10 Things I Hate About You (1999)
10 กฏเฮ้วเด็ดหัวใจเฮี้ยว
คะแนน
โกดังหนัง
หนังไฮสคูลน้ำดีแห่งยุค 90s ที่ถ่ายทอดความตลก น่ารัก และปมปัญหาน่าสนใจ จนหลายคนต้องยกขึ้นหิ้งเป็นหนังรักวัยรุ่นที่รักมากที่สุด
คำคมจากภาพยนตร์
“Why should I live up to other people’s expectations instead of my own?.”
“ทำไมฉันจึงต้องอยู่กับความคาดหวังของผู้คน แทนที่จะได้ทำตามความคาดหวังของตัวฉันเอง?”
เรื่องย่อ
คาเมรอน เด็กใหม่สายเนิร์ดที่ชอบกับ เบียงกา สาวที่มีพ่อสุดเคร่งครัด และยอมไม่ได้ที่จะให้เธอมีแฟนก่อนหน้าพี่สาวสุดขวางโลก อย่าง แคท ทำให้ความรักของเขาเป็นไปตามฝัน คาเมรอน จึงมีการวางแผนให้ แพทริค หนุ่มแบดบอยหัวรั้นประจำโรงเรียน เข้ามาหวังพิชิตใจแคท และให้ แคท ได้มีแฟนเป็นตัวเป็นตนกับเขาสักที แต่ความยากก็อยู่ที่ แคท เองก็เป็นสาวที่มีความเป็นตัวของตัวเองสูง และไม่ชอบทำตามใคร แต่เมื่อ แพทริก ได้ลองรู้จักตัวตนจริงๆ ของแคทแล้วก็เกิดชอบเธอขึ้นมาจริงซะงั้น
หนังเรื่องนี้เหมาะกับใคร
สำหรับ 10 Things I hate about you เหมาะกับคอหนังรอมคอมวัยรุ่นแบบสูตรสำเร็จ ที่หยอดประเด็นปัญหาวัยรุ่นเข้ามาแบบหอมปากหอมคอ เน้นความอารมณ์ดี สนุก ตลก ใสๆ และใส่ประเด็นของครอบครัวเข้ามานิดหน่อยตามสไตล์หนังรัก 90s ก็น่าจะชอบกันได้ไม่ยาก หากจะยกตัวอย่างก็น่าจะเป็นพวก Never Been Kissed, Clueless นี่แหละที่มีลักษณะคล้ายกัน ถ้าชอบเรื่องไหน ก็น่าจะชอบกันได้ทั้งเซตไปเลย
- สายหนังรักในวัยเรียน
- สายหนังรอมคอมวัยรุ่นไฮสคูล
- สายหนังชีวิตวัยรุ่น
รีวิว / สรุปเนื้อหา
จริงๆ แล้วหนังอย่าง 10 Things I hate about you ก็ไม่ใช่หนังที่ต่างจาก Coming-of-Age ที่เล่าประเด็นปมปัญหาของวัยรุ่นทั่วๆ ไปเท่าไรนัก ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของความเข้าใจความต้องการของตัวเอง การยอมรับในความคิดของคนอื่นรอบๆ ตัว (ซึ่งจะรวมไปถึง คนรัก เพื่อน หรือครอบครัว) การตัดสินใจต่างๆ กับทางเลือกในชีวิต ที่ทำให้พวกเขาได้เรียนรู้ความผิดพลาดของชีวิต อะไรแบบนี้ รวมไปถึงสูตรสำเร็จจ๋าๆ สไตล์หนังรัก ที่มีจุดปิ๊ง จุดรัก จนแตกหัก และกลับมารักกันอีกครั้งอย่างครบถ้วน ทำให้เราสามารถตัดสินเลยว่าพล็อตหนังไม่ได้ “ใหม่” ซะทีเดียว
แต่ส่วนที่สนุกของหนังคงไม่พ้นประเด็นนึงที่โดดเด่นกว่าเรื่องอื่นๆ นั่นก็คือ การตั้งคำถามว่าทุกวันนี้เราอยู่เพื่อความคาดหวังของคนอื่น หรือของตัวเราเอง เพราะตัวละครแต่ละตัวในเรื่องล้วนถูกตัดสินจากภาพลักษณ์ภายนอก และคาดหวังให้ด้านที่แสดงออกมา ตรงตามความต้องการที่สังคมกำหนดเท่านั้น แต่แท้จริงแล้วหนังเรื่องนี้ก็สะท้อนให้เราเห็นชัดๆ ว่า ภายนอกของแต่ละตัวละครล้วนแล้วแต่เป็นแค่เปลือกที่ให้คนที่ไม่รู้จักเราดีพอนั้น ตัดสินไปตามที่เห็นเท่านั้น เพราะแต่ละตัวละครในเรื่องต่างก็มีสภาพจิตใจภายในที่แตกต่างจากสิ่งที่แสดงออกมากันทั้งนั้น
เพราะแม้กระทั่งตัวเอกในเรื่องทั้งคู่นั้น แม้จะมีข่าวในด้านลบ หรือนิสัยที่เข้าใจว่าเป็นคนปิดกั้นตัวเอง ไม่น่าทำความรู้จัก แต่เมื่อคู่พระ-นางได้รู้จักกัน ก็ต่างเข้าใจตัวตนจริงๆ ของกันและกัน ลึกเกินกว่าที่เปลือกนอกแต่ละคนแสดงออกมา จึงไม่แปลกใจที่หนังจะเข้าถึงวัยรุ่นหลายๆ คนที่น่าจะอินกับประเด็นนี้ รวมไปถึงความตลก น่ารักของคู่พระ-นาง และตัวประกอบต่างๆ ที่สร้างสีสันได้เป็นอย่างดี และฉากในตำนานในสนามกีฬาที่ใช้เพลง Can’t Take My Eyes Off You ที่ Heath Ledger ใช้ง้อสาวก็เป็นอะไรที่น่ารัก น่าจดจำซะเหลือเกิน นับเป็นหนังวัยรุ่นอีกเรื่องในยุคนั้นที่ทำออกมาได้กลมกล่อมและมีประเด็นการรู้จักตัวเองอีกเรื่องที่น่าสนใจจริงๆ
เกร็ดจากหนังเรื่องนี้
- ผู้กำกับ Gil Junger เขียนบทให้กับตัวเองเล่นเป็นครูในเรื่อง ซึ่งในตอนถ่ายทำก็มีฉากนี้ แต่ตอนฉายดันเลือกที่จะตัดทิ้งไป
- ฉากที่ใช้เพลง Can’t Take My Eyes Off You ทำได้ดีจนมีโอกาสเข้าชิง Best Musical Performance จาก MTV ซะด้วย