ซึ่งส่วนตัวในฐานะแฟน Harry Potter คนหนึ่งทั้งในฉบับหนังสือนิยายและภาพยนตร์ ก็ต้องบอกว่าระหว่างดูไปก็แอบน้ำตาซึมกันไป เหมือนเราเองก็เป็นส่วนหนึ่งที่ผูกพันกับเรื่องราวและบรรดานักแสดงมาโดยตลอดเหมือนกัน จนนับเป็นงานรียูเนี่ยนที่รู้สึกอิ่มเอมมากๆ วันนี้ก็เลยอยากจะมาเล่าถึงโมเมนท์ดีๆ ใน Harry Potter 20th Anniversary: Return to Hogwarts ฉบับพิเศษนี้ที่หาดูได้ทาง HBO เท่านั้น ลองมาดูกันว่าจะมีซีนไหนบ้าง และจะมีใครคิดตรงกับเราบ้างไหม!

มิตรภาพ 3 นักแสดงหลัก นับตั้งแต่วันแรก

สำหรับคนที่อายุอานามคราวเดียวกับนักแสดงหลักนั้น ก็คงจะมีความรู้สึกเหมือนได้เติบโตมาด้วยกันพร้อมๆ กับพวกเขา ทำให้การที่ตัวละครกลับมานั่งพูดคุยกันเพื่อเล่าความหลังก็เป็นอะไรที่ชวนอบอุ่นใจเหลือเกิน กับการไล่เรียงในวันที่พวกเขาแคสตัว ได้เจอกันครั้งแรก ได้เห็นเคมีของการทดสอบหน้ากล้องร่วมกันว่าพวกเขามีความเข้ากันดีและเหมาะสมกับบทบาทมากขนาดไหน ตลอดจนการที่ได้เห็นพวกเขาค่อยๆ เติบโต ได้เห็นความว้าวุ่นในใจไม่ต่างจากคนในวัยรุ่นทั่วไป อย่างที่เราได้รู้ว่า Emma Watson เองก็เคยเกือบบอกลาบทนี้ไปซะแล้ว

ทำให้สิ่งที่ต่างๆ ที่พวกเขาได้ผ่านมาร่วมกันนั้นก็เป็นมิตรภาพที่แสนอบอุ่น เป็นเหมือนพี่น้องที่อยู่ด้วยกันมานาน โดยเฉพาะ Emma Watson เองที่ดูจะอินกับความสัมพันธ์นี้มากกว่าใครอื่น การมานั่งอัพเดทชีวิตกันแบบเรียบง่าย การพูดถึงความผูกพันของพวกเขา และเล่าถึงประสบการณ์ต่างๆ ในอดีตก็เป็นอะไรที่สวยงาม และชวนน้ำตาซึมตามกันได้ไม่ยากเลย

ปั๊ปปี้เลิฟของ Emma Watson และ Tom Felton

ฉากที่ได้เห็น Emma และ Tom กลับมาเจอกันอีกครั้ง เชื่อว่าหลายๆ คนน่าจะเห็นสายสัมพันธ์บางอย่างของดาราสองคนนี้อยู่ และยิ่งเมื่อได้ฟัง Emma เล่าถึงการแอบปิ๊ง Tom ในกองถ่ายก็ดูเป็นอะไรที่น่ารักมาก เช่นแบบวันไหนที่เห็นชื่อของ Tom มาที่กองถ่ายนั้น ก็จะทำให้ใจเธอพองโต และอยากที่จะทำงานขึ้นมาในทันที ยิ่งตอนเธอสารภาพว่าชอบเขามากแค่ไหนยิ่งชวนเขิลแทน ส่วนตา Tom ก็ได้แต่บอกว่ามอง Emma เป็นเหมือนน้องสาวคนนึงมาโดยตลอด (ฮาาาาา) แต่เราก็เห็นทั้งคู่ต่างแอบปลื้มและให้เกียรติกันในฐานะนักแสดงได้เป็นอย่างดีเลย

การบ้านจากผู้กำกับ Alfonso ของ Rupert Grint

ซีนที่ฮาที่สุด และทำให้เรารู้สึกว่า เออ Rupert Grint นี่เขาก็คือ Ron Weasley จริงๆ นั่นแหละ ก็ฉากที่เล่าถึงการถ่ายทำในภาค 3 The Prisoner of Azkaban ที่มีการเปลี่ยนตัวผู้กำกับอย่าง Chris Columbus มาเป็น Alfonso Cuarón ที่ทำให้เราเห็นการเปลี่ยนแปลงของการเติบโตตัวละคร และโทนที่จริงจังมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งการเปลี่ยนคนกำกับก็นำมาสู่การเปลี่ยนวิธีการทำงาน โดย Alfonso ก็ได้ให้นักแสดงหลักทั้ง 3 คนต่างไปทำการบ้านด้วยการเขียนบรรยายถึงตัวละครตัวเองมา ว่าพวกเขามีความคิดอย่างไร 

แน่นอนว่า Emma Watson ที่ขยันเหมือน Hermione ส่งมาให้แบบหลายหน้า ส่วน Daniel Radcliffe ก็ส่งมาให้บางส่วน ในขณะ Rupert Grint กลับไม่มีอะไรมาส่งเลย โดยอ้างว่าถ้าเป็น Ron ก็คงทำอะไรแบบนี้แหละ และนี่แหละก็คือสิ่งที่ Ron เป็น มันก็เลยเป็นฉากชวนขำที่ทำให้เรารู้สึกว่าช่างแคสมานักแสดงมาได้ตรงบทกันเสียจริง

