Liar Liar (1998)
ขี้จุ๊ เทวดาฮากลิ้ง
คะแนน
โกดังหนัง
ผลงานที่น่าจดจำของ จิม แคร์รี่ ช่วงเวลาที่ท็อปฟอร์ม
นำการโกหกมาหยอกล้อได้แบบสนุกเจ็บแสบฮากันลั่นแน่นอน
หมวดหมู่ : | Comedy |
สัญชาติ : | American |
กำกับโดย : | Tom Shadyac |
ความยาว : | 1 ชั่วโมง 27 นาที |
นักแสดงนำ : | Jim Carrey |
คำคมจากภาพยนตร์
“Sometimes people need to lie. No one survives by speaking every single truth." "บางทีคนเราก็จำเป็นต้องโกหก ไม่มีใครอยู่รอดด้วยการพูดจริงไปหมด"
เรื่องย่อ
เฟลทเชอร์ รีด ทนายความหนุ่มผู้ซึ่งมองชีวิตของเขาเป็นเรื่องสนุกสนานและมองการทำงานของคดีต่างๆโดยยึดหลักการที่สำคัญว่า “ความจริงเป็นสิ่งที่สามารถเจรจาและต่อรองได้เสมอ” เขาเป็นบุคคลที่เต็มไปด้วยความลื่นไหล และการโกหกเป็นกิจวัตรประจำวันของเขา เขาเป็นคนที่สามารถทำให้ความผิดกลายเป็นความถูกต้องได้เสมอ จนกระทั่งวันเกิดของลูกชายเขาเจ้าตัวน้อยขอพรว่า “ขอแค่ 1 วันที่พ่อจะไม่พูดโกหก” ซึ่งพรนั่นเองทำให้ เฟลทเชอร์ กลายเป็นคนพูดความจริงไปเต็มๆทั้งวัน!
หนังเรื่องนี้เหมาะกับใคร
สำหรับ Liar Liar คือหนังสุดฮาอีก 1 เรื่องที่เป็นผลงานของ Jim Carrey หยิบเอาอาชีพที่ต้องโกหกแก้ต่างเพื่อเอาตัวรอดจากการทำความผิดอย่างทนายความ มาหยอกล้อกับการที่วันดีคือดีเราจะต้องไม่โกหก หนังดูย้อนแย้งแต่ภาพที่ออกมาฮาและมี Message ที่คมคาย จนบางครั้งเราก็คิดขึ้นมาได้ว่าบางคนโกหกเอาตัวรอดจนเป็นนิสัยไปแล้ว มันกลายเป็นอาชีพที่ยากจะไปปรับตัวเสียแล้ว หนังให้ความสนุกและฮามากกว่าที่เราคิดเยอะเลย
- สายหนังคอเมดี้
- สายหนังแฟนตาซี
- สายหนังแฟนคลับ Jim Carrey
รีวิว / สรุปเนื้อหา
เหมือนหนังคือภาพสะท้อนของคนที่ชอบโกหก อาชีพทนายความดูมีเงินมีทองร่ำรวย แต่บางครั้งก็ได้มาด้วยความไม่ชอบ เปลี่ยนขาวเป็นดำ เปลี่ยนผิดเป็นถูก วาทะศิลป์ หาข้อแก้ต่าง พลิกไปพลิกมาหลายครั้ง แม้จะชนะคดีผู้อื่นสร้างความเดือดร้อนมามากมาย ทนายความคนหนึ่งเผชิญหน้ากับความยากลำบาก ดันโกหกไม่ได้เพราะพรที่ลูกชายไปขอ ทำให้หน้าที่การงานใน 1 วัน เริ่มมีปัญหา และมันดันเป็นวันที่เขาต้องว่าความพอดี และต้องมานั่งอธิบายลูกตัวเองถึงสาเหตุที่ทำเพราะเงิน เพราะความอยู่รอด จุดนี้เองทำให้เรารับรู้ว่า คนที่ชอบโกหกต้องทำเพราะจำยอม บางคนมีเงื่อนไขที่รออยู่ตรงหน้า แต่สุดท้ายมันไม่ใช่เรื่องที่ดี เพราะยิ่งทำไปเรื่อยๆจะกลายเป็นความคุ้นชินและยากที่จะสลัดมันออกไป
.
นี่คือผลงานน้ำดีของ จิม แคร์รี่ ในช่วงเวลาที่เขาท็อปฟอร์มบทหนังธรรมดามากมาย แต่ที่ดึงคนให้อยู่หมัดกับเนื้อหาของหนังคือ พี่จิม นี่แหละ บุคลิกกวนๆ ผสมผสานกับคาแรกเตอร์ที่เหมาะสมในตัวหนัง ตีความให้มันบันเทิงได้และมีเนื้อหาที่ดีสื่อสารให้คนดูได้เข้าใจถึงสิ่งที่ตัวละครหลักต้องทำ จัดว่าเป็นหนังน้ำดีเรื่องหนึ่งของพี่จิมที่มอบความฮา มุกตลกขยี้อารมณ์ผู้ชมได้ถูกจังหวะ หนังย้ำเตือนว่าการปลิ้นปล้อนเอาตัวรอดไปวันๆมันแค่ชั่วครั้งชั่วคราวเท่านั้น
.
นอกจากความสนุกภายใต้การแสดงของจิม แคร์รี่ และเนื้อหาการโกหกที่มาเป็นจุดขาย อีกข้อหนึ่งที่หนังถูกเติมเต็มลงไปคือ ความสัมพันธ์ของพ่อและลูก ที่ทั้ง 2 ฝ่ายมีมุมมองมีความต้องการคนละรูปแบบกัน คนหนึ่งต้องทำ อีกคนอยากให้เลิกทำ ต่างฝ่ายไม่เข้าใจกัน พอตัวละครทั้ง 2 คนปรับความเข้าใจกัน เลยทำให้บรรยากาศของหนังขยี้อารมณ์ได้ซึ้ง ไม่มีความรู้สึกว่าหนังน่าเบื่อน่าเดินหนีตรงกันข้ามเนื้อหาคล้ายๆซิทคอม หนังดูได้ทุกเพศทุกวัย
เกร็ดจากหนังเรื่องนี้
- Judd Apatow ผู้กำกับหนังสุดฮา The 40-Year-Old Virgin เป็นคนร่างบทหนังครั้งแรก แต่ไม่ได้รับ Credit ในตอนท้ายเรื่อง
- นักแสดงนำในเวลานั้นไม่มีใครเชื่อว่าบทนี้ดีเกินไปกว่า Jim Carrey
- หนังทำรายได้ไปมากถึง $302.7 ล้านเหรียญ จากทุนสร้าง 45 ล้านเหรียญ