ช่วงเวลาที่ 4 คนนี้รวมตัวกันเป็นทีมเวิร์คที่ขาดกันไม่ได้ ต่างคนต่างเป็นคนสมองให้แก่กันสร้างสรรค์เพลงให้ไพเราะสร้างความประทับใจให้ผู้ชมซีนที่บันทึกเสียงทำเพลง มันคือช่วงเวลาที่พวกเขาได้พบเจอความสุขที่แท้จริงๆ ก่อนที่ชื่อเสียงผลประโยชน์จะเข้ามาทำให้มุมมองของ Freedie เปลี่ยนไป การเป็นศิลปินเดียวไม่ประสบความสำเร็จ การชักจูงจนในทางที่ผิดๆรวมถึงการค้นพบว่าเขาไม่ชอบผู้หญิงแต่ชอบผู้ชาย หรืออาการป่วยเป็นโรคเอดส์ แต่สุดท้ายเขารับรู้ว่าไม่มีใครที่รักเขาจริงนอกจากเพื่อนในวงและแฟนคนแรกในชีวิตของ ตรงนี้เองทำออกมาได้ดีสื่อสารให้เขาใจว่า ท้ายที่สุดแล้วไม่มีใครที่ดูกับเราโดยไม่เห็นแก่ผลประโยชน์นอกจากมิตรแท้ที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมา หนังเล่าประเด็นนี้ได้ดีมาก และไม่ได้ไปเตะประเด็นที่เสียๆหายๆเลย ถือว่าทีมงานให้ความเคารพมากๆ
จุดที่เราชื่นชมมากเป็นพิเศษคือการออกแบบโปรดัคชั่นหนังที่มีกลิ่นอายในยุค 80 มากๆ ว่ากันตามตรงหนังพยายามทำให้บรรยากาศใกล้เคียงมากที่สุด เสื้อผ้าหน้าผมคอสตูมนักแสดง เราชอบงานโชว์ในหนังคือแบบยอดเยี่ยมมากมันสะกดผู้ชมได้อยู่หมัด โดยเฉพาะในฉาก Live Aid อลังการมาก มันคือ Long Take ที่ต่อให้คุณไม่ใช่แฟนเพลงวง Queen ดูฉากนี้คุณจะรู้สึกสนุกสนานไปกับฉากนี้ เรายกวามดีความชอบให้แก่ Rami Malek ทีเล่นใหญ่จัดเต็มก็อปปี้ลีลาท่าทาง Freddie มาซะอย่างกับโคลนนิ่งมาเลย คือเขาเล่นดีมากจริงๆตั้งแต่ฉากแรกของหนังไปจนถึงฉากสุดท้าย ไม่แปลกใจเลยที่ได้ออสการ์ไปครอง ส่วนประเด็นอื่นๆหนังได้Brain May ตัวจริง มาช่วยออกแบบทั้งการวางแผนที่ใช้ในหนัง สอนการเล่นกีตาร์ให้นักแสดงอย่าง Gwilym Lee ซึ่งดูไปดูมาก็หน้าตาใกล้เคียงกันเลย ช่วงท้ายของหนังเราได้เห็นทีมเวิร์คของวง Queen ที่คงไม่มีใครเข้ามาแทรกกลางได้เลย พวกเขาเป็นวงที่ครบเครื่องทั้งการแสดงสดที่ละเอียดทุกเม็ด แฟนเพลงวงQueen จะเอนจอยกับหนังเรื่องนี้
เกร็ดจากหนังเรื่องนี้
- Rami Malek และ Lucy Boynton ปิ้งรักกันในกองถ่ายก่อนจะคบหาดูใจกันในชีวิตจริง
- Dexter Fletcher มากำกับหนังเรื่องนี้แทน Bryan Singer ผู้กำกับคนเก่าที่โดนไล่ออกหลังมีคดีล่วงละเมิดทางเพศ แต่เขาไม่ขอรับเครดิตผู้กำกับหนัง
- หนังใช้เวลานานถึง 7 ปีในการเตรียมงานเลือกผู้กำกับ แคสติ้งนักแสดงและทำบทหนัง เกือบเป็นโปรเจ็คอาถรรพ์ที่ไม่ได้สร้างแล้วด้วยซ้ำ
- Rami Malek ถูกเลือกมารับบท Freddie Mercury ทั้งที่ในเวลานั้นยังไม่มีชื่อเสียงโด่งดัง เพราะซีรีส์เรื่อง Mr. Robot
- Sacha Baron Cohen คือนักแสดงคนแรกที่ได้บท Freddie Mercury แต่ถอนตัวไปเพราะมุมมองการทำงานไม่ตรงกับค่ายหนัง
- มีการคัดเลือกชื่อหนังมากมาย สุดท้ายไปจบที่ Bohemian Rhapsody
- ฉากคอนเสิร์ต Live Aid ทีมงานเปิดจอวิดีโอของวง Queenในปี 1985 ไว้ประกอบในฉาก
- Rami Malek คว้าออสการ์จากสาขานำชายยอดเยี่ยมในปี 2019
- Rami Malek ต้องดูวิดีโอท่าทาง Freddie Mercury ถึง 1,500 ครั้ง ก่อนขึ้นไปถ่ายทำฉากคอนเสิร์ต Live Aid