Daniel Radcliffe จับเข่าคุย กับทีมงานที่ผูกพัน

ในตอนพิเศษนี้ เราจะได้เห็นดาราอย่าง Daniel Radcliffe ไปนั่งคุยกับดาราหลายคนมากๆ และมีหลายโมเมนท์ที่เรารู้สึกว่าบทสนทนาของพวกเขานั้นดูน่ารัก และเต็มไปด้วยความให้เกียรติกันสุดๆ ในฐานะรุ่นน้องที่เพิ่งเข้าวงการกับรุ่นใหญ่ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นตอนที่คุยกับ Gary Oldman ที่เล่าถึงประสบการณ์ความผูกพันกันตามบทบาทของ Harry Potter กับ Sirius Black ก็ทำออกมาได้ดี จนรู้สึกว่านอกจอเขาทั้งคู่ก็ยังให้ความรู้สึกแบบนั้นกับเราได้ 

แต่โมเมนท์ที่น่าประหลาดใจกลับเป็นตอนที่ Daniel คุยกับ Helena Bonham Carter ที่รับบทเป็นวายร้ายตัวแสบในเรื่องอย่าง Bellatrix Lestrange ที่นอกจอเธอดูเคมีเข้ากับ Deniel ดีมากๆ รวมถึงการเปิดจดหมายรักแบบลับๆ ที่ Daniel ส่งให้เธอถึงความปลาบปลื้ม และความชื่นชอบหลงใหลในตัวนักแสดงคนนี้จริง ก็เป็นอะไรที่ชวนอมยิ้ม และการได้เห็นทั้งสองคนต่างวัยมานั่งคุยกันด้วยโมเมนท์แบบน่ารักกุ๊กกิ๊กก็เป็นอะไรที่น่ารักดีแท้ ต่างกับในภาพยนตร์ที่เป็นศัตรูคนละขั้วกันโดยสิ้นเชิง

ฉากจูบที่รอคอย ของ Ron และ Hermionie

ฉากที่หลายคนรอคอย (มั้ง!?!) แต่กลับเป็นฉากที่ลำบากใจสุดๆ ของนักแสดง ด้วยความที่ทั้ง Rupert และ Emma ต่างก็เป็นเพื่อนกันมานาน ซึ่งทั้งคู่ก็มีความสัมพันธ์แบบเพื่อนสนิทที่เหมือนกันจะเป็นพี่น้องกันไปแล้ว ฉากที่ดูเหมือนจะง่ายๆ จะจูบกันซีนเดียวก็กลับกลายเป็นงานมหาหินที่สุดในกองถ่าย เพราะมันคงให้ความรู้สึกเหมือนการจูบกันอย่างโรแมนติคกับคนในครอบครัวตัวเอง ทำให้มันเป็นซีนฮาๆ ที่ทั้งคู่มาเล่าถึงฉากนี้ด้วยกัน พร้อมกับได้เห็นเบื้องหลังการถ่ายทำที่นักแสดงทั้งคู่เหวอ และตึงเครียดกันไปเลยเมื่อผู้กำกับบอกถึงฉากที่ต้องถ่ายทำให้วันนั้น ก็ดูเป็นอะไรที่ชวนเห็นใจและน่ารักมากๆ จริงๆ

การร่ำลาด้วยน้ำตาในกองถ่ายภาคสุดท้าย

การเดินทางของภาพยนตร์ Harry Potter นั้น นับเป็นการเดินทางที่ยาวนานกว่า 10 ปี นับตั้งแต่ปี 2001 ของภาคแรก มาจนถึงปี 2011 ในภาคสุดท้าย ซึ่งก็นับว่าเป็น 1 ทศวรรษได้เลย ทำให้ไม่แปลกที่เหล่านักแสดงและทีมงานจะเกิดความผูกพันกันมากขนาดนี้ เพราะมันแทบจะเป็นครึ่งชีวิตของพวกเขาที่ได้เติบโตมา เป็นทั้งช่วงเวลาที่พวกเขาเป็นเด็ก เป็นวัยรุ่น ไปจนถึงตอนที่เป็นผู้ใหญ่แล้ว ทำให้ความสัมพันธ์ในการทำงานของพวกเขาทุกคนย่อมมีความแน่นแฟ้นกันแน่นอน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับทีมงานชุดแรกๆ ที่อยู่ด้วยกันมา

ทำให้ฟุตเทจในตอนการถ่ายทำวันสุดท้ายนั้น จึงเต็มไปด้วยน้ำตา และความรู้สึกที่เปี่ยมล้นมากๆ ของทุกคน เราได้เห็นนักแสดงหลายๆ คน ปล่อยโฮกันเต็มที่ในช่วงเวลาสุดท้ายทีี่ปิดกล้อง และการโผเข้ากอดกันของทุกคน เป็นฉากสุดประทับใจที่ชวนเรียกน้ำตาคนดูไปด้วย เมื่อพิจารณาถึงความสัมพันธ์อันยาวนานของพวกเขาในการปิดตำนานหนังชุดนี้ลงได้อย่างสวยงาม แต่ส่วนตัวก็หวังที่จะอยากเห็น ภาค The Cursed Child มาด้วยนักแสดงชุดเดิมอยู่ดี