A Haunting In Venice (2022)

ฆาตกรรมหลอนแห่งนครเวนิส

A Haunting In Venice Poster
8.5/10

คะแนน
โกดังหนัง

ยกระดับความปังจาก 2 ภาคแรก พลิกโฉมหน้าไปเลย ใช้ความหลอนความเฮี้ยน ธีมสยองขวัญผสมผสานการไขคดีที่วางโครงเรื่องได้อย่างแยบยล กลายเป็นหนังที่มีรสชาติที่แปลกใหม่ไปเรียบร้อย

หมวดหมู่ : Crime Mystery
สัญชาติ : American
กำกับโดย : Kenneth Branagh
ความยาว : 1 ชั่วโมง 47 นาที
นักแสดงนำ : Kenneth Branagh, Michelle Yeoh,

คำคมจากภาพยนตร์

"We cannot hide from our ghosts, whether they are real or not."
"เราไม่สามารถซ่อนตัวจากผีของเราได้ไม่ว่าผีจะมีจริงหรือไม่ก็ตาม"

เรื่องย่อ

หลังประกาศไม่รับทำคดี และขอหันหลังไปใช้ชีวิตแบบเงียบสงบ Hercule Poirot ก็ถูกตามตัวกลับมาไขคดี ทั้งที่เขากำลังพักผ่อนที่เมือง Venice และถูกเชิญให้ไปร่วมพิธีกรรมติดต่อวิญญาณที่จะเกิดขึ้นในพื้นที่สุดหลอนแห่งหนึ่งโดยไม่เต็มใจ เมื่อกลายเป็นแขกเขาได้ร่วมพิธีแต่มันดันกลายเป็นคดีฆาตกรรมปริศนา เมื่อเจ้าแม่ร่างทรงถูกฆ่าตาย และคนร่วมพิธีต่างพากันพูดถึงวิญญาณคนตายสุดเฮี้ยน ซึ่งทำให้ยอดนักสืบต้องหาความจริงใครกันแน่ที่อยู่เบื้องหลังคดีฆาตกรรมในครั้งนี้

หนังเรื่องนี้เหมาะกับใคร

สำหรับ A Haunting in Venice เป็นหนังฆาตกรรมที่แฟนหนังไม่ควรพลาดเด็ดขาด และดูเหมือนว่าการมีอยู่ของ Knives Out จะได้สร้างมาตรฐานใหม่ในการทำหนังแนวสืบสวนสอบสวนไปเรียบร้อยแล้ว ตลกร้าย เสียดสีประชดประชันสังคม มีลูกเล่นที่เหนือชั้น ไม่ได้ไขคดีแบบตึงเครียดแบบโทนหนังยุคเก่าอีกต่อไป และกลายเป็นว่าทีมผู้สร้างต้องปรับปรุงพล็อตหนังกลยุทธ์ใหม่ๆตามไปด้วย และแน่นอนว่าภาค 3 ยอดนักสืบ Kenneth Branagh ก็มีพัฒนาการที่ดีมากๆ ที่บทหนังหลอกล่อโยนปริศนามากมายตลอดเวลาพร้อมจะสรรหาลูกเล่นใหม่ๆโยนเข้าไปในหนัง กลายเป็นงานที่ได้เห็น นักสืบ Hercule Poirot ไขคดีที่ดีขึ้นกว่าเดิม เรียกว่าปังกว่า 2 ภาคแรกอย่างชัดเจน

รีวิว / สรุปเนื้อหา

การกลับมารอบที่ 3 ของยอดนักสืบ Hercule Poirot ที่ต้องเรียกว่าได้ยกระดับไปไกลกว่าเดิม หนังแทบจะละทิ้งความน่าเบื่อซ้ำซากจำเจแบบเดิมทิ้งไป หนังมาด้วยแนวทางใหม่หยิบความหลอน เรื่องเฮี้ยนความสยองขวัญเรื่องคนตาย เรื่องอาถรรพ์ที่ยังไม่มีใครกล้าแตะ มาผสมผสานกับการไขคดีปริศนาฆาตกรรม ผ่านตัวละครหลักที่ไม่เชื่ออะไรกับเรื่องพวกนี้ เมื่อนำสิ่งที่อยู่ขั้วตรงข้ามมาผสมผสานร่วมกัน ผ่านการสืบคดีแน่นอนว่ามันแปลกใหม่ เมื่อมีธีมผี มีวิญญาณ มีร่างทรงเจ้าเข้ามา บรรยากาศหนังก็ชวนหลอนทำให้องค์ประกอบมันค่อยๆมืดมน จนทำให้คนดูเริ่มคิดตามว่า Poirot อาจเจอผีจริงๆก็ได้ การที่หนังปรับแนวทางใหม่ๆ เรียกว่าน่าชื่นชม มันทำให้บทหนังมีความกลมกล่อมขึ้นทันทีเรียนรู้จากความผิดพลาดเดิม เมื่อเทียบจาก 2 ภาคแรก ที่ทำให้คนดูบางคนชวนหลับ เรื่องนี้ไม่ยิดเยื้อทั้งสิ้น ไขคดีสืบหาเบาะแสที่มาที่ไปแบบมีขั้นตอน คนร้ายคือคนกลุ่มที่อยู่ในบ้านสุดเฮี้ยน และเปิดปูมหลังของตัวละครแบบละเอียดโยงใยเข้ากับผู้ตายได้อย่างสนุกน่าติดตาม หนังเองไม่ซับซ้อนเกินไปจนคนดูตามไม่ทัน และที่สำคัญเมื่อหนังเลือกจะหยิบบทประพันธ์ของ Agatha Christie ที่ไม่เคยสร้างเป็นหนังมาก่อน มันเลยเป็นข้อดีมากๆที่จะไม่ถูกนำไปเปรียบเทียบกับหนังเวอร์ชั่นเก่าอีกตั้งหาก

