American Sniper (2014)
สไนเปอร์มือพระกาฬ แห่งประวัติศาสตร์อเมริกา
คะแนน
โกดังหนัง
หากตัดเรื่องอวยชาติหรือเชิดชูในเรื่องการฆ่ากว่า 160 ศพออกไป นี่ก็เป็นอีกหนึ่งหนังแอคชั่นชั้นดี ที่มีในเรื่องปมตัวละครที่น่าสนใจ ของปู่คลินท์อีกเรื่องเลย
คำคมจากภาพยนตร์
“You can’t shoot what you can’t see." “คุณยิงสิ่งที่มองไม่เห็นไม่ได้”
เรื่องย่อ
เรื่องจริงของ คริส ไคล์ มือสไนเปอร์ในตำนาน จากการสังหารกลุ่มก่อการร้าย Al Qaeda ไปกว่า 160 ศพ ซึ่งวีรกรรมของเขานั้นยังเป็นการช่วยชีวิตเพื่อนทหารเอาไว้ได้มากมายจนกระทั่งทางฝั่งตรงข้ามก็ต้องหมายหัวเขาจากความสามารถนี้เหมือนกัน แม้ว่าเขาจะถูกเชิดชูในแง่ของความเป็นฮีโร่หรือตำนาน แต่มันกลับสร้างปัญหาทางจิตใจที่เริ่มก่อตัวขึ้น ทั้งความเครียดและความหวาดระแวงในสงครามที่ต้องทำการตัดสินใจอย่างหนักอยู่เสมอ ในการตัดสินฆ่าหรือไม่ฆ่าเป้าหมายที่อยู่ต่อหน้า เพราะมีทั้งเด็กและสตรีอยู่ในนั้น จนกระทั่งสิ่งเหล่านี้ก็มีผลกระทบต่อชีวิตส่วนตัว และครอบครัวของเขาเป็นอย่างมาก
หนังเรื่องนี้เหมาะกับใคร
สำหรับ American Sniper น่าจะเหมาะกับแฟนๆ หนังของปู่ Clint Eastwood ที่เน้นทำหนังพลังชายออกมาเหมือนเดิม รวมถึงมีการอวยอเมริกันตามสไตล์หนังสงครามชาตินี้อยู่บ้าง แต่หากมองข้ามสิ่งเหล่านี้ไปได้ เราก็จะพบกับความเป็นมนุษย์ และสภาพจิตใจที่ค่อยๆ แตกสลายในการทำหน้าที่นี้ของตัวละครที่ทำออกมาได้น่าสนใจ และในส่วนของฉากแอคชั่นก็ทำออกมาได้มันส์ เดือด สนุกมากๆ จนยากที่ปล่อยผ่านหนังเรื่องนี้เพียงเพราะความอวยที่ว่ามา ทำให้ใครที่ชอบหนังสงครามที่เน้นอาวุธแบบ Sniper อย่าง Shooter หรือ Enemy at the Gates แล้ว เรื่องนี้ก็ไม่น่าจะผิดหวังอย่างแน่นอน
- สายหนังสงครามตะวันออกกลาง
- สายหนังแอคชั่นสงครามยุคใหม่
- สายหนังสงครามสไนเปอร์
รีวิว / สรุปเนื้อหา
หนังของปู่ Clint Eastwood ที่ยังคงมีมาตรฐานในการทำหนังได้เป็นอย่างดี แม้ว่าจะมีการอวยชาติตามแบบฉบับหนังสงครามอเมริกัน ที่มองว่าอเมริกาเป็นฝั่งฮีโร่ ที่เข้าไปปราบเหล่าร้ายในตะวันออกกลาง จนดูเหมือนเป็นการสร้างความชอบธรรมให้กับการฆ่าของตัวละครอย่าง Chris Kyle เอง ที่คนดูก็แทบไม่ได้รู้สึกทางศีลธรรมอะไรนัก เพราะมองเป็นการกำจัดคนชั่วในโลกใบนี้ เลยทำให้ไม่แปลกใจนักที่จะมีคนแอนตี้หนังเรื่องนี้อยู่จำนวนหนึ่งในการเชิดชูความเป็นฮีโร่ท่ามกลางความโหดร้ายของสงครามที่เกิดขึ้นเช่นนี้
