Oppenheimer (2023)
ออปเพนไฮเมอร์
คะแนน
โกดังหนัง
นี่คืองานที่เข้าขั้นมาสเตอร์พีชของ Nolan เป็นงาน คุณภาพตลอด 3 ชั่วโมงเล่าเรื่องได้ดุเดือดยิ่งกว่าหนังแอ็คชั่นจะคนดูไม่กล้าละสายตาไปจากที่ไหน และการในชมเรื่องนี้ในโรงจอ IMAX คือประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมที่หาจากการดูหนังที่บ้านไม่ได้อีกแล้ว
คำคมจากภาพยนตร์
“Any man whose errors take ten years to correct is quite a man.”
“ใครก็ตามที่ใช้เวลานับสิบปีเพื่อแก้ไขข้อผิดพลาดของตัวเอง นั่นแหละคือยอดคน”
เรื่องย่อ
เรื่องราวของนักวิทยาศาสตร์ J. Robert Oppenheimer ชายผู้คิดค้นระเบิดปรมาณู ที่เข้าไปสำรวจด้วยความปราดเปรื่องของตัวเขา เมื่อเขาถูกขอความช่วยเหลือให้หาหนทางยุติสงครามโลกครั้งที่สอง
หนังเรื่องนี้เหมาะกับใคร
สำหรับ Oppenheimer นั้น น่าจะกลายเป็นหนังคุณภาพที่แฟนหนังสายรางวัลหรือคนที่ชื่นชอบงานของ Christopher Nolan บทหนังเล่าเรื่อง 3 ได้น่าสนใจเกริ่นนำ ที่มาที่ไปของตัว J Robert Oppenheimer ตามด้วยเรื่องราวของระเบิดปรมาณู และการต่อสู้เพื่อให้ตัวเองเป็นผู้บริสุทธิ์ และความรู้สึกผิดเพราะสร้างอาวุธทำลายคนอื่นมันทำให้ผู้ชมได้เห็นความละเอียดอ่อนมิติของตัวละครที่ซับซ้อน มันคือการแสดงที่ตรึงเราให้อยู่กับหน้าจอได้ตลอดสามชั่วโมงโดยไม่มีช่วงไหนที่รู้สึกว่าน่าเบื่อเลย นี่คืองาน Masterpierce ของ Nolan ที่อาจดีพอไปถึงออสการ์ 2024
- สายหนัง Nolan
- สายหนังซับซ้อนซ่อนเงื่อน
- สายหนังรางวัล
รีวิว / สรุปเนื้อหา
งานของ Nolan ชอบเล่าเรื่องสลับซับซ้อนใส่ความคลุมเคลือแทบทุกเรื่อง แต่ถึงอย่างนั้นเรื่องนี้ดูได้แบบสบายๆไม่ต้องมีอะไรที่ซีเรียส มันค่อนข้างน่าตื่นเต้นที่ Nolan เลือกจะฉีกกรอบตัวเองทำหนังชีวประวัติบุคคลสำคัญ ทำหนังที่ไม่ได้ซ้ำรอยเดิม แถมยังเป็นหนังการเมืองที่ดูสนุกดูโคตรมันส์ผ่านการเฉือดเฉือนของกลุ่มนักแสดงชั้นนำมากมาย Nolan พิสูจน์ให้เห็นว่าหนังที่ดี นอกจากการเขียนบทวิธีการเล่าเรื่อง ที่ทำให้คนดูสนุกจนไม่กล้าละสายตาไปไหน แต่มันคือการต่อสู้ของตัวละครที่ต้องสู้และเผชิญหน้ากับปัญหามากมาย ตัวละครอย่าง Oppenheimer เป็นคนเก่งเป็นนักคิด แต่เจออันตรายมากกวนใจ ทั้งเรื่องจิตใจที่อ่อนแออ่อนไหวง่าย เรื่องครอบครัว เรื่องการเมืองที่เขาต้องมาต่อสู้กับพวกคนมีอิทธิพลที่พยายามใส่ร้ายให้เขากลายเป็นคนชั่วทั้งที่สร้างชื่อเสียงให้ประเทศชาติ หนังสามารถทำให้เราเข้าใจห้วงอารมณ์ของตัวละครหลัก หนังไม่ได้ขายเรื่องสร้างระเบิดแบบที่หลายคนเข้าใจ แต่กลับตีความปัญหาของเขาที่ดันมารู้สึกผิดชอบชั่วดีกับสิ่งที่เขาได้กระทำลงระเบิดที่สร้างบาดแผลให้คนอื่น พาร์ทดราม่าคือหัวใจหลักของเรื่องราวทั้งหมด