นอกจากการไขคดี ความหลอน เรื่องเฮี้ยน บรรยากาศในหนังที่น่าหวาดกลัว องค์ประกอบที่น่าสนใจของหนังคือโปรดักชั่นหนังเรื่องนี้ การเล่าเรื่องผ่านเมือง Venice เมืองที่สวยงามอยู่ใจกลางแม่น้ำ การจัดแสงการจัดไฟของหนังมันให้ความรู้สึกมัวหม่อง ตามด้วยการเทฝนกระหน่ำ มีคลื่นพายุซัดเข้ามาอีก กลายเป็นเมืองที่น่ากลัวตามธีมของหนังในภาคนี้ไปด้วย ซึ่งทีมผู้สร้างชุดนี้เก่งกาจในเรื่องการทำภาพ การเนรมิตรเมืองให้มีความไม่ชอบมาพากล แบบที่เคยสร้างหนังจากหนัง 2 ภาคแรกที่ปรับทุกอย่างให้เป็นโทนย้อนยุคเน้นความสวยงาม ภาคนี้เลยสร้างบรรยากาศที่แปลกใหม่ จนทำให้เราได้เห็นภาพของนักสืบ Poirot ที่มีความอ่อนแออ่อนไหว หวาดกลัว เผชิญหน้ากับสิ่งลี้ลับ จนทำให้ตัวละครเองก็เกิดความลังเลในจิตใจและกำลังจะเจอผีจริงๆ มันเป็นการเพิ่มมิติให้ตัวละครนี้ไม่ได้เก่งฉลาดแต่อย่างใด แต่ยังทำให้รู้สึกว่านักสืบคนนี้ก็แค่คนธรรมดาคนหนึ่ง

บทหนังเองก็ร้อยเรียงเรื่องราวผ่านนักแสดงได้เป็นธรรมชาติมากๆ Kenneth Branagh ที่ภาคนี้ดูจะไม่ได้เน้นอวยตัวเองมากจนเกินไป ได้สัมผัสมุมมองใหม่ๆแบบที่ 2 ภาคก่อนหน้านี้ไม่เคยเป็นมาก่อน Leopold Ferrier นักแสดงเด็กที่โผล่มาแต่ละฉากก็มาขโมยซีน เรียกร้อยยิ้มเสียงหัวเราะอยู่ตลอดเวลาทั้งที่หนังมันเต็มไปด้วยจังหวะอารมณ์ที่โคตรน่ากลัว บรรยากาศตึงเครียดด้วยซ้ำ พวกตัวประกอบที่มาสมทบหนังเรื่องนี้ช่วยทำให้บรรยากาศหนังเต็มไปด้วยความไม่น่าไว้วางใจแบบทั้งสิ้น ทั้ง Jamie Dornan คุณหมอที่กุมความลับอะไรบ้างอย่าง, Kelly Reilly คุณแม่เจ้าของบ้าน, Michelle Yeoh คนทรงเจ้าที่มองยังไงก็รู้ว่าเป็นมิจฉาชีพหลอกไถ่เงินไปวันๆ, Tina Fey เพื่อนซี้ของ Poirot ที่อยู่ดีๆก็ชักนำนักสืบเข้ามาร่วมพิธีกรรมเฮี้ยนๆ ค่อนข้างชอบบทสรุปของหนังที่จบได้สวยงาม มีพื้นที่ให้กลุ่มตัวประกอบได้ปล่อยของกันพอสมควร

เกร็ดจากหนังเรื่องนี้

  • นี่คือครั้งแรกของนิยาย Hallowe'en Party ที่ถูกนำมาดัดแปลงเป็นภาพยนตร์
  • Michelle Yeoh ยอมถอนตัวจากหนัง The Electric State ของ Netflix เพื่อมาแสดงเรื่องนี้