แต่หากมองข้ามในส่วนนี้ไปได้ เราจะเห็นเนื้อแท้ของหนัง ที่เป็นเบื้องหลังการอวย ถึงสภาพจิตใจของตัวละคร อย่าง Chris Kyle เอง จากการแสดงของนักแสดงน่าหล่อฝีมือดี อย่าง Bradley Cooper ที่แสดงออกในช่วงตลอดเวลาของเรื่องราว ว่าเขาดูไม่ได้มีความสุขกับบทบาทหน้าที่นี้สักเท่าไร เพราะกระสุนแต่ละนัดที่เขายิงออกไป แม้ว่าจะเป็นการช่วยเหลือเพื่อทหารฝั่งตัวเอง แต่ก็เป็นการสังหารคนอื่นไปด้วยเช่นกัน ซึ่งบางภารกิจก็เต็มไปด้วยการตัดสินใจที่ยากลำบาก ด้วยเหยื่อที่เป็นทั้งผู้หญิง และเด็กที่ถูกผู้ก่อการร้ายฝึกมา ก็ไม่แปลกใจนักหากสิ่งเหล่าจะกลายเป็นอะไรที่รบกวนสภาพจิตใจของเขา จนคำว่า “ตำนาน” นั้น ก็ไม่ใช่เรื่องที่น่ายินดีสำหรับตัวของเขาเอง
ในแง่ของการกำกับของ Clint Eastwood ก็เรียกได้ว่าออกแบบฉากแอคชั่นต่างๆ นานาออกมาได้ดีมากๆ โดยเฉพาะในงานภาพและเสียงที่ทำออกมาได้ดีเสมือนเข้าไปอยู่ในสมรภูมิจริงๆ จนได้รางวัลออสการ์ในสาขาตัดต่อเสียงยอดเยี่ยมมากครอง ในขณะที่อีกหลากหลายรางวัลทำได้เพียงแค่เข้าชิง ซึ่งก็นับว่าเยอะมากถึง 6 รางวัลเลยทีเดียว แต่ส่วนที่หนังน่าจะขาดไปจนทำให้ไปไม่ถึงฝั่งฝันเหมือนอย่างหนังสงครามอย่าง The Hurt Locker หรือ Zero Dark Thirty ก็คงเป็นในเรื่องของความคมของประเด็นเรื่องราวที่ดูจะด้อยกว่า 2 เรื่องที่กล่าวมา แต่กลับกันในแง่ของความบันเทิงสไตล์หนังสงครามนั้นก็เรียกได้ว่าหนังมอบมาให้อย่างเต็มอิ่มเลยทีเดียว
เกร็ดจากหนังเรื่องนี้
- ชีวิตจริงของ Chris Kyle สไนเปอร์มือฉมังนั้น เคยได้ฝึกร่วมกับ Marcus Luttrell ตัวละครจริงจากหนังอย่าง Lone Survivor ที่หน่วย S.E.A.L. และได้กลายมาเป็นเพื่อนสนิทกันจนกระทั่ง Kyle เสียชีวิตไปก่อน
- Taya Kyle ภรรยาของ Chris Kyle นั้น เคยคิดว่าอยากให้ Sandra Bullock มาเล่นเป็นเธอ เพราะรู้สึกถึงความคล้ายคลีงบางอย่าง และมองว่า Sienna Miller มีความ British เกินไป แต่หลังจากทั้งคู่ได้พบกัน และเข้าใจถึงความสัมพันธ์ของความเป็นแม่ในตัวทั้งคู่นั้น เธอก็มั่นใจอย่างมากที่ต้องเลือก Sienna มาแสดงเป็นเธอ
- Chris Kyle เองเคยกล่าวเอาไว้ว่า ถ้าวันนึงจะมีหนังที่สร้างเกี่ยวกับเขาขึ้นมา คนที่ทำมันก็ควรต้องเป็น Clint Eastwood เท่านั้น