เรื่องย่อ

ปี 1979 ได้เกิดเหตุการณ์ที่กลุ่มคนหัวรุนแรงชาวอิหร่านพร้อมอาวุธ ได้บุกยึดสถานทูตอเมริกาและใช้บุคลากรในนั้นมาเป็นตัวประกัน มีเพียงเจ้าหน้าที่ 6 คนที่หนีออกมาได้ก่อนการบุกยึด ในระหว่างนั้น พวกเขาได้รับการช่วยเหลือจากทูตแคนาดาที่ประจำอยู่ที่อิหร่าน ทางรัฐบาลของอเมริกา จึงต้องมอบหมายภารกิจให้ โทนี่ เมนเดซ เจ้าหน้าที่ซีไอเอ ในการควบคุมปฏิบัติการ Argo ที่ให้ทีมงานทุกคนปลอมตัวเป็นทีมสร้างหนังชาวอิหร่าน เพื่อเข้าไปช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ทั้ง 6 ให้ออกมาได้อย่างปลอดภััย

หนังเรื่องนี้เหมาะกับใคร

สำหรับ Argo นั้น จะเหมาะกับคอหนังที่ชื่นชอบในความสนุก ตื่นเต้นมากกว่าที่จะมองหาความสมจริง เพราะแม้ว่าหนังจะปประกาศตัวว่า Based on True Story แต่เหตุการณ์ในหนังทั้งหลายนั้นกลับฉีกไปจาก “ความจริง” อยู่มากโข จนอาจเรียกได้ว่า หนังแค่ขอยืมพล็อตจากประวัติศาสตร์ เรื่องการสร้างหนังปลอมเพื่อเข้าไปช่วยเหลือเจ้าหน้าที่เท่านั้น ส่วนเหลือก็คือการสร้างสรรค์ให้ออกมาดูสนุกเร้าใจเสียมากกว่า ซึ่งใครที่ต้องการหนังเน้นรายละเอียดพร้อมเชื่ออาจต้องข้ามไปก่อน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นใครที่ชอบหนังพล็อตดัดแปลงจากประวัติศาสตร์สายรางวัลแบบ Zero Dark Thirty หรือ Munich แล้ว Argo ก็น่าจะตอบสนองความบันเทิงให้ได้ไม่แพ้กัน

• สายหนังสร้างจากเรื่องจริง
• สายหนังภารกิจสุดเหลือเชื่อ
• สายหนังรางวัลคุณภาพดี

รีวิว / สรุปเนื้อหา

อีกผลงานสุดเฉียบในฐานะผู้กำกับอย่าง Ben Affleck ที่พาหนังตะลุยไปเข้าชิงออสการ์ แถมยังได้รางวัลใหญ่ในสาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยมในปีนั้นกลับมาด้วย จนปฏิเสธไม่ได้เลยว่าในฐานะคนทำหนังแล้ว Ben Affleck ดูจะลับฝีมือได้คมขึ้นเรื่อยๆ ให้มาถึงจุดนี้ได้ ซึ่งในปัจจัยสำคัญที่นำพาให้ Argo มาถึงจุดนี้ก็คงจะเป็นในเรื่องของบทจาก Chris Terrio ที่เอาเหตุการณ์จริงมายำใหญ่ ให้ดูกลายเป็นหนังสายลับ จารชน ชิงตัวประกันอะไรประมาณนั้น เพราะจากที่หาข้อมูลพบว่า เรื่องราวจริงๆ มันเรียบง่ายกว่านั้นเยอะ แต่ตัวหนังกลับกลายเป็นภารกิจสุดระทึกที่ชวนลุ้นจนแทบลืมหายใจ

ในแง่ของเรื่องราวมันทำออกมาได้สนุกมาก ตั้งแต่ไอเดียความบ้าของแผนที่จะเข้าไปถ่ายทำหนังแบบปลอมๆ แล้ว ซึ่งก็ไม่รู้ว่าตอนนั้นในเรื่องจริงพวกเขาคิดแผนนี้กันออกมาได้อย่างไร ซึ่งตัวหนังก็สนุกตั้งเริ่มที่มาของปัญหา การวางแผน ไปจนถึงการดำเนินการตามแผนจริง ที่แต่ละส่วนก็สร้างสีสันให้กับหนังได้เป็นอย่างดี โดยที่ไม่ทำให้คนดูรู้สึกเบื่อเลยแม้แต่ช่วงเดียว ด้วยการกำกับและการตัดต่อที่ดีเยี่ยม ทำให้โทนเรื่องที่ควรจะเครียดก็กลายเป็นความบันเทิงแบบครบรส ที่มีทั้ง ความตื่นเต้น ความฮา ความน่าเห็นใจ ต่างๆ นานา จนเหมือนเป็นอาหารที่ปรุงทุกส่วนผสมออกมาได้อร่อยเข้ากันมากๆ 

ด้วยทุกๆ ส่วนของหนังที่ปูมาดี มันก็เลยพาเอาคนดูไปสู่ไคลแม็กซ์ชวงสุดท้ายสุดระทึก ที่ทำออกมาให้ลุ้นแบบนั่งไม่ติดเก้าอี้มากๆ และบีบหัวใจแบบสุดๆ แม้ว่าเราเองจะรู้ทั้งรู้ว่าในเรื่องราวจริงๆ จะไม่ใช่แบบนี้ก็ตาม แต่เราก็ยังคงเชื่อในสื่งที่ภาพยนตร์เล่า สนุกไปกับสิ่งที่ภาพยนตร์โยนเข้ามาให้ได้เป็ยอย่างดี นับเป็นอีกหนังที่หยิบเอาเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์ มาเสริมเติมแต่งในรูปแบบของภาพยนตร์ที่ทำออกมาได้สนุก ชวนติดตามได้ตลอดทั้งเรื่องเลยจริงๆ แต่ในทางกลับกันหนังก็มีคนต่อต้านอยู่ไม่น้อย (โดยเฉพาะประเทศตัวเอง) ที่ทำให้ทหารอิหร่านในเรื่องดูกลายเป็น “ไอโง่” ในสายตาชาวโลกได้ขนาดนี้