การได้สัมผัสหนังเรื่องนี้ในโรง IMAX คือประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยม Nolan สร้างหนังสเกลแบบนี้เพื่อมาฉายโรงโดยเฉพาะแน่นอนว่า บทหนังงานของเขา บวกกับเทคนิคการเล่าเรื่องของ Hoyte Van Hoytema ช่างภาพคู่ใจคนใหม่ของ Nolan ใช้ภาพขาวดำที่ถ่ายทำออกมาได้งดงามเพื่อย้อนเรื่องราวในอดีตที่ต้องต่อสู้กับเกมการเมืองที่กล่าวหาเขากลายเป็นหนังโทษ พาร์ทอดีตที่ใช้ขาวดำทำให้คนดูได้ซึมซับเรื่องราวได้เต็ม แถมการตัดต่อหนังที่ตัดภาพสลับกับเหตุการณ์ปจจุบันทำได้ไม่เสียอรรถรส แน่นอนว่า ถ้าไปดูโรงธรรมดาคุณภาพงานต่างกันลิบลับ ฉากต่างๆซีนระเบิดซาวด์ดังตูมตาม เหมือนพาเราเข้าไปอยู่ในการทดลอง เพลงสกอร์หนังที่ใส่เข้ามาในแต่ละฉากบิ้วอารมณ์ สร้างอารมณ์ร่วมได้ทันที ทำให้เห็นถึงพฤติกรรมตัวละครแบบชัดๆใกล้ชิดโดยเฉพาะฉากโคลสอัพตัวละครอย่าง Cillian Murphy ที่โดดเด่น
นักแสดงคนไม่มีใครโดดเด่นเท่ากับ Cillian Murphy นักแสดงคู่บุญของ Nolan ที่รอเวลาที่ใช่บทที่ใช่สักที การแสดงเป็น Oppenheimer ที่ต้องงดข้าวกินถั่วอัลมอนด์ สูบบุหรี่ปลอม ทำร่างกายให้ผอม ให้ใกล้เคียงกับตัวละครเป็นอะไรที่ยอดเยี่ยมมากแล้ว นี่ยังไม่รวมถึงการแสดงที่สลับซับซ้อนหลากหลายอารมณ์ หักหลังคนรักแอบมีชู้ หรือการโดนตรวจสอบโดนสอบสวนว่าเป็นคนเลวเพราะถูกกล่าวหาใส่ความเท็จที่ต้องต่อสู้เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ หรือปัญหาชีวิตครอบครัว นี่ยังไม่รวมถึงรอยร้าวปมในใจที่เกิดความรู้สึกผิดกับการสร้างระเบิดปรมาณู เรียกว่าพระเอกไอริชตีความออกมาได้กลมเกลือนตอบแทนความต้องการของ Nolan, อีกคนที่ต้องชื่นชมคือ Robert Downey Jr. สลัดภาพเพลย์บอยจาก Iron Man และกระโดดกลายมาเป็นนักการเมืองที่สร้างบาดแผลให้ Oppenheimer เรียกว่าหนังเรื่องนี้พี่เขาลบภาพจำเดิมๆทิ้งไป, นักแสดงอีก 2 คนที่ชื่นชอบคือ Florence Pugh หญิงสาวที่สร้างรอยร้าวปมในใจให้พระเอก เรียกว่าสาวเมืองผู้ดีตีบทแตกกระจาย อีกคนคือ Josh Hartnett การกลับมาเล่นหนังใหญ่ในรอบเกือบ 20 ปี ไม่ทำให้ Nolan ผิดหวัง เป็นตัวละครสมทบซัพพอร์ท Cillian Murphy ได้ดีมากๆ
เกร็ดจากหนังเรื่องนี้
- เพราะมีดวงตาสีฟ้า ทำให้ Cillian Murphy ได้บทนำ Oppenheimer โดยไม่ต้องแคสติ้งแข่งขันกับนักแสดงคนอื่น
- Robert Pattinson เป็นแรงบัลดาลใจให้ Christopher Nolan สร้างหนังเรื่องนี้
- Christopher Nolan ชื่นชอบ Cillian Murphy มาจากหนัง 28 Days Later
- Cillian Murphy รู้สึกอึดอัด ถ่ายฉากเซ็กซ์ใน Oppenheimer กับ Florence Pugh ทั้งที่เป็นซีนสำคัญมากๆ เพราะเขาไม่ชอบอะไรแบบนี้
- Robert Downey Jr. และ Matt Damon ยอมลดค่าตัวเหลือ 4 ล้านเหรียญ เพื่อทำงานกับ Christopher Nolan
- Christopher Nolan ยืนยัน Oppenheimer ไม่มีการใช้ CGI แม้แต่ซีนเดียว งานชิ้นนี้ทุ่มเทสุดตัวเพื่อให้ได้ภาพที่จริงจังไปเลย
- Robert Downey Jr. บอกว่า Oppenheimer คืองานแสดงที่ดีสุดในชีวิตนักแสดง
- Cillian Murphy ประกาศว่าจะไม่รับงานแสดงถ้าหากต้องสูบบุหรี่อีก เพราะเขาเบื้อแล้ว เพราะมันทำร้ายร่างกาย
- Oppenheimer ใช้เวลาถ่ายทำ 57 วัน
- Cillian Murphy กินแต่ถั๋วอัลมอนต์ และลดน้ำหนักไป 57 กิโลกรัม
- Robert Downey Jr. นึกว่า Christopher Nolan มาล้อเล่นตอนแรกที่เสนอบทหนัง Oppenheimer
- Matt Damon อยากพักงานแสดงจนกระทั่ง Christopher Nolan เสนอบทหนังเรื่องนี้มาให้
- ฉากเซ็กซ์ Cillian Murphy กับ Florence Pugh อินเดียและชาติตะวันออกกลางต้องใส่ CGI ในฉากนั้น